ในช่วงครึ่งปีแรกของพ.ศ. 2560 ตลาดอสังหาริมทรัพย์สามตลาดหลักอย่าง คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีกในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมที่มีโครงการเปิดขายใหม่ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาและจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ก็มากขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงตลาดอาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีกเองก็มีอัตราการเช่าที่ค่อนข้างสูง แม้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยอาจจะยังไม่ได้มีการขยายตัวมากกว่าปีที่ผ่านมาเท่าใดนัก

นายสัญชัย คูเอกชัย รองกรรมการผู้จัดการ คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวถึงการขยายตัวต่อเนื่องของตลาดอาคารสำนักงานในช่วง 6 เดือนแรกของปีพ.ศ.2560 ว่า “ตลาดอาคารสำนักงานเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติมากขึ้น ดูได้จากตลาดอาคารสำนักงานที่มีการขยายตัวต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมาอัตราการเช่าเฉลี่ยในกรุงเทพมหานครอยู่ที่ประมาณ 92% อาคารสำนักงานใหม่ๆ มีอัตราการเช่าที่ค่อนข้างสูงหรือเกือบเต็ม 100% และยังมีอาคารสำนักงานใหม่ๆ ที่กำลังก่อสร้างอยู่อีกหลายอาคาร ค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานก็ปรับขึ้นต่อเนื่องเช่นกันโดยเฉพาะอาคารสำนักงานเกรด A ที่ค่าเช่าสูงกว่า 1,000 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน และยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง”

นอกจากนี้ นายสัญชัย ยังได้ให้ความเห็นถึงตลาดพื้นที่ค้าปลีกที่เป็นอีกตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการขยายตัวต่อเนื่องว่า “ศูนย์การค้าเป็นรูปแบบโครงการที่มีการขยายตัวมากที่สุดเพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ส่วนคอมมูนิตี้มอลล์ยังมีการขยายตัวต่อเนื่องแต่ในอัตราที่ลดลงเพราะมีหลายโครงการที่ไม่ได้รับความนิยมแบบช่วงแรกๆ ผู้ประกอบการโครงการพื้นที่ค้าปลีกรายใหญ่ในประเทศไทยยังคงมีแผนการขยายสาขาหรือเพิ่มจำนวนโครงการเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีการพัฒนาระบบช้อปปิ้งออนไลน์มารองรับซึ่งเป็นระบบที่ได้รับความนิยมจากคนไทยในระดับหนึ่ง”

นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลาดที่น่าวิตกกังวลมากที่สุดคือ ตลาดคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่มีหลายทำเลออกอาการโอเวอร์ซัพพลาย ซึ่งคอนโดมิเนียมประมาณ 13,600 ยูนิตเปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 2 พ.ศ.2560 มากกว่าไตรมาสที่ 1 ประมาณ 30% และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังปีพ.ศ.2560 % โดยผู้ประกอบการให้ความสนใจพื้นที่นอกเมืองชั้นในแบบเห็นได้ชัด เพราะมีโครงการเปิดขายใหม่ในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างโดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวเส้นทางสายสีเขียวตอนเหนือ และสายสีน้ำเงินค่อนข้างมาก เนื่องจากต้องการเปิดขายโครงการที่มีราคาไม่สูงเกินไปและมีแนวโน้มที่ราคาขายจะปรับขึ้นต่อเนื่อง”

ตลาดคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดโดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวยังคงชะลอตัวต่อเนื่องสวนทางกับตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครค่อนข้างชัดเจน เพราะว่าโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ก็ลดลงต่อเนื่องในขณะที่อัตราการขายก็ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นมากนักในช่วงที่ผ่านมา นายสุรเชษฐ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “ตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยายังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมามีโครงการเปิดขายใหม่ลดลงแบบชัดเจน ในขณะที่ความต้องการเองก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นเช่นกันและเป็นตลาดที่หลายฝ่ายให้ความสนใจมากที่สุดเพราะมีคอนโดมิเนียมเหลือขายประมาณ 10,000 ยูนิตแม้ว่าจะมีผู้ซื้อชาวจีนมากขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้มากมายนัก และพื้นที่ชะอำ หัวหินก็ยังคงเป็นตลาดที่มีการขยายตัวแบบช้าๆ ตลาดคอนโดมิเนียมในเขาใหญ่อาจจะมีการขยายตัวช้าลงเพราะมโครงการเปิดขายใหม่มากเกินไป ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมในเชียงใหม่นั้นได้ผู้ซื้อชาวจีนเข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดและกระตุ้นยอดขายให้สูงขึ้นทำให้ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในเชียงใหม่ดูดีขึ้น”

“แม้ในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทัพย์จะมีการขยายตัวไม่มาก แต่ในภาพรวมแล้วยังไม่ได้ชะงักหรือว่าเกิดปัญหาแบบชัดเจน แม้ในตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครที่มียูนิตโอเวอร์ซัพพลายในบางทำเลก็ยังคงมีอีกหลายทำเลที่มีโครงการใหม่เปิดขายต่อเนื่องซึ่งเรื่องนี้ผู้ประกอบการต่างพยายามหาช่องว่างและหาโอกาสในการเปิดขายโครงการใหม่ให้ตรงกับความต้องการและกำลังซื้อ แต่ก็มีผู้ประกอบการบางรายเลือกที่จะชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ออกไปก่อนเพื่อรอให้กำลังซื้อในภาพรวมดีขึ้น อีกทั้งรอให้งานพระราชพิธีสำคัญในเดือนตุลาคมปีนี้ผ่านไปก่อน ในขณะที่ตลาดอื่นๆ ก็ยังคงขยายตัวต่อเนื่องเพราะเป็นทั้งตลาดอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกเป็นธุรกิจที่เน้นการลงทุนในระยะยาว” นายสุรเชษฐ กล่าวสรุป

Previous articleบิ๊กประชารัฐ ฟันธง อีก 10 ปี อู่ตะเภาใหญ่กว่าสุวรรณภูมิ
Next articleเปลี่ยนทุกย่างก้าวให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ด้วยทางเดินล้ำนวัตกรรมจาก Pavegan