ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เผยคนจีนสนใจซื้ออสังหาฯ ของไทย เป็นอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และขึ้นเป็นอันดับสองในโลกรองจากญี่ปุ่น แซงอเมริกา

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ระบุว่า จากข้อมูลในเว็บไซต์ Anjuke ในเดือนพ.ค. 2564 พบว่า คนจีนที่จะซื้ออสังหาฯในต่างประเทศ ประเทศติดอันดับหนึ่ง คือญี่ปุ่น 51% อันดับสองไทย 17% อันดับสามสหรัฐอเมริกา 11% ซึ่งจะเห็นได้ว่าประเทศแถบเพื่อนบ้านคนจีนสนใจซื้อแค่ 2%เท่านั้น เพราะอสังหาฯ สิงคโปร์ ราคาแพงขั้นต่ำราคา 25 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งหากซื้อในระดับราคานี้สามารถซื้ออสังหาฯในอังกฤษ อเมริกา ยังสามารถไปอยู่ที่ประเทศนั้นได้ หรือถ้าเป็นประเทศเวียดนามยังติดปัญหาเรื่องรัฐบาลควบคุมอยู่พอสมควร ส่วนมาเลเซียอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องศาสนาจึงเป็นข้อจำกัดสำหรับคนจีน ตรงนี้ทำให้ประเทศไทยขึ้นมากลายเป็นประเทศอันดับสองที่คนจีนสนใจเข้ามาซื้ออสังหาฯ

ขณะเดียวกันเมื่อเจาะลึกลงมาเฉพาะประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศไทยได้รับความสนใจจากคนจีนที่เข้ามาซื้ออสังหาฯเป็นอันดับหนึ่งด้วยสัดส่วน 52% อันดับสอง ฟิลิปปินส์ 15% อันดับสามสิงคโปร์ 14% อันดับสี่ มาเลเซีย 11% อันดับห้าเวียดนาม 5% และอันดับหกพม่า 3%

นอกจากนี้ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ยังได้ประเมินว่า ‘โอกาส’ ที่ชาวต่างชาติที่กลับมาซื้ออสังหาฯ เมืองไทยยังมีโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหลักยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าจีน ซึ่งในปีที่ผ่านมายอดโอน 60% มาจากลูกค้าจีนซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี เพราะภาพรวมของปี 2563 ที่ผ่านมา ประเทศจีนเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศ ที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ จีดีพีเป็นบวก อยู่ที่ 2.3% มีประชากรประมาณ 1.4 พันล้านคน ซึ่งมีการแบ่งเมืองออกเป็น  4 เทียร์ (Tier) ต่าง ๆ จาก 613 เมือง เมืองเทียร์ 1 ได้แก่ ปักกิ่ง เซียงไฮ้ กวางโจ ซึ่งเป็นเมืองที่พัฒนามากที่สุดทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสาธารณูปโภคสิ่งอำนวยความสะดวก ประชากรมีกำลังซื้อสูงมาก ส่วนเทียร์ 2 จะเป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ เช่น เซินเจิน เฉินตู

ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าจีนที่เข้ามาซื้ออสังหาฯ ในเมืองไทยจะอยู่ใน เทียร์ 1-2 แต่ทว่าเมืองที่อยู่ในเทียร์ 3-4 ของจีนก็เป็นกลุ่มลูกค้าที่น่าสนใจในการดึงมาซื้ออสังหาฯ ในประเทศไทยด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ทำให้ชาวจีนนิยมเข้ามาลงทุนอสังหาฯ ในเมืองไทยนั้น มี 2 กลุ่มหลัก กลุ่มแรกเป็นการซื้อเพื่อลงทุนเหมือนการซื้อหุ้น กลุ่มที่สองเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองโดยเฉพาะคนที่มีฐานะ มักซื้อระดับราคาเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวอย่าง ภูเก็ตและพัทยา เพราะตามหลักฮวงจุ้ย ข้างหน้าต้องเป็นทะเล ข้างหลังต้องเป็นภูเขา เป็นโลเคชั่นที่เหมาะสำหรับการเป็นที่อยู่อาศัย ทำให้คนจีนนิยมลงทุนซื้ออสังหาฯ ในประเทศไทย

Source

กรุงเทพธุรกิจ

 

Previous articleชวนดู Spoon Archaeology
งานจัดแสดงช้อนส้อมพลาสติกสุดแปลก
ในงาน London Design Biennale
Next article“September Cafe” คาเฟ่โครงสร้างเหล็กใจกลางโฮจิมินห์ซิตี้ สะท้อนสีสันของฤดูใบไม้ร่วง ผ่านการบอกเล่าเรื่องราว “The Wind And The Nest”
จิตรกมล ขวัญแก้ว
สาวขี้อาย จบการศึกษาคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน ที่ชอบแสงแดดยามบ่าย ไอซ์ลาเต้ และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสนใจทางด้านสถาปัตยกรรม