ผู้พัฒนาวัสดุก่อสร้าง Watershed Materials จากแคลิฟอร์เนีย ใช้เวลากว่า 4 ปี ในการวิจัยและพัฒนา ‘อิฐดินเหนียว’ เพื่อเป็นคอนกรีตทางเลือก โดยเปลี่ยนจากการใช้ซีเมนต์ มาเป็นวัสดุจากธรรมชาติ และใช้ประโยชน์จากแร่ธาตุที่อยู่ในวัสดุเชื่อมประสานจีโอโพลิเมอร์ เพื่อช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นตัวการหลักของภาวะโลกร้อน
ทั้งนี้ การผลิตซีเมนต์ เพียงอย่างเดียว มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สู่ชั้นบรรยากาศในปริมาณมากถึง 6% จึงถือเป็นกระบวนการหนึ่งที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือภาวะโลกร้อน การวิจัยและพัฒนาคอนกรีตทางเลือกในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐฯ (NSF) สำหรับคอนกรีตทางเลือกที่คิดค้นขึ้น เป็นการผสมผสานทั้งความสวยงาม ความแข็งแรงคงทน มีความยืดหยุ่น ราคาถูก และที่สำคัญใช้ซีเมนต์น้อยกว่าเดิมถึง 50% และลดการใช้พลังงานในการผลิตมากถึง 65%
เทคโนโลยีของ Watershed Materials ยังดึงเอาความแข็งแรงจากแร่ธาตุต่าง ๆ รอบตัวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งแร่ธาตุจากหินปูน แกรนิต และไรโอไลท์ เป็นต้น สำหรับวัสดุธรรมชาติที่นำมาใช้แทนซีเมนต์คือ “ดินเหนียว” ที่หาได้ง่ายและมีอยู่ทุกหนแห่งทั่วโลก โดยการวิจัยค้นพบว่าคุณสมบัติของดิน ตอบสนองปฏิกิริยาทางเคมีได้เป็นอย่างดีกับวัสดุเชื่อมประสานจีโอโพลิเมอร์ (Geopolyme) ข้อดีที่ได้คืออายุการใช้งานยาวนาน ทนแรงกดดันได้สูง ทนต่อการกัดกร่อนจากเคมีภัณฑ์ และถือเป็นคอนกรีตทางเลือกที่ทนในทุกสภาวะแวดล้อม นอกจากนี้ การทดสอบความทนแรงอัดยังพบว่า “อิฐดินเหนียว” สามารถทนรับแรงกดได้ที่ 7,000 แรงปอนด์/ตารางนิ้ว (psi) มากกว่า อิฐคอนกรีตธรรมดาทั่วไปถึง 2 เท่า
อนึ่ง การพัฒนาวัสดุก่อสร้างทางเลือก เพื่อความยั่งยืนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ในแง่ของการตระหนักและใส่ใจต่อธรรมชาติ โดยก่อนหน้านี้ ทีมนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซสต์ หรือ MIT ได้ร่วมกันพัฒนา “Eco-BLAC” อิฐทางเลือก เพื่อมาแทนที่อิฐมอญ หรืออิฐดินเผาแบบเดิม ๆ เนื่องจากเป็นการทำลายหน้าดินที่ใช้เป็นพื้นที่ในการเผาอิฐ ทั้งยังใช้ความร้อนในการเผาไหม้สูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส รบกวนพื้นที่เกษตรกรรม และสร้างมลภาวะทางอากาศ สำหรับอิฐทางเลือก “Eco-BLAC” จะผลิตจากขยะอุตสาหกรรม ประหยัดค่าใช้จ่าย และใช้พลังงานในกระบวนการผลิตน้อยเช่นกัน
