สำหรับท่านใดที่ต้องการลงทุนด้านอสังหาฯ ในประเทศจีน ณ ช่วงนี้ อาจต้องคิดไตร่ตรองหนักกว่าเดิม เพราะเมืองบางแห่งโดยเฉพาะเซี่ยงไฮ้และเซิ่นเจิ้น ได้เพิ่มข้อบังคับสำหรับการซื้ออสังหาฯ เพื่อแก้ปัญหามูลค่าที่ดินเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มวงเงินดาวน์บ้านขั้นต่ำสำหรับกลุ่มผู้อาศัยชาวจีน ส่วนกลุ่มผู้อาศัยชาวต่างชาติจะต้องใช้เวลาอาศัยอยู่ในเมืองเป็นเวลานานขึ้นกว่าเดิม จึงจะมีสิทธิซื้ออสังหาฯ ภายในเมืองได้
ตามข้อมูลล่าสุดของสำนักสถิติแห่งชาติของประเทศจีน รายงานว่า ราคาอสังหาฯ ในเมืองเศรษฐกิจหลายแห่งพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น อสังหาฯ ในเมืองเซี่ยงไฮ้ มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 21 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกันราคาอสังหาฯ ที่เมืองเซิ่นเจิ้นก็สูงถึง 57 เปอร์เซ็นต์ เป็นประจำทุกปี ส่งผลให้ทางภาครัฐของจีนต้องออกนโยบายเพิ่มข้อบังคับสำหรับชาวต่างชาติในการซื้ออสังหาฯ ในประเทศ
ก่อนหน้านี้ ผู้อยู่อาศัยต่างชาติสามารถซื้ออสังหาฯ ในเมืองเซี่ยงไฮ้ได้ ถ้าพวกเขาได้เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองเป็นอย่างน้อย 2-3 ปี แต่ตามข้อบังคับใหม่ ชาวต่างถิ่นจะต้องนำเอกสารใบกำกับภาษี รวมถึงประกันสังคม อันเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าได้อาศัยอยู่ในเมืองเป็นเวลา 5 ปี ติดต่อกัน จึงจะครอบครองอสังหาฯ ในเมืองเซี้ยงไฮ้ได้ เช่นเดียวกันกับเมืองเซินเจิ้นที่เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งในขณะนี้ชาวต่างชาติหากต้องการครอบครองอสังหาฯ จะต้องอยู่อาศัยในเมืองอย่างน้อยเป็นเวลา 3 ปี ติดต่อกัน ต่างจากก่อนหน้านี้ที่ต้องใช้เวลาเพียง 1 ปี เท่านั้น
ส่วนประชาชนชาวจีนเองก็ได้รับผลกระทบกับการซื้ออสังหาฯ ด้วยเช่นกัน เพราะทางภาครัฐของเมืองเซิ่นเจิ้นได้เพิ่มข้อบังคับสำหรับวางเงินดาวน์บ้านที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านหลังแรกและหลังที่สอง จากเดิมในอัตรา 30 เปอร์เซ็นต์ เป็น 40 เปอร์เซ็นต์ สำหรับเมืองเซี่ยงไฮ้นั้น ก็ได้เพิ่มอัตราเงินดาวน์บ้านขั้นต้ำอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ สำหรับบ้านพักอาศัยแบบปกติ และเพิ่มราคาเงินดาวน์ขั้นต่ำของบ้านแบบพิเศษให้เป็น 70 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมราคาดาวน์อยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ทั้งนี้สำหรับบ้านแบบพิเศษ จะมีลักษณะขึ้นอยู่กับขนาด สถานที่ตั้ง และราคาในตลาด ยกตัวอย่างเช่น บ้านที่มีขนาดไม่เกิน 140 ตารางเมตร และราคาต่ำกว่า 4.5 ล้าน หยวน (ประมาณ 25 ล้านบาท) จะจัดอยู่ในประเภทบ้านแบบปกติ
source : globalpropertyguide