ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้สถานประกอบการเพื่อความงามและสุขภาพอย่างร้านนวดแผนไทยและสปา ได้รับผลกระทบโดยตรงและจำเป็นต้องปิดบริการชั่วคราวตามมาตรการของรัฐบาล

ภายใต้มาตรการผ่อนปรนหลังจากสถานการณ์คลี่คลายแล้ว กลุ่มสถานประกอบการประเภทนี้จึงต้องเข้มงวดอย่างมากในการดูแลสภาพแวดล้อม โดยภาครัฐได้กำหนดมาตรฐานข้อปฏิบัติสำหรับผู้ให้บริการ และจากข้อปฏิบัติด้านการจัดการสถานที่โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้มุ่งเน้นที่ความปลอดภัย ลดการสัมผัส การคัดกรอง และการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล

อาจารย์ธนิต จึงดำรงกิจ
ดร.ศรีดารา ติเพียร

โดย อาจารย์ธนิต จึงดำรงกิจ และ ดร.ศรีดารา ติเพียร อาจารย์ประจำหลักสูตรออกแบบภายในคณะศิลปกรรมศาสตร์ และ RDI มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ได้ให้ความเห็นว่า ในด้านของการออกแบบ สามารถนำมาเป็นข้อปฏิบัติได้ 2 รูปแบบคือ แบบระยะสั้น (Short Term) และแบบระยะยาว (Long Term)

Short Term – ระยะสั้น      

การปรับปรุงในระยะสั้น  (Short Term) ได้แก่ การจัดการพื้นที่ที่มีผลกับความปลอดภัยของผู้ใช้บริการโดยตรง ซึ่งมีพื้นที่ 3 ส่วนหลัก ๆ ที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญ ดังนี้

  1. พื้นที่ต้อนรับและรอรับบริการ เป็นพื้นที่บริเวณส่วนหน้าร้าน ประกอบด้วยส่วนต้อนรับ จุดนั่งพักรอรับบริการ ให้คำปรึกษาคอร์สบริการ แสดงตัวอย่างผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่าย เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ จุดชำระเงิน สามารถปรับปรุงได้โดยแยกสัดส่วนพื้นที่ดังตัวอย่างตามรูป

  • สำหรับจุดคัดกรอง พื้นที่รอรับบริการ หากไม่มีพื้นที่ด้านนอกอาคาร ให้กันพื้นที่ต้อนรับส่วนหนึ่งไว้เป็นจุดคัดกรอง และมีฉากกั้นก่อนเข้าสู่พื้นที่นั่ง
  • พื้นที่รอรับบริการ ควรมีไม่เกิน 2 ที่นั่ง และต้องเว้นระยะห่างต่อที่นั่ง 1.50 เมตร และควรเป็นที่นั่งเดี่ยว
  • พื้นที่ให้คำปรึกษา เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ แคชเชียร์ ให้วางตำแหน่งของผู้ใช้บริการด้านหน้าเคาน์เตอร์ มีระยะห่าง 1.50 เมตร พร้อมติดตั้งฉากกั้นระหว่างผู้ใช้บริการ และผู้ให้บริการ
  1. พื้นที่ให้บริการนวด

  • พื้นที่บริการนวด หากเป็นพื้นที่รวม ให้เว้นระยะห่างระหว่างเตียงนวด อย่างน้อย 1.50 เมตร และติดตั้งฉากกั้นซึ่งเป็นวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย แต่ไม่ควรใช้ผ้า เนื่องจากเป็นวัสดุที่จับติดกับสิ่งสกปรกและสะสมเชื้อโรคได้ง่าย

  • ห้องนวดสปา ควรจัดเป็นห้องเตียงเดี่ยว และมีพื้นที่บริเวณรอบเตียงกว้างพอเหมาะ เหมาะสมกับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน

3. พื้นที่เก็บอุปกรณ์

  • พื้นที่จัดเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด 1-2 จุด เพื่อความสะดวกในการหยิบใช้งาน เนื่องจากเป็นข้อกำหนดที่สถานบริการต้องทำความสะอาดทุกครั้งหลังให้บริการ
  • พื้นที่เก็บอุปกรณ์ ควรแยกพื้นที่เก็บอุปกรณ์และผ้าที่ยังไม่ได้ใช้และที่ใช้แล้วห่างจากกัน และมิดชิด

 

Long Term – ระยะยาว

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะส่งผลกระทบต่อการออกแบบพื้นที่ในอนาคต ดังนั้นสถานประกอบการจึงควรมีแผนการปรับตัวและการจัดเตรียมสถานที่รับรองผู้ใช้บริการไว้ในระยะยาว (Long Term)

ทั้งนี้วงการวิชาชีพสถาปนิกต้องสามารถคิดค้นการออกแบบที่สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้บริการให้รู้สึกปลอดภัยต่อสุขอนามัย โดยผสมผสานศิลปะการออกแบบเข้ากับจิตวิทยาสภาพแวดล้อม ซึ่งควรออกแบบบนพื้นฐานที่ตอบสนองทางสรีระวิทยา และจิตวิทยา ปลอดภัยต่อสุขอนามัยของผู้ใช้งาน

ดังนั้นในมุมมองของนักออกแบบเอง จะมีอยู่ 3 องค์ประกอบที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ ได้แก่

องค์ประกอบที่ 1. การจัดการเชิงพื้นที่ในสถานบริการ

ควรคำนึงถึงหลักการจัดวางพื้นที่ ทางเดินสัญจรภายใน ขนาด ระยะห่างของพื้นที่ที่เหมาะสม

พื้นที่ใช้สอยภายใน ควรแยกกลุ่มการใช้งานอย่างชัดเจน จำกัดพื้นที่ของผู้ใช้บริการแต่ละคน รวมทั้งการสัญจรภายในร้าน ต้องแยกชัดเจนระหว่างผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ แบ่งเส้นทางในการเก็บสิ่งของที่ใช้งานแล้ว เช่น ผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า เพิ่มขนาดทางเดิน ขนาดเฟอร์นิเจอร์ ที่แยกการใช้งานเฉพาะบุคคล เน้นความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ

ซึ่งการจัดการเชิงพื้นที่มี  3 ส่วนที่ควรให้ความสำคัญ คือ

  1. พื้นที่ต้อนรับและจุดรอรับบริการ

  • จุดคัดกรองด้านนอก ควรเพิ่มจุดล้างมือในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยก่อนผู้ใช้บริการจะเข้าสู่พื้นที่ต้อนรับหรือจุดรอรับบริการ
  • จุดรอรับบริการ ควรใช้เก้าอี้แบบเดี่ยว และมีการเว้นระยะห่าง หรือคั่นด้วยโต๊ะข้าง

2. พื้นที่ให้บริการนวด

  • พื้นที่นวดเท้าและนวดแผนไทย หากเป็นพื้นที่นวดรวม ให้เว้นระยะของเตียงนวด 1.50 เมตรและติดตั้งฉากกั้นระหว่างเตียง สามารถปิดเปิดได้ แต่ต้องมีส่วนของผนังยื่นออกมา 1 เมตร และควรใช้เป็นประตูบานเลื่อนที่เชื่อมพื้นที่ได้แทนผ้าม่าน
  • พื้นที่นวดสปา ควรเป็นพื้นที่เตียงเดี่ยว หากจะออกแบบให้เป็นห้องเตียงคู่ ควรจัดวางตำแหน่งให้หันด้านปลายเท้าเข้าหากัน

3. พื้นที่สุขอนามัยในสถานบริการ

  • จัดวางพื้นที่ส่วนเก็บของที่ยังไม่ได้ใช้งานไว้ส่วนกลางของสถานบริการ และแยกพื้นที่ส่วนเก็บอุปกรณ์ที่ใช้แล้วไว้ส่วนด้านหลังสถานบริการ จัดการให้เป็นพื้นที่ปิดมิดชิด

องค์ประกอบที่ 2. การตกแต่งด้วยวัสดุปิดผิว

การเลือกใช้วัสดุภายใน ควรเลือกใช้วัสดุปิดผิวที่มีลักษณะผิวเรียบ ไม่เป็นรูพรุนซึ่งกักเก็บสิ่งสกปรกและเชื้อโรค เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด เช่น การใช้กระเบื้องเซรามิกผิวเรียบที่ผ่านการอบด้วยความร้อนสูง ใช้วัสดุปูพื้นด้วยไวนิล กระเบื้องยางแบบม้วน หรือลามิเนต

ทั้งนี้ อาจนำวัสดุปิดผิวดังกล่าวมาใช้สำหรับเป็นพื้นห้องนวด ผนัง ประตู เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีรอยต่อน้อย ลดการกักเก็บความชื้น ลดเสียงสะท้อน ควรหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุจากผ้าเนื่องจากจับกับสิ่งสกปรกได้ง่าย และกักเก็บเชื้อไวรัสได้นานถึง 8-12 ชั่วโมง (ข้อมูลจากกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค) ยกเว้นกรณีผ้าปูเตียง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่บุด้วยผ้า ควรเปลี่ยนวัสดุเป็นเบาะ PVC หรือหนังแทน

องค์ประกอบที่ 3. การระบายอากาศภายใน

หากสถานประกอบการเอื้ออำนวย ควรจัดระบบระบายอากาศให้ไหลเวียนได้ดี ด้วยช่องเปิดรับอากาศจากภายนอกสู่ภายใน ยกเว้นกรณีที่สภาพภูมิอากาศรอบอาคารไม่เอื้ออำนวย อาจจำเป็นต้องใช้ระบบปรับอากาศช่วยเพื่อให้เกิดการไหลเวียน และต้องกำหนดจุดติดตั้งที่เหมาะสม เช่น ยึดติดฝาพนัง แขวนฝ้าเพดาน หรือวางกับพื้น เพื่อให้อากาศที่สะอาดไหลเวียนไปยังพื้นที่ที่มีการใช้งาน และต้องมีระบบดูดอากาศเพื่อการไหลเวียนที่ดี

นอกจากนี้อาจเลือกการใช้วัสดุปิดผิวลามิเนตที่มีคุณสมบัติ ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ตามพื้นผิวต่างๆ ซึ่งอาจหมายถึงการนำมาใช้ในการปูผนัง ประตู เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ได้ตามต้องการ

ลามิเนตแรงดันสูง (High Pressure Laminate หรือ HPL) จาก Wilsonart ผลิตด้วยเทคโนโลยีพิเศษ ทำให้มีคุณสมบัติ Antibacteria ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ถึง 99.99% ภายใน 24 ชั่วโมง

จากเทคโนโลยีดังกล่าว ทำให้ลามิเนต Wilsonart สามารถป้องกันได้แม้กระทั่งเชื้อแบคทีเรียที่มีความรุนแรง อย่างเช่น เชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus (เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วงอย่างรุนแรงจนอ่อนเพลียมาก ปวดท้องและเป็นตะคริว ส่วนมากไม่มีไข้ บางรายมีอาการรุนแรงอาจช็อคได้)

อย่างไรก็ดีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของสถานบริการร้านนวดแผนไทย – สปา ต้องอาศัยความเข้าใจต่อการรับรู้สภาพแวดล้อมของตัวผู้ประกอบการเอง ซึ่งสภาพแวดล้อมส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้ใช้บริการ ในด้านการออกแบบสถานบริการจึงต้องสื่อสารบางอย่างให้ผู้ใช้บริการรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจในสุขลักษณะของสถานประกอบการนั้น ๆ ด้วย

 

 

ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ลามิเนต Wilsonart เพิ่มเติมได้ที่แคตตาล็อก https://issuu.com/wilsonartth/docs/e-catalogwsa2018v3_resize_

และเว็บไซต์ https://www.wilsonart.co.th/

Previous articleอิตัลไทย เร่งแผนฟื้น “ท่องเที่ยว–บริการ” ลุยขยายโรงแรมใหม่12 แห่ง พร้อมเสริมทัพ “ก่อสร้าง–เครื่องจักรกล” ฝ่าพิษโควิด-19
Next articleทช.ผนึกกำลังวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ
มุ่งเสริมศักยภาพบุคลากรด้านวิศวกรรมงานทางทั่วประเทศ
Porntiwa
สาวรัฐศาสตร์หน้าใส หัวใจรักการเขียน ผู้ผันตัวจากสายการเมือง มุ่งหน้าสู่สถาปัตยกรรมเต็มตัว