ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองร้อน และฝนตกอยู่บ่อยครั้ง เพราะเหตุนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนของบ้าน อาคาร สถานที่ หรือแม้แต่ร้านรถเข็นข้างทางเราก็มักจะเห็น “กันสาดผ้าใบ” ติดอยู่แทบจะทุกพื้นที่ ด้วยคุณสมบัติของวัสดุผ้าใบที่มีความยืดหยุ่นสูง เปิด-ปิดใช้งานได้ น้ำหนักเบา ไม่มีเสียงดังเวลาฝนตก มีชนิด-สีผ้าใบให้เลือกตามความต้องการที่หลากหลาย แถมยังสกรีนลาย หรือโล้โก้ได้ ทำให้ตอบโจทย์ทุกการออกแบบของบ้าน หรือ สถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว

แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า “กันสาดผ้าใบ” นั้นไม่ได้มีแต่รูปแบบชักรอกตามที่เห็นกันทั่วไป แต่มีรูปแบบอื่นให้เลือกอีกมากมาย ซึ่งในบทความนี้ แสงทองผ้าใบกันสาดจะมาเจาะลึกให้รู้กันว่ามีรูปแบบไหนบ้าง ข้อดี-ข้อเสีย คุณสมบัติเด่น รวมถึงชนิดผ้าที่เหมาะสม เรียกว่าถ้าอ่านบทความนี้จบ จะหายสงสัยไม่ต้องไปตั้งกระทู้พันทิปถามกันอีกต่อไป

1. กันสาดพับเก็บได้ กันสาดอัตโนมัติพับเก็บได้ หรือ กันสาดอัตโนมัติ (แล้วแต่จะเรียกกัน) แต่ก็คือรูปแบบหนึ่งของกันสาดผ้าใบที่สามารถยื่นออก (แขนยื่นออกไป) และม้วนพับเก็บได้ในลักษณะแนวนอน สามารถติดตั้งในองศาเฉียงดิ่งลงได้เล็กน้อยประมาณ 25-30 องศา ทำขนาดกว้างได้ตั้งแต่ 2 – 8 แขนยื่นออกได้ 1.50 – 3.50 m. (ขึ้นอยู่กับรุ่น) ในท้องตลาดจะมีงานหลายเกรด ส่วนที่ต้องสังเกตุให้ดีคือโครงสร้างของกันสาดควรเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด จึงจะแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน ส่วนของการควบคุมกันสาดมีทั้งระบบมือหมุน หรือระบบมอเตอร์ไฟฟ้าให้เลือก กันสาดรูปแบบนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด เช่น ต้องการความยื่นมาก แต่ไม่อยากตั้งเสาให้เกะกะ และไม่ต้องการให้พื้นที่ปิดทึบตลอดเวลา เช่น หน้าร้าน หน้าบ้าน-อาคาร ป้อมยาม ฯลฯ และช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยบริเวณใต้กันสาด

คุณสมบัติเด่น : โครงสร้างแข็งแรง – พับเก็บได้เรียบร้อย (บางรุ่นพับเก็บได้ในกล่องมิดชิด)
ข้อดี : กันแดด กันฝน ช่วยเพิ่มความภูมิฐานให้กับสถานที่
ข้อเสีย : ต้องระวังเรื่องลมแรง หรือ ฝนตกหนัก (ควรพับเก็บเพื่อป้องกันความเสียหาย) *ในระบบมอเตอร์สามารถติดอุปกรณ์เสริม เซ็นเซอร์ลม เซ็นเซอร์แดด
ชนิดผ้าใบที่เหมาะสม และแนะนำ : ผ้าใบทอสังเคราะห์ (Acrylic Docril)

2. กันสาดผ้าใบแนวดิ่ง ม่านม้วนพับเก็บได้ หรือ กันสาดม่านม้วน คือกันสาดผ้าใบที่สามารถเปิด-ปิด (ขึ้น-ลงในลักษณะแนวดิ่ง) ทำขนาดกว้างได้ตั้งแต่ 1 – 5 เมตร สูง 0.10 – 4 แต่ขนาดที่เหมาะสมต่อชุดไม่ควรกว้างเกิน 4 เมตร และความสูง 3 เมตร ถ้าเกินกว่านี้ช่างวัดงานอาจแนะนำให้มีการแบ่งเป็น 2 ชุด เพื่อกระจายน้ำหนักของตัวกันสาด ม้วนเก็บได้ทั้งแบบเกียร์หมุน หรือ มอเตอร์+รีโมท สามารถติดตั้งเป็นหลาย ๆ ชุดต่อกันได้ เป็นระบบกันสาดที่เหมาะสำหรับสถานที่ที่มีลักษณะเปิดโล่งรับลม และต้องการปิดเพื่อป้องกันแสงแดด และฝนสาดเข้ามาภายในอาคาร ซึ่งมองเผิน ๆ ลักษณะงานคล้ายกับกันสาดชักรอกเชือกดึงที่ใช้กันอย่างแพร่หลายตามร้านขายของชำทั่ว ๆ ไป แต่จริง ๆ แล้วมีความแตกต่างกัน เพราะกันสาดแนวดิ่ง (งานคุณภาพ) เน้นใช้วัสดุ และอุปกรณ์ที่ปลอดสนิม เช่น อลูมิเนียมและสแตนเลส งานจึงสวยงามคงทนกว่าผ้าใบชักรอกทั่วไป รวมถึงการใช้งานที่ง่ายกว่า ด้วยระบบม้วนเก็บแบบเกียร์หมุน หรือ แบบมอเตอร์+รีโมท กันสาดรูปแบบนี้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถติดตั้งได้ทั้งภายนอก-ภายในอาคาร ตามพื้นที่ที่ต้องการ อาทิ ประตู/หน้าต่าง ระเบียงบ้าน โรงจอดรถ ศาลา ร้านอาหาร ฯลฯ

คุณสมบัติเด่น : โครงสร้างมีความประณีต – วัสดุต้านทานสนิม – ม้วนเก็บในแนวดิ่ง
ข้อดี : กันแดด-ฝนสาดเข้ามาได้ดี – เหมาะกับสถานที่เปิดโล่ง – เหมาะกับพื้นที่ติดตั้งแคบ ๆ – ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว
ข้อเสีย : ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการเพิ่มพื้นที่ใช้สอย และพื้นที่ที่ต้องโชว์-เปิดโล่งไว้ตลอดเวลา
ชนิดผ้าใบที่เหมาะสม และแนะนำ : ผ้าตาข่ายกรองแสง (Solar Screen) – ผ้าใบโปร่งแสง (Solar View) – ผ้าใบ PVC

3. กันสาดแขนตรงพับเก็บได้ หรือ กันสาดผ้าใบแบบขึงตึงพับเก็บ คือกันสาดรูปแบบผสมที่สามารถยื่นออกไปได้ทั้งในแนวนอน (เฉียงลง) และดิ่งลงได้เกือบ 180 องศา ทำขนาดกว้างได้ตั้งแต่ 1 – 4 เมตร แขนยื่น 0.80 – 1.80 เมตร พับเก็บได้ทั้งแบบเกียร์หมุน หรือ มอเตอร์+รีโมท ซึ่งหากเป็นงานคุณภาพ โครงสร้างจะทำจากอลูมิเนียม พ่นเคลือบสีขาวทุกชิ้นส่วนด้วยระบบ Powder-Coated ภายในแขนกันสาดมีระบบสปริงซ่อนอยู่ ซึ่งจะทำให้ผ้าใบมีความตึงตัวในทุกขณะ ระบบกันสาดมีจุดยึด 4 จุด แข็งแรง ทนแรงลม-ฝนได้ดีกว่ากันสาดพับเก็บได้ กันสาดรูปแบบนี้จึงเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการม้วนเก็บขึ้นเพื่อเปิดโล่งพื้นที่ แต่ในบางเวลาก็ต้องการปิดให้ดิ่งเพื่อความเป็นส่วนตัว เช่น บริเวณหน้าทางเข้าประตูร้านอาหาร หน้าต่างบ้าน-คอนโดมิเนียม ฯลฯ

คุณสมบัติเด่น : ผ้าใบมีความตึงตัวในทุกขณะ – ดิ่งลงได้เกือบ 180 องศา
ข้อดี : กันแดดได้ทั้งวัน – กันฝน – เปิด/ปิดพื้นที่ได้ – เพิ่มความโดดเด่นให้สถานที่ – เหมาะสมกับกันสาดประตูหรือหน้าต่าง มี 2 ฟังก์ชั่นใน 1 เดียว คือยื่นออกไป และดิ่งลงปิดกันแดด
ข้อเสีย :  ทำขนาดกว้าง/ยื่นออกได้น้อย (ต่อชุด) – แขนกันสาดเกะเกะกีดขวางทางเดิน-สิ่งของ
ชนิดผ้าใบที่เหมาะสม และแนะนำ : ผ้าใบทอสังเคราะห์ (Acrylic Docril) – ผ้าใบ PVC – ผ้าใบโปร่งแสง (Solar View)

4. กันสาดแบบโครงฟิก หรือกันสาดผ้าใบรูปทรงอิสระและรูปทรงยุโรป คือกันสาดผ้าใบที่ถูกผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถันตั้งแต่โครงสร้างจนถึงการตัดเย็บผ้าใบให้เข้ากับรูปทรงที่ต้องการ สามารถกันแดด-ฝน ลดความร้อนจากแสงแดดเข้าสู่ภายในอาคาร โครงสร้างของกันสาดมีให้เลือกทั้งโครงสร้างเหล็ก อลูมิเนียม และสแตนเลส มีรูปทรงให้เลือกหลากหลาย สามารถออกแบบให้เข้ากับลักษณะของอาคารและสถานที่นั้น ๆ สามารถผลิตได้ตามขนาดของพื้นที่ที่ต้องการตั้งแต่ 10 ตร.ม. ขึ้นไป เหมาะสำหรับประตูทางเข้าหน้าร้าน หน้าบ้าน-หลังบ้าน ประตู หน้าต่าง ทางเดินข้างบ้าน ระเบียงบ้าน ครัวหลังบ้าน และช่วยเพิ่มความภูมิฐาน สง่างาม หรูหรา สวยงามให้กับบ้าน บริษัท ภัตตาคาร โรงแรม รีสอร์ท ร้านค้า ฯลฯ

คุณสมบัติเด่น : กันสาดแบบยึดติดคงที่ถาวร – มีให้เลือกหลากหลายรูปทรง – เลือกวัสดุของโครงสร้างได้
ข้อดี : กันแดด-กันฝนได้ตลอดเวลา – ลดความร้อนเข้าสู่สถานที่ได้ – คงทนสวยงาม
ข้อเสีย : พับเก็บไม่ได้ – โยกย้ายยาก
ชนิดผ้าใบที่เหมาะสม และแนะนำ : ผ้าใบทอสังเคราะห์ (Acrylic Docril) – ผ้าใบ PVC – ผ้าใบโปร่งแสง (Solar View)

5. กันสาดแบบเปิด-ปิดได้ ชนิดมีรางเลื่อน (หลังคาสกายไลท์/หลังคาเปิด-ปิดได้) คือกันสาดเปิด-ปิดได้แบบแนวนอน  หรือจะเรียกว่าหลังคาเลื่อนผ้าใบก็ได้ โดยเพิ่มฟังก์ชั่นการเปิดหลังคาสำหรับพื้นที่กลางแจ้ง หรือพับปิดหลังคาสำหรับป้องกันแสงแดดหรือฝนได้อเนกประสงค์ พร้อมทั้งช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย ระบบการพับเก็บด้วยเกียร์หมุน หรือ มอเตอร์+รีโมท ลักษณะผ้าพับ เปิด-ปิด เป็นลอน สามารถเลือกผ้าใบได้หลากหลาย ขนาดกว้าง 2.00 – 15.00 เมตร ยาวได้ถึง 30.00 เมตร ต่อชุด เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ต้องการเปิดโล่งในบางเวลา ในส่วนของดาดฟ้าหากติดข้อกำหนดทางกฎหมาย หรือต้องการใช้โครงสร้างที่มีน้ำหนักเบา ติดตั้งได้รวดเร็ว หลังคาผ้าใบแบบเลื่อนเก็บได้ก็นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และในต่างประเทศมักใช้งานกันสาดชนิดนี้ร่วมกับห้องกระจก (Glass House) ซึ่งผนังและหลังคาทำจากกระจกใสทั้งหมด

คุณสมบัติเด่น : โครงสร้างเบาและไม่เกะกะพื้นที่ – ออกแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่ได้ – สามารถติดไฟ LED เพิ่มได้
ข้อดี
: กันแดด-กันฝนได้ครอบคลุมพื้นที่ – เพิ่มพื้นที่ใช้สอย – เปิด/ปิดพื้นที่ได้ตามต้องการ – เหมาะกับพื้นที่โล่งกว้าง
ข้อเสีย : ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่าหลังคาทั่วไป – ระยะเวลาติดตั้งนานกว่ากันสาดทั่วไป – สินค้าติดตั้งถาวรยึดกับโครงสร้างเหล็ก
ชนิดผ้าใบที่เหมาะสม และแนะนำ : ผ้าใบ PVC – ผ้าใบทอสังเคราะห์ (Acrylic Docril) – ผ้าใบโปร่งแสง (Solar View)

 

ข้อควรรู้เพิ่มเติม

  • หากจุดติดตั้งเป็นที่สูง หรือ บริเวณที่ไม่สามารถเดินเข้าถึงได้ ต้องใช้ระบบพับเก็บแบบมอเตอร์ ที่มาพร้อมระบบควบคุมกันสาดด้วยรีโมท
  • หากจุดติดตั้งกันสาดไม่ได้อยู่ใต้ชายคา ต้องติดฝาครอบกันน้ำเสมอ เพื่อป้องกันน้ำเข้าระบบเกียร์หรือระบบมอเตอร์ (ยกเว้นกันสาดพับเก็บในกล่อง กันสาดโครงฟิก และหลังคาสกายไลท์)
  • ผนังที่ไม่แข็งแรงเพียงพอ เช่น ไม้ฝา หินอ่อน อลูมิเนียม ต้องเสริมเหล็กจากตัวคานหรือจุดที่แข็งแรงเหมาะสม
  • ก่อนต่อเติมบ้านควรคำนึงเผื่อพื้นที่สำหรับจุดยึดกันสาดไว้ก่อนเสมอ เพื่อป้องกันสิ่งกีดขวางจุดติดตั้ง
  • หากห้องนอน หรือ ห้องนั่งเล่นอยู่ในทิศตะวันตก ควรติดตั้งกันสาดแบบแนวดิ่งเพื่อกันแดดเฉียงเข้าบ้าน
  • การตั้งระดับความลาดเอียงของกันสาดต้องทำให้เหมาะสมโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำขังผ้าใบในภายหลัง


“แสงทองผ้าใบ กันสาด บริการออกแบบ ติดตั้งกันสาดผ้าใบ หลังคาผ้าใบแรงดึงสูง
และจำหน่ายผ้าใบทุกชนิด”

 

สำหรับผู้ที่สนใจติดตั้งกันสาดผ้าใบสามารถปรึกษาฟรี ที่ Tel : 02-569-1999 / Line ID : @sangthong.awning หรือ https://line.me/R/ti/p/%40rbm8837l Website : sang-thong.com / Fanpage : facebook.com/st.awning

Previous articleนวัตกรรมที่สอดคล้องกับลักษณะการใช้งาน
ตอบโจทย์ความสวยงาม เเข็งเเรง คงทน เเละยั่งยืน
Next article“Mister Robot Hybrid” กำจัดฝุ่นละอองด้วยกล้องนำทาง