แลนดี้โฮม มั่นใจครึ่งปีหลังประกาศขยับเป้ายอดขายขึ้น คาดตลอดปี ทะลุ 1,000 ล้านบาท บ้านราคา 5 – 8 ล้านบาท ยังครองแชมป์ยอดขายสูงสุด เตรียมคลอดแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่ 6 แบบ เจาะกลุ่ม ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง
นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและออกแบบผลิตภัณฑ์ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดครึ่งปีแรกของปี 2559 แลนดี้โฮม เดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ การขยายศูนย์รับสร้างบ้านให้ครอบคลุมทั้ง กทม. ปริมณฑล และจังหวัดเศรษฐกิจที่สำคัญ การพัฒนาแบบบ้านใหม่เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน การคลอดบริษัทน้องใหม่ที่ชูนวัตกรรมโครงสร้างเหล็กเพื่อเป็นทางเลือกของตลาด ตลอดจนการโชว์ศักยภาพความพร้อมของทีมวิจัยและพัฒนาการออกแบบที่ถือเป็นหนึ่งในศักยภาพที่เหนือกว่า เพื่อออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านเพื่อผู้สูงอายุ พัฒนาการบริการที่มีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถติดตามงานก่อสร้างได้อย่างง่ายดาย ด้วยระบบ Landy Work Flow และระบบ CRM และการพัฒนานวัตกรรมการก่อสร้างใหม่ๆ อยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งความพยายามดังกล่าวส่งผลให้ แลนดี้ โฮม สามารถสร้างยอดขายในครึ่งปีแรกได้ดีเกินคาด
“ตลอดครึ่งปีแรกเราสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 400 ล้านบาท” นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร กล่าว “โดยธรรมชาติของธุรกิจรับสร้างบ้านแล้ว ยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกจะมีสัดส่วนที่น้อยกว่าช่วงครึ่งปีหลัง และเมื่อภาพรวมยอดขายในครึ่งปีแรกของเราดีเกินที่คาดการณ์ เราจึงตัดสินใจขยับเป้ายอดขายตลอดปีให้เกิน 1,000 ล้านบาท จากที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาซึ่งบ้านในระดับราคา 5- 8 ล้านบาท ยังเป็นที่ต้องการสูงสุดของตลาด”
ต่อคำถามเกี่ยวกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของ แลนดี้ โฮม ในช่วงครึ่งปีหลัง 2559 นั้น นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร กล่าวถึงแผนดังกล่าวว่า “จากปัจจัยเกื้อหนุนด้านนโยบายในการผลักดันให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเกิดความเคลื่อนไหว เพื่อนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ น่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจรับสร้างบ้าน ทำให้ผู้มีที่ดินต้องกลับมาวิเคราะห์ให้ลึกว่าจะบริหารจัดการกับที่ดินของตนเองอย่างไร เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในไม่ช้านี้ โดย แลนดี้ โฮม พร้อมรองรับความต้องการดังกล่าว ด้วยการต่อยอดการพัฒนานวัตกรรมการก่อสร้างและการบริการให้มีความสมบูรณ์แบบ ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ทั้งงานบริการหลังการขายตลอดจนขั้นตอนการติดตามงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งกว่าเดิม เพราะเรายึดถือลูกค้าเป็นสำคัญ เราพร้อมจะเติมเต็มในเรื่องของนวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้บ้านของ แลนดี้ โฮม ทุกหลังมีความแข็งแรง ตลอดจนใส่ใจในความเป็นอยู่ของผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ ทั้งเรื่องความปลอดภัย และสุขอนามัยที่ดี ในครึ่งปีหลัง แลนดี้ โฮม ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบการก่อสร้าง และนวัตกรรมการอยู่อาศัยใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้อยู่ในบ้านที่แข็งแรง และปลอดภัยที่สุด ที่สำคัญในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ เราพร้อมจะนำเสนอแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่รวม 6 แบบ ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักในการวิจัยและพัฒนาแบบบ้าน ให้สามารถตอบสนองทุกความต้องการที่หลากหลาย โดยแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่นี้มีการออกแบบดีไซน์ เน้นความเรียบหรู โดยนำโทนสีและวัสดุตกแต่งที่ดูสุขุม บ่งบอกถึงความมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ภายใต้แนวคิดการใช้ชีวิตของกลุ่มคนในปัจจุบัน ที่มีไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบแตกต่างกันออกไป แต่สามารถอยู่อาศัยในบ้านหลังเดียวกันได้อย่างมีความสุข เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัด และกลุ่มคนเพิ่งแต่งงาน รวมถึงผู้ที่อยากขยับขยายครอบครัวให้ใหญ่ขึ้น”
ด้านมุมมองของ แลนดี้ โฮม ต่อภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านของไทยในครึ่งปีหลัง และต่อเนื่องอีก 1-2 ปีข้างหน้านั้น นางสาวภัทรา มณีรัตนะพร วิเคราะห์ว่า “ในอนาคต ธุรกิจรับสร้างบ้านจะมุ่งแข่งขันกันเพื่อพัฒนาแบบบ้านพร้อมนวัตกรรมการก่อสร้างที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ด้วยจุดขายที่แตกต่างอย่างชัดเจนตลอดจนการบริหารจัดการด้านงานก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ เพื่อความรวดเร็วในการบริการและเป็นการลดต้นทุน พร้อมแบบบ้านใหม่ๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันอยู่ในตลาดได้ในทุกเซกเมนต์ทั้งนี้งานด้านการบริการก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจรับสร้างบ้านควรให้ความสำคัญ ตลอดจนต้องสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า ว่าจะสามารถปลูกสร้างบ้านให้เสร็จได้จริง และที่ถือเป็นเทรนด์การออกแบบบ้านใหม่ในสังคมไทย ก็คือการออกแบบที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย ที่มีข้อจำกัดของขนาดที่ดิน รวมถึงการครอบครองที่ดินของลูกค้าน้อยลงกว่าในอดีต ในขณะที่แบบบ้านที่มีอยู่ในตลาดนั้น ส่วนใหญ่เป็นแบบบ้านที่ต้องการพื้นที่ค่อนข้างมาก จุดนี้ถือเป็นความท้าทายของธุรกิจรับสร้างบ้าน เพราะจะทำอย่างไรให้แบบบ้านสามารถหลีกหนีข้อจำกัดของขนาดที่ดินได้ และสามารถตอบโจทย์ความคุ้นเคยในการอยู่อาศัยของลูกค้าได้แบบไม่กระทบความรู้สึก ซึ่งเราเองพัฒนาแบบบ้านดังกล่าวเพื่อรองรับเทรนด์ในอนาคตไว้แล้ว และมั่นใจว่าเมื่อเปิดตัวจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับตลาดรับสร้างบ้านของเมืองไทยอย่างแน่นอน”