“Everything at Home” หรือ ‘เศรษฐกิจติดบ้าน’ อีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงในยุคชีวิตแบบปกติใหม่
(New Normal) ที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากทุกคนต้องกักตัวเอง และทำทุกกิจกรรมภายในบ้าน ซึ่ง “เอสซีจี” ได้สำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงล็อกดาวน์ระหว่างวิกฤติโควิด-19 พบว่านอกจากการทำงานที่บ้าน (Work from Home) ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังหากิจกรรมยามว่างมาทำแก้เบื่อช่วงกักตัวมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นทำอาหาร ออกกำลังกาย ดูหนัง เล่นเกม หรือจัดสวน ส่งผลให้ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยเปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมวิถีใหม่ รวมถึงยังพบว่าเจ้าของบ้านส่วนใหญ่ต้องการปรับพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้เป็นสัดส่วนขึ้น เพิ่มพื้นที่ในการทำกิจกรรมที่หลากหลาย หาฟังก์ชันที่เพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย และช่วยให้บ้านสะอาด ปลอดภัย ดังนั้นในฐานะผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างครบวงจร เอสซีจีจึงได้รวบรวม 5 ไอเดียในการปรับพื้นที่บ้านให้ลงตัวกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยแบบ New Normal
นายเจือ คุปติทัฬหิ Consult and Design Solution Business Lead จากเอสซีจี กล่าวว่า จากพฤติกรรมการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ไลฟ์สไตล์แบบ New normal ทำให้เราพบว่า 5 อันดับพื้นที่บ้านที่มีการใช้งานสูงสุดในช่วงล็อกดาวน์ คือ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัวและห้องทานอาหาร ห้องน้ำ และพื้นที่รอบบ้าน เช่น สวน หรือพื้นที่ระเบียงนอกบ้าน เนื่องจากสมาชิกภายในบ้านจะจัดสรรพื้นที่ภายในห้องต่าง ๆ มาทำกิจกรรมอื่น ๆ เอสซีจีจึงได้นำผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค และการใช้พื้นที่ภายในบ้านมาสร้างเป็น “5 ไอเดียในการปรับบ้าน เพื่อให้ทุกคนสามารถทำทุกกิจกรรมที่ต้องการภายในบ้านหลังเดิมได้อย่างมีความสุข” พร้อมแนะนำการเลือกวัสดุก่อสร้างที่จะนำมาใช้ปรับบ้านให้ตอบโจทย์ และยังคงมีดีไซน์ที่สวยงาม ดังนี้
1.บ้าน คือ ออฟฟิศหลังใหม่ (Home as a New Office)
ปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในบ้านให้เป็นห้องทำงานที่เหมาะกับการ Work From Home โดยสามารถปรับได้ 2 รูปแบบ คือ จัดระเบียบห้องนอนสร้างมุมทำงานภายในห้อง และสร้างมุมทำงานขึ้นมาใหม่ โดยใช้ห้องว่าง หรือพื้นที่ว่างภายในบ้าน โดยแนะนำให้หามุมจัดวางโต๊ะทำงานบริเวณที่มีแสงธรรมชาติเข้าถึง พร้อมติดตั้งระบบระแนงไวนิลหรือไม้ระแนง เอสซีจี บริเวณดังกล่าว เพื่อช่วยกรองแสง และลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวห้อง ควรแบ่งสัดส่วนพื้นที่ทำงานและพื้นที่ส่วนตัวให้แยกออกจากกันอย่างชัดเจน
พร้อมเสริมฟังก์ชันให้พื้นที่ด้วยการติดตั้งแผ่นวัสดุ Cylence รุ่น Zoundblock ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันเสียงโดยเฉพาะ ช่วยลดการส่งผ่านของเสียงระหว่างห้อง เพื่อป้องกันเสียงต่าง ๆ เข้ามารบกวนระหว่างทำงาน เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างประสิทธิภาพ และยังสามารถติดตั้งแผ่นดูดซับเสียง Cylence รุ่น Zandera ซึ่งเป็นแผ่นบุสำเร็จรูปมีคุณสมบัติดูดซับเสียง มีหลากหลายสีสัน น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย ทั้งยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับ
ผนังห้องได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้ควรหาโต๊ะ และเก้าอี้ที่เหมาะสำหรับการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ๆ ด้วย
2.มุมสงบในการพักผ่อน (Sanctuary–Like Space)
สร้างมุมดี ๆ ภายในบ้านไว้สำหรับพักสายตาจากการทำงาน และทำกิจกรรมยามว่างเพื่อคลายความเครียด ช่วยให้การอยู่บ้านไม่น่าเบื่อ และสร้างสมดุลระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิต เช่น มุมจิบกาแฟชิล ๆ พร้อมต้นไม้เล็ก ๆ สร้างเป็นมุมโปรดในบ้าน
หรือบริเวณสวนนอกบ้าน จัดเป็นสวนพักผ่อนเล็ก ๆ โดยใช้บล็อกปูพื้น กระเบื้องปูพื้น หรือไม้สังเคราะห์มาปูและจัดเรียงลวดลายสวย ๆ เป็นพื้นที่เล็ก ๆ ในสวน เสริมด้วยชุดโต๊ะ-เก้าอี้ไว้นั่งพักผ่อน สำหรับมุมออกกำลังกาย หาพื้นที่ว่างภายในบ้าน หรือแบ่งพื้นที่บางส่วนของห้องนั่งเล่นมาใช้เป็นมุมออกกำลังกายเบา ๆ เช่น โยคะ เต้นแอโรบิค หรือออกกำลังกายตามคลิปต่าง ๆ
3.พื้นที่สีเขียว แหล่งโอเอซิสของบ้าน (Greenery Space: An Oasis at Home)
การปลูกต้นไม้ และตกแต่งสวนกลายเป็นหนึ่งในกิจกรรมยามว่างช่วงกักตัว ที่ไม่เพียงใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ แต่ยังช่วยเติมความสดชื่น มีชีวิตชีวา สร้างบรรยากาศบ้านให้ร่มรื่น และผ่อนคลายยิ่งขึ้น โดยการเติมพื้นที่สีเขียวสามารถทำได้ทั้งภายในและรอบ ๆ บ้าน
การตกแต่งสวนภายในบ้านทำได้โดยการนำกระถางต้นไม้เล็ก ๆ มาประดับตกแต่งไว้ตามมุมต่าง ๆ ซึ่งต้นไม้ที่แนะนำให้เน้นไม้ประดับที่ดูแลง่าย ชอบแสงรำไร ช่วยดักผุ่น และฟอกอากาศให้กับบ้าน เช่น ต้นลิ้นมังกร ยางอินเดีย เบญจมาศ พลูด่าง เป็นต้น
ส่วนการตกแต่งสวนรอบบ้าน เจ้าของบ้านสามารถเลือกวัสดุตกแต่งภูมิทัศน์ เช่น กระเบื้องปูพื้น บล็อกปูพื้น กระเบื้องตกแต่งผนัง หรือหญ้าเทียม มาตกแต่งเป็นทางเดิน หรือจุดนั่งพัก พร้อมผสมผสานการปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มเงา หรือไม้ประดับที่มีสีสันสวยงาม หรือหากบ้านมีพื้นที่ไม่มากนัก แนะนำให้ติดตั้งระบบสวนแนวตั้ง Modular Green Hive สวนสำเร็จรูปแทน ติดตั้งง่าย ดูแลง่าย ทั้งยังปรับเป็นสวนผนังบังแดดไม่ให้บ้านร้อนได้อีกด้วย
4.บ้านสะอาด และปลอดเชื้อโรค (Home Hygiene and Sanitization)
ความสะอาดและปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เจ้าของบ้านยุค New Normal ให้ความสำคัญ เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีในการอยู่อาศัย ซึ่งจากการสำรวจพบว่าเจ้าของบ้านเริ่มหันมาสนใจนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง รวมถึงอุปกรณ์และของใช้ภายในบ้าน ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย สะดวกสบาย สามารถใช้งานโดยไม่ต้องใช้มือสัมผัส (Touchless) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากเชื้อโรคที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
โดยสามารถสั่งงานด้วยเสียงหรือระบบเซ็นเซอร์แบบอัตโนมัติ ได้แก่ นวัตกรรมสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำจากคอตโต้ เช่น สุขภัณฑ์อัจฉริยะ (Integrated Toilet) ที่มีฟังก์ชั่นเปิด-ปิดฝาอัตโนมัติ และมีก้านฉีดชำระสแตนเลสผสมสารป้องกันแบคทีเรีย มาพร้อมระบบ UV Sterilization (Self-Cleaning) เพิ่มความมั่นใจในความสะอาดทุกครั้งที่ใช้งาน
และก๊อกน้ำระบบเซ็นเซอร์ ที่มีระบบ Smart Infrared Beam ให้ความแม่นยำในการตรวจจับวัตถุ ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำไหลเอง พร้อมให้ความมั่นใจในความปลอดภัยด้วยระบบปิดน้ำอัตโนมัติเมื่อใช้งานเกิน 30 วินาที นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีวัสดุก่อสร้างที่มีนวัตกรรมป้องกันเชื้อโรค (Germ-resistant materials) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับปกป้องสมาชิกครอบครัวจากเชื้อโรคต่าง ๆ อย่างกระเบื้อง Hygienic Tiles ที่มีสาร Silver Nano ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ตลอดอายุการใช้งาน
5.พื้นที่ใหม่สำหรับฟังก์ชันการใช้งานใหม่ (New Spaces for New Functions)
เอสซีจี ขอนำเสนอ 2 พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้ตอบพฤติกรรมใหม่ที่เกิดขึ้น ได้แก่ การต่อเติมโรงจอดรถ เพราะเมื่อต้อง WFH เจ้าของบ้านต้องจอดรถไว้ที่บ้าน ทำให้รถโดนแดดและฝนตลอดเวลา โรงจอดรถจึงเป็นสิ่งที่สามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว โดยการติดตั้งสามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ ติดตั้งแบบมีโครงสร้างเหล็กรองรับ และติดตั้งแบบระบบกันสาดที่ยื่นต่อมาจากตัวบ้าน ส่วนวัสดุหลังคาสามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบทึบ และแผ่นโปร่งแสง พร้อมแนะนำให้แบ่งมุมหนึ่งของโรงจอดรถมาติดตั้งชั้นวางของ เพื่อใช้เป็นจุดรับพัสดุจากการช้อปปิ้งออนไลน์
และอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าสนใจ คือ ห้องครัวสำหรับเจ้าของบ้านที่ชอบทำอาหารทานเองที่บ้าน ก็สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ง่าย ๆ ด้วยการต่อเติมเคาน์เตอร์ครัว และปูเคาน์เตอร์ท็อปด้วยกระเบื้อง เพื่อไว้รับประทานอาหาร หรือนั่งชิลยามว่าง ก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้สวยขึ้นได้
“ทั้งนี้ก่อนที่จะปรับพื้นที่บ้าน สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ สังเกตรูปแบบการใช้ชีวิตของตัวเอง และทุกคนในครอบครัวเพื่อที่จะได้รู้ ว่าต้องการพื้นที่ หรือฟังก์ชันอะไรเพิ่มเติม เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว สามารถไปขอรับคำปรึกษา หรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงที่อยู่อาศัย เพื่อให้สามารถปรับพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม รวดเร็ว และตรงใจ พร้อมกับออกแบบให้เข้ากับรูปแบบการใช้ชีวิตของทุกคนและทุกวัยได้อย่างลงตัว ซึ่งเอสซีจี มีบริการเซอร์วิส โซลูชันแบบครบวงจร ที่พร้อมมอบบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา วางแผน บริการออกแบบ ประเมินราคา สำรวจพื้นที่หน้างาน ดำเนินการติดตั้ง และดูแลหลังการขาย ซึ่งทุกขั้นตอนดูแลโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ” นายเจือกล่าวเสริม
ผู้ที่สนใจปรับสร้าง หรือปรับพื้นที่ความสุขภายในบ้าน สามารถติดตามข่าวสาร และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
SCG HOME Contact Center 02-586-2222 หรือ www.scgbuildingmaterials.com หรือ SCG Brand หรือติดตามรายการ “สุขสร้างได้” by เอสซีจี รายการสาระบันเทิงที่จะทำให้เห็นว่าการปรับบ้านไม่ยากอย่างที่คิดได้ทาง Facebook, Youtube ของ SCG Brand และ Facebook, Youtube และ Instagram ของ Amarin TV