ข้อมูลจากสมัชชาจดทะเบียนสถาปัตยกรรมแห่งชาติ (National Council of Architectural Registration Boards – NCARB) เปิดเผยว่า อาชีพออกแบบสถาปัตยกรรมทุกวันนี้ มีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และจำนวนของ สถาปนิกหญิง ก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน ข้อมูลสถิติประจำปีที่ระบุจำนวนประชากรที่ทำอาชีพเกี่ยวข้องกับงานสถาปัตยกรรมมีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2015 ด้วยจำนวนมากกว่า 41,500 คน เพิ่มขึ้นจากเดิมในปี 2014 ที่มีจำนวน 37,178 คน
สถาปนิกจากสหรัฐอเมริกาเกือบ 41,000 คน ได้รับหนังสือรับรองจาก NCARB เพื่อใช้เป็นใบอนุญาตทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก ในปี 2015 สูงขึ้น 4% จากปี 2014
ซึ่งในปีที่แล้ว (ปี 2015) พบว่า มีจำนวนผู้หญิงที่ก้าวเข้ามาสู่อาชีพสถาปนิกเพิ่มมากขึ้น และเกือบ 40% ของจำนวนสถาปนิกที่ผ่านการทดสอบ AXP-Architectural Experience Program (โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อเป็นตัวช่วยให้กับสถาปนิกที่เพิ่งเริ่มต้นอาชีพ มีพื้นที่ฝึกฝนงานทางด้านสถาปัตยกรรม) และ ARE-Architect Registration Examination (พื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมฝากคำถาม แลกเปลี่ยนประสบการณ์ รวมทั้งพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละองค์กร) ในปี 2015 ล้วนเป็นผู้หญิงทั้งสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้น สถาปนิกกว่า 2 ใน 3 ที่เพิ่งได้รับใบอนุญาตในการประกอบอาชีพสถาปนิกในปีที่แล้วเป็นผู้หญิงทั้งสิ้น ซึ่งคิดเป็น 34% แม้ว่าจำนวนจะใกล้เคียงกับรายงานของ NCARB ในปี 2014 ที่พบว่า ทั้งในปี 2014 และ 2015 มีผู้หญิงจำนวน 38% ในจำนวนผู้ที่ผ่านการทดสอบ IDP-Intern Development Program (ชื่อเดิมของ AXP) ทั้งหมด ขณะที่จำนวนสถาปนิกหญิงที่ผ่านการทดสอบ ARE ในปี 2015 มีจำนวน 37% และในปี 2014 มี 35% จะเห็นได้ว่า ตัวเลขยังคงไม่ทิ้งห่างกันมากนัก แม้ว่าจำนวนผู้หญิงที่กลายมาเป็นสถาปนิกจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2000 ซึ่งในปีนั้น พบว่า จำนวนผู้หญิงที่ผ่านการทดสอบ IDP มีจำนวน 25% น้อยกว่าจำนวนเปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่ผ่านการทดสอบ ARE
จากผลการสำรวจความหลากหลายทางอาชีพโดยสถาบันสถาปนิกอเมริกัน (AIA-The American Institute of Architects) ในเดือนมีนาคม 2016 ที่ผ่านมา พบว่า ในจำนวนสถาปนิกหญิงมากกว่า 2 ใน 3 ขาดความเท่าเทียมทางเพศ แม้ว่าการแข่งขันจะนำไปสู่ความสำเร็จ และทำให้ชีวิตเกิดความสมดุล แต่ในขณะเดียวกัน การโหมงานหนักก็อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อการใช้ชีวิตครอบครัว และขาดความยืดหยุ่นในการทำงานได้
Source: architectmagazine