บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) โชว์ศักยภาพผู้นำคอนโดติดรถไฟฟ้า พร้อมตอกย้ำความแข็งแกร่งกับพันธมิตรเบอร์ 1 ของญี่ปุ่น ‘มิตซุย ฟูโดซัง’ ที่มอบความไว้วางใจ ร่วมทุนต่อ 3 โครงการใหญ่ กว่า 12,000 ล้านบาทและอยู่ระหว่างพิจารณาร่วมทุนต่ออีกหลายโครงการปีนี้ เผยแผนธุรกิจ 4 เดือนหลังเปิด 6 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ พร้อมโชว์ความสำเร็จได้รับการตอบรับดีเหนือความคาดหมาย จาก 2 โครงการใหม่ล่าสุด ไอดีโอ โมบิ อโศก และ เวนิโอ สุขุมวิท 10
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจาก บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้นความร่วมมือในปี 2013 จนถึงปัจจุบัน โดยได้ร่วมมือกันพัฒนาโครงการติดรถไฟฟ้าที่มีคุณภาพมาแล้ว 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 45,000 ล้านบาท ซึ่ง มิตซุยฯ เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของอนันดาฯ เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ด้านธุรกิจก่อสร้างมากว่า 340 ปี ซึ่งผลจากการร่วมทุนที่ประสบความสำเร็จที่ผ่านมาทำให้มีการวางแผนเดินหน้าสร้างความยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่องด้วยการทำสัญญาร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการใหม่อีก 3 โครงการ มูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมทุนในอนาคตอีกหลายโครงการเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าที่ตอบโจทย์และไลฟ์สไตล์ของคนเมืองอย่างลงตัวที่สุด
ในช่วง 4 เดือนหลังของ 2559 นี้ บริษัทฯ มีแผนการเปิดตัวที่สุดของคอนโดมิเนียมบนสุดยอดทำเลศักยภาพ พร้อมกัน 6 โครงการ มูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ ไอดีโอ, ไอดีโอ โมบิ, เวนิโอ, ยูนิโอ ประกอบด้วย 3 โครงการความร่วมมือภายใต้การร่วมทุนกับ บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด มูลค่ารวมกว่า 12,000 ล้านบาท ได้แก่ 1.) โครงการ ไอดีโอ โมบิ อโศก สูง 36 ชั้น จำนวน 507 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,240 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 4.19 ล้านบาท 2.) โครงการ ไอดีโอ สุขุมวิท 93 สูง 38 ชั้น จำนวน 1,332 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,072 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท และ 3.) โครงการ ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 66 สูง 28 ชั้น จำนวน 298 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,288 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5.19 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าทั้ง 3 โครงการความร่วมมือนี้จะสามารถสร้างความสนใจครั้งใหญ่ให้คนเมืองได้อีกครั้ง และอีก 3 โครงการคุณภาพที่เตรียมตัวเปิดในช่วง 4 เดือนหลังนี้ก็เช่นกัน ได้แก่ โครงการ ไอดีโอ พหลโยธิน – จตุจักร สูง 37 ชั้น จำนวน 400 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,513 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท โครงการ เวนิโอ สุขุมวิท 10 สูง 8 ชั้น จำนวน 162 ยูนิต มูลค่าโครงการ 875 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท และโครงการ ยูนิโอ นิด้า-เสรีไทย สูง 8 ชั้น จำนวน 703 ยูนิต มูลค่าโครงการ 932 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 950,000 บาท
บริษัทฯ ประสบความสำเร็จดีเกินความคาดหมายอีกครั้งจากผลตอบรับที่ดียิ่งของการเปิดขาย 2 โครงการใหม่ล่าสุดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นโครงการสุดยอดทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ได้แก่ โครงการ ไอดีโอ โมบิ อโศก (IDEO Mobi Asoke) โดยสามารถสร้างยอดขายแล้วกว่า 70% และ โครงการ เวนิโอ สุขุมวิท 10 (Venio Sukhumvit 10 ) คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ล่าสุด ภายใต้การพัฒนาโครงการโดย บริษัท เฮลิกซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอนันดาฯ โดยสามารถสร้างยอดขายรวมเกือบ 90% ดำเนินงานด้านการขายโดยบริษัท ดิ เอเจ้นท์ จำกัด
ซึ่งลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของอนันดานั้น มีตั้งแต่คนวัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงอายุ และไม่ใช่เพียงผู้บริโภคระดับสูง แต่ยังจัดทำโครงการโดยคำนึงถึงคนทุกกลุ่ม ให้สามารถเข้าถึงได้ โดยมีการเพิ่มเติมทางด้านเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ เช่น wheel-chair, การใช้ลิฟท์โดยสาร ยิ่งไปกว่านั้น อนันดาฯ ก็ยังคงยืนหยัดในจุดแข็งที่นับเป็นกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งในเวลาเดียวกัน ซึ่งก็คือ จุดแข็งในเรื่องของโลเคชั่น การออกแบบ และราคา โดยพัฒนาระบบก่อสร้าง และระบบดีไซน์ให้ดีกว่าเดิม ให้ความสำคัญในสิ่งที่สำคัญต่อผู้บริโภค เช่น การดึงเอาจุดเด่นทางด้านเทคโนโลยี อย่างการขายออนไลน์ การใช้โซเชียลมีเดียเข้ามาร่วมด้วย
คุณอะกิฮิโกะ ฟูนาโอกะ Executive Managing Officer บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่สุด และมีรายได้และกำไรสูงสุดในประเทศญี่ปุ่น มีมูลค่าทางการตลาดสูงถึง 7 แสนล้านบาท เปิดเผยว่า ตั้งแต่ได้มีการทำสัญญาความร่วมมือ บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของอนันดาฯ ในการเป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมทำเลใกล้รถไฟฟ้าที่ดีที่สุด มีความเชี่ยวชาญและศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่โดดเด่นทั้งคุณภาพและการออกแบบโครงการที่ดึงดูด และสามารถตอบรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าย่านใจกลางเมืองได้เป็นอย่างดี แสดงให้เห็นว่า อนันดาฯ เป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย และ เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญของ มิตซุย ฟูโดซัง และหวังว่าจะมีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งร่วมกันต่อไป โดยมีความเชื่อมั่นในความสำเร็จ ในปีนี้เรามีอีก 3 โครงการใหม่ที่จะร่วมลงทุน ได้แก่ โครงการไอดีโอ โมบิ อโศก โครงการ ไอดีโอ สุขุมวิท 93 และโครงการ ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 66 โดยจุดแข็งของโปรเจคร่วมทุน มีทั้งหมด 4 จุด ได้แก่ 1.) เปิดโครงการในจุดที่ใกล้กับ Mass Transit 2.) ภาพรวมการออกแบบโครงการที่ดึงดูดความสนใจ 3.) ใช้โซเชียลมีเดียเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาด และ 4.) มีความสัมพันธ์อันดีต่อดีไซเนอร์ contractor และ service provider ซึ่งการร่วมทุนใหม่นี้ ถือเป็นกลยุทธ์ในการสร้างคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าที่ตอบสนองความสะดวกสบายและมีสิ่งอำนวยความสะดวก ในราคาที่สมเหตุผลและสามารถจับต้องได้
“มิตซุย ฟูโดซัง มีนโยบายที่จะเติบโตทางธุรกิจในต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยเป็นประเทศที่สำคัญที่สุดสำหรับกลยุทธ์ด้านการลงทุนของ มิตซุย ฟูโดซัง เพราะการพัฒนาระบบการขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็วในภูมิภาคนี้ และเราคาดหวังที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัยให้เจริญเติบโตในพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟฟ้า มิตซุย ฟูโดซังมีความมั่นใจอีกด้วยว่า ความรู้ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของอนันดาฯ จะสามารถสร้างโครงการที่มีนวัตกรรมและมูลค่าซึ่งสามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า บริษัทของเราต้องการที่สนับสนุนบริษัท อนันดาฯ และพัฒนาโครงการร่วมทุนอื่น ๆ ด้วยกันอีก
นอกจากนี้ อนันดาฯ ยังเตรียมจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยการจัดงาน “ANANDA URBAN PULSE” นำเสนอคอนโดติดรถไฟฟ้าครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ระหว่างวันที่ 20-23 ตุลาคม 2559 ณ. ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้แนวคิด “SHIFT TO A NEW PARADIGM OF LIVING” เพื่อนำเสนอบริบทใหม่ของการใช้ชีวิตสำหรับคนเมือง โดยนำเสนอนวัตกรรมแห่งการอยู่อาศัยที่มีเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาผสมผสานกับการใช้ชีวิตเมืองมากขึ้น หรือ SMART LIVING ไม่ว่าจะเป็นด้านความสะดวกสบาย ด้านความปลอดภัย หรือในด้านของการอยู่อาศัยในมิติอื่น ๆ เพื่อการใช้ชีวิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งมีการออกแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับแนวคิด “SHIFT TO A NEW PARADIGM OF LIVING” โดยตั้งใจนำเสนอรูปแบบงานให้เป็น Event แห่งอนาคต ที่ผู้ร่วมงานจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของ Event ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยเทคโนโลยีการนำเสนอข้อมูลโครงการในรูปแบบใหม่ อาทิ Isolate map , 3D Simulator , Dynamic VR และอีกมากมาย พิเศษสุดเมื่อจองห้องชุดภายในงานจะได้รับ Samsung Gear Fit 2 (เฉพาะโครงการที่กำหนด) หรือแค่เข้าร่วมงานก็มีสิทธิ์ร่วมลุ้นรับ Siam Paragon Gift Card มูลค่า 5,000 บาท จำนวน 20 รางวัลต่อวัน ซึ่งบริษัทฯ ได้คัดสรรและรวบรวมโครงการคอนโดมิเนียมคุณภาพติดรถไฟฟ้า กว่า 14 โครงการทั่วกรุงเทพฯ มานำเสนอซึ่งเป็นการส่งเสริมการขายที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพบนทำเลศักยภาพสูงติดสถานีรถไฟฟ้าของอนันดาฯ สามารถเลือกชมโครงการต่าง ๆ ได้อย่างใกล้ชิดก่อนใครพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษเมื่อจองภายในงาน ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าความต้องการที่อยู่อาศัยยังคงเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งเห็นได้จากการให้ความสนใจและตอบรับเป็นอย่างดีทุกครั้งของการเปิดตัวโครงการของบริษัทตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา