สเตนเลส เป็นวัสดุก่อสร้างที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของชาวไทยมานาน สามารถนำมาใช้กับงานก่อสร้างได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ใช้เป็นวัสดุสำหรับก่อสร้างชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในบ้าน หรืออาคาร, ใช้เป็นวัสดุก่อสร้างอุปกรณ์ครัว หรือแม้แต่ใช้สำหรับก่อสร้างศาสนสถานอย่างวัด ก็ได้มีการพลิกแพลงเอาสเตนเลสมาประยุกต์ใช้เป็นวัสดุหลักด้วยเช่นกัน

ข้อดีของสเตนเลส คือ สามารถต้านทานการกัดกร่อนได้สูง ไม่ก่อให้เกิดสนิม ง่ายต่อการเชื่อมต่อและขึ้นรูป สามารถคงสภาพอยู่ได้ในระยะเวลานานโดยไม่เสื่อมสภาพ และด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่น บวกกับอายุการใช้งานที่ยาวนาน รวมถึงความสวยงามไม่แพ้วัสดุอื่น จึงทำให้วัดในไทยหลายแห่ง นำเอาสเตนเลสมาใช้เป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง แม้จะยังไม่เป็นที่นิยมก็ตาม ซึ่งวัดแต่ละแห่งที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ ล้วนมีความโดดเด่นและสวยงามแตกต่างกันออกไป

จะขอเริ่มที่ วัดปากลำขาแข้ง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นวัดหนึ่งเดียวในโลกที่มีพระพุทธรูปสเตนเลสองค์ใหญ่ที่สุด ประดิษฐานอยู่ภายใน ตั้งอยู่เกาะกลางน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา เมื่อปี พ.. 2554

20130307_3_1362589475_576384

อุโบสถ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อุโบสถของวัดนับเป็นอุโบสถหลังแรกที่หุ้มด้วยสเตนเลสทั้งหลัง ทั้งด้านนอกและด้านใน แต่มีการกรุฉนวนกันความร้อนไว้ตรงกลาง และใช้หินแกรนิตเป็นวัสดุปูพื้น ทำให้อากาศภายในเย็นสบาย ไม่ร้อนอย่างที่ใคร ๆ คิด ตัวอุโบสถฉลุลายไทยด้วยความประณีต วิจิตรงดงาม และในส่วนของพระพุทธรูปสเตนเลส จะเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร หันหน้าสู่แม่น้ำใหญ่ และเมื่อมองไปด้านนอกจะเห็นวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ รวมถึงบรรยากาศรอบ ๆ เขื่อนศรีนครินทร์ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากอุโบสถแบบเดิม ๆ ในเมือง หรือโบสถ์จากปูนซีเมนต์ทั่วไป ซึ่งวัตถุประสงค์ของการใช้สเตนเลสเป็นวัสดุสำหรับสร้างโบสถ์และพระพุทธรูป เกิดจากความต้องการให้ศาสนสถานแห่งนี้อยู่คู่กับชาวพุทธไปนานแสนนาน ทั้งยังง่ายต่อการดูแลรักษา

วัดต่อมา คือ วัดหัวสวน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งพระครูภาวนาจริยกุล เจ้าอาวาสวัด เกิดความคิดที่อยากจะบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถหลังเก่าที่เคยทรุดโทรม ให้มีอายุยืนยาว จึงสร้างอุโบสถขึ้นจากสเตนเลสทั้งหมด จากการศึกษาจนพบว่า สเตนเลสเป็นวัสดุที่สามารถอยู่ได้คงทนถาวรนานนับพันปี ต่างจากปูนที่อยู่ได้เพียงร้อยปีเท่านั้น จึงตัดสินใจสเตนเลสเป็นวัสดุสำหรับสร้างอุโบสถ โดยเริ่มสร้างเมื่อเดือนเมษายน 2552 และเสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม 2553 ด้วยขนาดกว้าง 7.5 เมตร ยาว 18 เมตร และสูง 6.5 เมตร

b2
amazingthaitour

อุโบสถหลังนี้สร้างขึ้นบนฐานคอนกรีต ประดับตกแต่งด้วยสเตนเลสทั้งหมด โดยประกอบไปด้วยรั้วขึ้นรูปลายธรรมจักร ช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ ที่ทำจากสเตนเลสทั้งหมด ส่วนด้านนอกอุโบสถจะแกะลายจากสเตนเลสเป็นรูปพระอรหันต์ 80 องค์

c1
amazingthaitour
e1
amazingthaitour
s
amazingthaitour
g1
amazingthaitour
a2
amazingthaitour

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อีกหนึ่งวัดที่โดดเด่นไม่แพ้กัน คือ วัดโพธิ์รัตนาราม หรือวัดโพธิ์คู่ ที่มีอุโบสถสร้างจากสเตนเลสทั้งหลัง และนับเป็นหลังที่ 2 ของเมืองไทยที่หุ้มด้วยสเตนเลสทั้งหลัง (หลังแรกอยู่ที่ วัดปากลำขาแข้ง จ.กาญจนบุรี) ทั้งด้านนอกและด้านใน วัดแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ ต.ปากแรต อำเภอบ้านโป่ง จ.ราชบุรี และนับเป็นวัดหลักของตำบล

เดิม อุโบสถสร้างจากอิฐและปูน แต่ผ่านการบูรณะใหม่โดยใช้สเตนเลสหุ้มอุโบสถหลังเดิมทั้งหลัง

20160416130251_0
amuletacademy
20160416130350_0
amuletacademy

ศาสนสถานแห่งสุดท้าย ที่จะขอกล่าวถึงเนื่องจากใช้สเตนเลสเป็นวัสดุหลัก คือ พระมหาธาตุเจดีย์ไตรภพไตรมงคล ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาคอหงส์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นเจดีย์สเตนเลสองค์แรกของโลก สร้างขึ้นเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยมีการวางศิลาฤกษ์ ในวันที่ 28 .. 2549 และสร้างแล้วเสร็จภายใน 160 วัน

556000008627201

556000008627202

Image

 

 

 

 

 

 

 

 

.

 

ส่วนยอดของเจดีย์ เป็นเส้นวงคล้ายปล้องไฉนและมีฉัตรอยู่บนยอดสูงสุด ด้านล่างของเจดีย์มีฐานวงกลมก่ออิฐฉาบปูนทาสีเหลืองทอง เจาะช่องประตูหน้าต่างเป็นวงกลม เพื่อความสะดวกสบายในการเดินชมสิ่งที่น่าสนใจภายใน ที่ประดับตกแต่งด้วยสเตนเลส โดยประตูแต่ละบาน (ช่อง) จะเป็นช่องประตูประจำวันเกิดรวม 8 ช่อง (วันพุธมี 2 ช่อง พุธกลางวันกลางคืน) พร้อมมีพระประจำวันเกิดอยู่ด้านในสำหรับสักการบูชา

บริเวณฐานเจดีย์จะมีทางเดินเป็นบันไดวนสเตนเลส และฐานชั้น 2 ก็มีระเบียงสำหรับออกไปชมวิวรอบ ๆ อีกด้วย

จะเห็นได้ว่า สเตนเลสก็เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่สามารถสร้างขึ้นเป็นสถาปัตยกรรมที่แสนวิจิตรงดงาม ดังจะเห็นได้จากศาสนสถานที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น นอกจากนี้ สเตนเลสยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการใช้งานในด้านอื่น ๆ ในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งผู้ที่สนใจ ทั้งสถาปนิก นักออกแบบ วิศวกร และผู้ใช้ทั่วไป สามารถมาเลือกชมสินค้าและนวัตกรรมที่ผลิตขึ้นจากสเตนเลสโดยบริษัทผู้ผลิตชั้นนำได้ในงานสถาปนิก’60 อาทิ บริษัท ฮวา หลิน สเตนเลสส์ สตีล อินดัสตรี จำกัด โซน Furiture&Paint บูธ F208, บริษัท ซิ้นส์ 24 จำกัด โซน Decoration บูธ F627, บริษัท วี.อาร์.ยูเนี่ยน จำกัด ผู้ผลิตห้องครัวและสุขภัณฑ์สเตนเลส โซน Sanitary Ware บูธ S202, บริษัท มักกะสัน สเตนเลสสตีล จำกัด ผู้ผลิตเครื่องครัวสเตนเลส เครื่องดูดควัน โซน Pipe, Pump, Waterwork, Pool & Spa บูธ S507 ซึ่งงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-7 พฤษภาคม 2560 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ทั้งนี้ งานสถาปนิก’60 นับเป็นงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติสำหรับธุรกิจด้านสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน มีสินค้านวัตกรรมน่าสนใจมากมายจากผู้ประกอบการชั้นนำทั้งไทยและเทศ เหมาะกับผู้ชมทุกกลุ่ม และทุกสาขาอาชีพ ไม่เพียงแต่สถาปนิกเท่านั้น แน่นอนว่า หากได้มาลองสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของงานในครั้งนี้ จะต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

Source: manager, เที่ยวราชบุรีratchaburipaiduaykanfaiththaistorytssda,
painaidiiholidaythai

 

Previous articleเตรียมนับถอยหลัง! สู่งานสถาปนิก’60 พบกับ ‘Green Building Material’
ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม
Next articleขอเชิญชมนิทรรศการ “ศิลปิน เส้นสาย ลายสถาฯ” เฉลิมฉลอง ๑๐๐ ปีแห่งการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ณัฐธิกานต์ อัจฉริยบดี
Content Writer เว็บไซต์ Builder News สำเร็จการศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ วิชาเอกวรรณคดีอังกฤษ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปัจจุบันเป็นนักเขียนและผู้สื่อข่าวด้านงานออกแบบ ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และสถาปัตยกรรม