Ingenhoven Architects บริษัทสถาปนิกจากประเทศเยอรมัน หยิบเอาอาคาร Marina one อาคารสูงประเภท มิกซ์ยูส ที่รวมทุกความสุขของการใช้ชีวิตและการพักผ่อนอันแสนเลอค่า ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ มารีน่าเบย์ ประเทศสิงคโปร์ มาพัฒนาขึ้นใหม่ ให้กลายเป็นเมืองสีเขียวที่สมบูรณ์แบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นปีค.ศ. 2017
แผนการพัฒนา Marina One ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน 2 หลัง อาคารที่อยู่อาศัย 2 หลัง รวมทั้งหมด 4 อาคาร และส่วนของศูนย์การค้า จุดเด่นอยู่ตรงสวนสาธารณะขนาดยักษ์ “Green Heart” เป็นสวนสีเขียวแนวดิ่งขนาด 65,000 ตารางฟุต และน้ำตกจำลองสูง 13 เมตร ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางวงล้อมของอาคารทั้ง 4 หลัง โดยตัวอาคารตั้งเรียงกันในลักษณะเว้นช่องโหว่ไว้ด้านใน แล้วเติมเต็มด้วยพืชพรรณนานาชนิด ซึ่งการจัดวางอาคารในลักษณะนี้ เช่นเดียวกับรูปแบบของโครงสร้างอาคาร ที่มีการเจาะรูไว้ให้มีช่องระบายอากาศตามธรรมชาติ จะช่วยทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีและเกิดความร่มรื่นภายในพื้นที่สีเขียว
อาคารสำนักงาน 2 อาคาร มีทั้งหมด 30 ชั้น โดยชั้นบนสุดของทั้งสองอาคารเป็นสวนหย่อมลอยฟ้า ที่ผู้เยี่ยมชมและผู้พักอาศัยสามารถขึ้นมาเดินเล่น พักผ่อน พร้อมรับชมวิวสวย ๆ เหนือน่านฟ้าแดนลอดช่อง ถัดลงมาที่ชั้น 28 และ 29 เป็นชั้นที่มีความแน่นสูง (High-Density) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานระดับเกรดเอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ อีกสองอาคารที่อยู่ข้างกัน คืออาคารที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ มีทั้งหมด 34 ชั้น จำนวน 1,042 ยูนิต ตั้งแต่ขนาด 1-4 ห้องนอน รวมไปถึงห้องเพนท์เฮาส์สุดหรู เหมาะสำหรับระดับเศรษฐีจับจอง
นอกจากการสร้างสรรค์ภูมิทัศน์พืชพรรณให้เป็นส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรมได้อย่างแนบเนียนแล้ว ทีมสถาปนิกยังใส่ใจเรื่องของระบบอาคารที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ระบบระบายอากาศแบบประหยัดพลังงาน, อุปกรณ์บังแดดภายนอกอาคาร สามารถลดพลังงานความร้อนที่ถ่ายเทเข้ามาในอาคารและลดปริมาณของแสงที่เข้ามาในอาคาร, แผ่นกระจกติดอาคารคุณภาพสูง เพื่อลดรังสีดวงอาทิตย์เข้าสู่อาคารโดยตรง, การติดตั้งระบบเก็บกักน้ำฝน เพื่อนำน้ำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดภายในอาคาร เช่น การนำน้ำไปใช้สำหรับกำจัดของเสียจากโถสุขภัณฑ์ เป็นต้น และการติดตั้งแผง Photovoltaic Cells หรือ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่แปลงพลังงานแสงให้เป็นพลังงานไฟฟ้า โดยใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์
Marina one แวดล้อมด้วยระบบขนส่งที่แสนสะดวกสบาย ทั้งการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน 6 สถานี และรถประจำทางตามจุดต่าง ๆ ตลอดจนการจัดตรียมพื้นที่จอดรถจักรยาน และจุดชาร์ตไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า E-car จำนวนมาก เพื่อลดการปล่อยมลพิษจากปัญหารถติด พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อรองรับปัจจัยพื้นฐานของการดำรงชีวิต เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ ฟิตเนส ศูนย์อาหาร ซูเปอร์มาเก็ต เป็นต้น
Source: Designboom