คริสต์มาสเวียนมาอีกหน น่าเศร้าที่เราไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อชื่นชมเทศกาลนี้ในวัฒนธรรมของประเทศต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไปได้ แต่ไม่เป็นไร วันนี้ BuilderNews ได้รวบรวมสถาปัตยกรรมของเมืองน่าเที่ยวพร้อมบรรยากาศสวย ๆ ในวันคริสต์มาสมาไว้ให้ทุกคนได้เที่ยวทางออนไลน์กันก่อน พร้อมแล้วไปลุยกันเลย!

Gruyères, Switzerland

Gruyères คือเมืองโกธิคอันน่าตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ยุคกลาง ซึ่งตั้งอยู่ใจกลาง Alpine ของสวิสเซอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านชีสและช็อกโกแลต และปราสาทเทพนิยายในยุคศตวรรษที่ 13 โดยความพิเศษของคริสต์มาสที่นี่ คือ ถนนที่ปูด้วยหินจะเต็มไปด้วยแสงไฟและตลาดในภูมิภาคที่จัดต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่วันหยุดยาว 2 อาทิตย์จนถึงวันคริสต์มาส และที่สำคัญมันยังเป็นที่ที่ช่างฝีมือท้องถิ่นจัดแสดงสินค้าของพวกเขาท่ามกลางการร้องเพลงประสานเสียงของนักร้องแครอลที่อบอวลไปด้วยกลิ่นเกาลัดอบ

ด้วยความมีเอกลักษณ์ของประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมที่มีกลิ่นอายความโกธิคทำให้เมื่อทั้งเมืองตกแต่งไปด้วยแสงไฟและความครึกครื้นของเทศกาลคริสต์มาสมันก็ยิ่งทำให้เมืองนี้ดูสวยงามน่าหลงใหลเกินคำบรรยาย

The Bembridge House, California, US

The Bembridge House ตั้งอยู่ที่ Long Beach รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งมันถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1906 โดยได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมยุควิกตอเรียในอังกฤษ และสถาปัตยกรรมภายนอกจะสร้างจากหลังคาจั่วและเฉลียงล้อมรอบบ้านโดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมสไตล์นี้

การออกแบบสไตล์วิกตอเรียนในช่วงเปลี่ยนถ่ายศตวรรษนี้รู้จักกันในชื่อของ “สไตล์ Queen Ann” ซึ่งเป็นที่นิยมทั้งในอังกฤษและอเมริกาเหนือ และจนมาถึงปัจจุบัน The Bembridge House ยังคงรักษาสไตล์วิกตอเรียนดั้งเดิมไว้จนเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นบ้านสไตล์วิกตอเรียนที่สมบูรณ์แบบแห่ง Long Beach

การตกแต่งภายในเป็นการอนุรักษ์การตกแต่งในยุควิกตอเรียที่เน้นของตกแต่งที่หรูหราและฟุ่มเฟือย ที่มีพวงมาลัยคริสต์มาส และไฟประดับ เพื่อสร้างความมหัศจรรย์ให้แก่บ้านทั้งหลัง

The Armour-Stiner Octagon House, New York, US

The Armour-Stiner Octagon House ใน Irvington มหานครนิวยอร์ก ให้ความรู้สึกคล้ายกับบ้านขนมปังขิงในชีวิตจริง รูปทรงแปดเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์พาทุกคนย้อนกลับไปสู่ความสมดุลของเปลือกอาคารแบบพัลลาเดียนในการตกแต่งแบบนีโอคลาสสิกสไตล์วิกตอเรียน และทำให้แสงจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้านได้มากขึ้น

บ้านหลังนี้ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราทุกปีและเปิดให้สาธารณะได้เยี่ยมชม การกรุไม้ของพื้นห้องใต้หลังคาทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นและน่าอัศจรรย์ บนเพดานที่ลาดเอียงซึ่งเดิมทีถูกออกแบบให้เป็นห้องซ้อมเต้น

บ้านสไตล์วิกตอเรียนแปดเหลี่ยมตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 เอเคอร์ที่เต็มไปด้วยสวนแปลก ๆ และโครงสร้างเสริมต่าง ๆ ซึ่งโครงเหล็กทรงโค้งของเรือนกระจกให้ความรู้สึกเหมือนปราสาทคริสตัลขนาดจิ๋วที่ทำจากลูกอม

The Victorian House Museum, Ohio, US

The Victorian House Museum ตั้งอยู่ที่โอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบ้านขนาด 28 ห้อง โดยเป็นบ้านทรง Queen Ann ประดับตกแต่งด้วยความหรูหราและเก็บรายละเอียดของนัทแครกเกอร์ที่ตกแต่งด้วยธีมคริสต์มาส

บ้านหลังนี้ประดับด้วยเทียนที่อยู่ตรงหน้าต่างในเทศกาลคริสต์มาส โดยเทียนคือตัวแทนของสมาชิกครอบครัวที่จากไปแล้ว หรือผู้ที่ไม่ได้มากลับมาร่วมฉลองเทศกาลด้วยกัน ซึ่งมันเป็นประเพณีเก่าแก่นั่นเอง

Prague, Czech Republic

ปราก เมืองเทพนิยายโกธิคของยุโรป เฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสด้วยความตระการตาและยิ่งใหญ่ สถาปัตยกรรมที่ทำให้แทบลืมหายใจทำให้เกิดเป็นภาพเบื้องหลังที่สวยงามสำหรับการนั่งดื่มด่ำกับไวน์และเดินเพลิดเพลินไปกับการชอปสินค้าในตลาด

ฤดูหนาวที่นี่ดูแห้งและเย็น ทว่าเมื่อเดินลงไปในตรอกซอยที่ปูด้วยหินซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวของภูติผีในอดีต เดินตามทางไปกับตึกสไตล์โกธิคที่ปกคลุมด้วยหิมะมันคล้ายกับว่าเราเข้าไปในการ์ดวันคริสต์มาสที่มีเบื้องหลังเป็นสถาปัตยกรรมอันแสนจะน่าตื่นตาตื่นใจราวของภูติผีในอดีต เดินตามทางไปกับตึกสไตล์โกธิคที่ปกคลุมด้วยหิมะมันคล้ายกับว่าเราเข้าไปในการ์ดวันคริสต์มาสที่มีเบื้องหลังเป็นสถาปัตยกรรมอันแสนจะน่าตื่นตาตื่นใจ

Vienna, Austria

มันยากที่จะหาเมืองที่จะไปฉลองวันคริสต์มาสที่ตระการตาอย่างเวียนนาได้ ตลาดในเทศกาลคริสต์มาสที่งดงาม วัฒนธรรมคาเฟ่ที่น่าค้นหา และความน่าหลงใหลของยุคเก่าบนท้องถนนทำให้เมืองนี้ไม่ต่างจากเมืองต้องเวทมนตร์

ในขณะที่สถาปัตยกรรมที่สง่างามถูกประดับด้วยแสงไฟ ทำให้เกิดเป็นเบื้องหลังของภาพที่สวยงามน่าเที่ยวชมในวันหยุดฤดูหนาวเช่นนี้

Cologne, Germany

โคโลญ หรือเรียกอีกชื่อว่า เคิลน์ในภาษาเยอรมัน เป็นโบสถ์ที่เป็นผลงานชิ้นเอกสไตล์โกธิค ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่มีตลาดคริสต์มาสที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมนี

โดยสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วเมืองโคโลญเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการสัมผัสบรรยากาศที่มีมนต์ขลังของคริสต์มาสและทำความคุ้นเคยกับประเพณีของประเทศที่ให้กำเนิดตลาดคริสต์มาส

Strasbourg, France

เมืองที่เป็นตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีโบสถ์งดงามและเป็นเมืองเก่าอันทรงคุณค่าที่อยู่ในลิสต์ขององค์การยูเนสโก

France, Bas Rhin, Strasbourg, old town listed as World Heritage by UNESCO, the big christmas tree on Place Kleber

คุณจะต้องหลงใหลไปกับ Marchés de Noël อันน่ารื่นรมย์ที่ตั้งอยู่ทั่วจัตุรัสประวัติศาสตร์ของเมืองและการจัดแสดงที่วิจิตรบรรจงซึ่งประดับประดาบ้านในแต่ละปี

Wroclaw, Poland

ในช่วงวันหยุดยาวช่วงฤดูหนาวของรอกลอว์ เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโปแลนด์ เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมขมตลาดคริสต์มาสที่ตระการตาชวนให้คุณย้อนยุคไปสู่ช่วงศตวรรษที่ 16 ถนนถูกตกแต่งด้วยไฟส่องสว่าง

ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่แสนจะโดดเด่นและบรรยากาศดี ๆ กับจัตุรัสสีลูกกวาดที่สวยงามซึ่งมีอิทธิพลของฮังการี เยอรมันและอิตาลีทำให้เกิดความหลากหลายของเมือง

Bruges, Belgium

คุณจะต้องอดใจไม่ไหวที่จะได้พบกับเมืองที่น่ารักในยุโรปอย่างเมืองบรูจส์ที่มีคลองที่เหมือนเทพนิยาย อาคารที่ดูเหมือนทำจากขนมปังขิงและรถม้าที่หรูหราซึ่งตกแต่งในยุคกลาง และถนนที่ปูด้วยหินอันแสนมีเอกลักษณ์

ในช่วงคริสต์มาส Grote Markt ซึ่งเป็นจัตุรัสหลักของเมืองจะเปลี่ยนเป็นดินแดนมหัศจรรย์ประดับด้วยแสงไฟระยิบระยับ ลานสเก็ตน้ำแข็งที่สวยงามและชาเล่ต์ไม้ที่มีเสน่ห์เต็มไปด้วยของที่ระลึก เครื่องประดับสำหรับเทศกาลคริสต์มาสและช็อกโกแลตเบลเยี่ยม

Copenhagen, Denmark

ในเทศกาลคริสต์มาสทั้งเมืองจะประดับประดาไปด้วยตลาดและการตกแต่งที่มีรสนิยมทำให้ทั้งเมืองมีบรรยากาศสุดพิเศษ แต่ไม่มีสถานที่อื่นในเมืองที่ถูกห่อหุ้มด้วยเวทมนตร์คริสต์มาสเช่นสวนสนุก Tivoli ที่มีชื่อเสียงระดับโลก

ในแต่ละปีสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดอันดับสองของโลกจะถูกเปลี่ยนให้เป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาวพร้อมการแสดงแสงไฟคริสต์มาสอันตระการตาเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้นและแผงขายของกระจุกกระจิกและสินค้าพื้นเมืองทุกชนิด

Rovaniemi, Lapland

ด้วยภูมิประเทศที่หนาวจัด ประกอบกับต้นไม้ที่ตกแต่งด้วยแสงไฟสว่างไสวและประติมากรรมน้ำแข็งอันวิจิตรจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าโรวาเนียมีจะเป็นเมืองที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปสำหรับเทศกาลคริสต์มาส และความจริงที่ว่าซานตาคลอสอาศัยอยู่ห่างออกไปเพียง 8 กม. เท่านั้นก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับเมืองนี้

นอกจากโปสการ์ดยามเช้าสีชมพูและหมู่บ้านซานตาคลอสที่มีชีวิตชีวาซึ่งถือเป็นจุดดึงดูดหลักของเมืองแล้ว โรวาเนียมียังมีพิพิธภัณฑ์อีกมากมายและกิจกรรมฤดูหนาวให้เลือกมากมายเช่น การขี่กวางเรนเดียร์และนั่งรถลากจากฮัสกี้ที่น่าตื่นเต้น ซาฟารีสโนว์โมบิลและทัวร์ชมแสงเหนือที่งดงาม

น่าเสียดายที่ตอนนี้เราไม่สามารถเดินทางไปไหนได้เลย เราคงต้องฉลองเทศกาลคริสต์มาสและใช้เวลาอยู่กับครอบครัวที่บ้านไปก่อน ทว่าที่ไทยก็ยังมีสถาปัตยกรรมที่น่าตระการตาให้ทุกคนไปสัมผัสอยู่อีกมากมาย และถึงแม้จะไม่ได้มีกลิ่นอายคริสต์มาสแท้ ๆ เหมือนสถาปัตยกรรมทางฝั่งยุโรป แต่สถาปัตยกรรมบ้านเราในช่วงคริสต์มาสก็สวยงามไม่แพ้กัน

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://www.pandotrip.com/top-10-christmas-towns-and-villages-23516/?fbclid=IwAR3PHC-GGgAH0fExjjgpPVRgjXGWSFmQNFiwVL7JWkV8K0Lp02ohV97rO_E

https://blog.bimsmith.com/A-Victorian-Christmas-Victorian-Architecture-That-Embodies-The-Spirit-of-the-Season?fbclid=IwAR2NO4GaN9O08Ew9Naxvlovdyz-NO6CadpORZAa1g9JmSKOyfNx3HV-jXMc

https://travelaway.me/europe-christmas-cities/?fbclid=IwAR0Q6ata0OWBKntsZfkNgviR5AdEsh-rggZOO-34z4H1Q98b1JGpa5owfMM

Previous article“Electric Nameton” ส่วนผสมระหว่างป่าในเทพนิยายและสถาปัตยกรรมสมัยใหม่
Next article“Majamaja” ที่พักอาศัยจากพลังงานแสงอาทิตย์แห่งเฮลซิงกิ
Porntiwa
สาวรัฐศาสตร์หน้าใส หัวใจรักการเขียน ผู้ผันตัวจากสายการเมือง มุ่งหน้าสู่สถาปัตยกรรมเต็มตัว