ฟอร์ไมก้า (Formica) แบรนด์ลามิเนตเจ้าแรกของโลกที่มีอายุถึง 108 ปี ได้รับการยอมรับในกลุ่มวัสดุปิดผิวลามิเนตในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการออกแบบ การผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิดผิวล้ำนวัตกรรม สำหรับการใช้งานทั้งบ้านพักอาศัยและพาณิชย์
วันนี้เราขอย้อนอดีตกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของ ฟอร์ไมก้า แบรนด์ที่ได้ชื่อว่าไม่หยุดพัฒนา คัดสรรสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน และคิดค้นคุณสมบัติที่ดีที่สุดเท่านั้น
ย้อนกลับไปในปี 1912 สองวิศวกรไฟฟ้าหนุ่ม เดเนียล โอ คอเนอร์ (Daniel O’Conor) และ เฮอร์เบิร์ต เฟเบอร์ (Herbert Faber) จากเมืองซินซินนาติ (Cincinnati) รัฐโอไฮโอ (Ohio) ทั้งสองคนได้ค้นพบว่าเม็ดพลาสติกแรงดันสูงมีคุณสมบัติที่สามารถเทียบเคียงได้กับวัสดุตระกูลแร่ไมกา ซึ่งใช้เป็นวัสดุสำหรับผลิตชิ้นส่วนของฉนวนไฟฟ้า ซึ่งพวกเขาคิดว่า น่าจะสามารถนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นได้
พวกเขาจึงทดลองและค้นคว้ามัน ก่อนจะก่อตั้งบริษัท ฟอร์ไมก้า (Formica) ขึ้น โดยคำว่า For เป็นคำที่สื่อว่าพวกเขาจะหาวัสดุที่มาทดแทนแร่ไมกา นั่นคือเม็ดพลาสติกแรงดันสูงนั่นเอง
Formica จดสิทธิบัตรในปี 1913 และเรื่องราวการเดินทางก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ปี 1917 ได้พัฒนาชิ้นส่วนสำหรับการสื่อสารของกองทัพเรือสหรัฐฯ
ปี 1930 ฟอร์ไมก้าได้โฟกัสผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จากเดิมที่ทำอะไหล่สำหรับธุรกิจไฟฟ้าและอะไหล่รถยนต์ มาเป็นผลิตภัณฑ์ประเภท ลามิเนต สำหรับเฟอร์นิเจอร์หรือ ท็อปเคาน์เตอร์ที่นิยมในปัจจุบัน
ปี 1931 ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามบวกกับความคงทน ฟอร์ไมก้า จึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการตกแต่งภายใน ไม่ว่าจะเป็น คาเฟ่, ไนท์คลับ, รถยนต์ หรือแม้แต่เรือเดินสมุทรอย่าง RMS Queen Mary และ Queen Elizabeth 2
ปี 1936 ลามิเนตของ ฟอร์ไมก้า ได้เริ่มติดตั้งในโรงพยาบาล เช่น ห้องน้ำ, ห้องตรวจของแพทย์ เป็นต้น
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ฟอร์ไมก้า ได้ช่วยเหลือกองทัพด้วยการผลิตส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ใช้ในทางทหาร เช่น ชิ้นส่วนระเบิด ใบพัดเครื่องบิน เป็นต้น จนสงครามสิ้นสุดลงในปี 1945
ภายหลังสงคราม ฟอร์ไมก้า เริ่มตีตลาดวงกว้าง จากเมืองหลวงสู่ชานเมือง ไม่นานลามิเนตจากฟอร์ไมก้าก็เริ่มเป็นที่พูดถึง
ปี 1952 ฟอร์ไมก้า ได้ขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ ในฐานะวัสดุปิดผิวลามิเนตที่เหมาะกับครัวยุคโมเดิร์น
ถัดมา 1 ปี ฟอร์ไมก้าได้พัฒนาให้ลามิเนตสามารถโค้งงอได้ สร้างความน่าสนใจไม่น้อยสำหรับผู้ที่สนใจในช่วงเวลานั้น
ยอดขายพุ่งทะยานสู่ 24 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 1958 ทำให้ฟอร์ไมก้า กลายเป็นเบอร์ 1 เรื่องลามิเนต
ช่วงเวลานั้น เป็นช่วงที่ลามิเนตของฟอร์ไมก้า กลายเป็นสัญลักษณ์ของวิถีชีวิตสไตล์โมเดิร์น และกระจายออกไปทั่วโลก ด้วยความสามารถในการออกแบบที่ยอดเยี่ยม และคุณสมบัติที่ตอบสนองการใช้งานที่ตรงรูปแบบ
ปี 1977 ได้ก่อตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการออกแบบ เพื่อพัฒนาลามิเนต ให้มีผิวสัมผัสแบบใหม่ เฉดสีใหม่ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย รวมถึงคุณสมบัติใหม่ ๆ
แม้จะเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจในช่วงปี 1980 ถึง 1990 ที่ทำให้ฟอร์ไมก้าเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในบริษัท แต่ก็สามารถขยายกิจการไปได้ทั่วโลก และยังคงเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องของลามิเนตตลอดมา
การพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง ประกอบกับการหาไอเดียใหม่ ๆ ทำให้ ฟอร์ไมก้า ขึ้นชื่อเรื่องลามิเนต และการไม่หยุดนิ่ง ทำให้ผลิตภัณฑ์ของฟอร์ไมก้า มีให้เลือกมากมาย แม้จะผ่านไปนานกว่า 100 ปี แต่ฟอร์ไมก้าก็ยังคงคุณภาพและมาตรฐานระดับเดิมตลอดมา
และปีนี้ เฟอร์ไมก้าได้ต่อยอดคอลเลกชัน DecoMetal® พร้อมเปิดตัววัสดุปิดผิวโลหะเพื่อการตกแต่งที่โดดเด่น ส่งมอบความแวววาวและเปล่งประกายด้วยผิวสัมผัสที่สะท้อนชีวิตชีวา ความทันสมัย และความชื่นชมที่มีต่องานหัตถศิลป์อย่างลึกซึ้ง
คอลเลกชัน DecoMetal® ชุดล่าสุดนี้ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 70 รุ่น รวมเป็น 117 ดีไซน์สำหรับการตกแต่งที่ครอบคลุมทุกสไตล์การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบคลาสสิกไปจนถึงสมัยใหม่ หรือสไตล์งานทำมือไปจนถึงงานดีไซน์จัดจ้าน สำหรับคอลเลกชันนี้ ฟอร์ไมก้าได้แนะนำวัสดุตกแต่งและปิดผิวโลหะมันวาวสุดตระการตา ซึ่งมีผลิตภัณฑ์รุ่นเด่นบางส่วนจากคอลเลกชันนี้ ได้แก่ Moon, Diamond Antique และ New Crisp
“Moon” มาพร้อมสีสันของทองแดงและทองเหลือง ทั้งแบบสีธรรมชาติและแบบมันวาว รวมทั้งการผสมผสานของทองแดงและเทอร์ควอยส์ภายใต้พื้นผิวกัดกร่อน ราวกับรอยฝีเกรียงของช่างปูนที่ถากลงบนผิวหิน เกิดเป็น “ร่องรอยการใช้งาน” ที่ส่งผ่านชีวิตชีวาสู่งานออกแบบภายใน ผลลัพธ์ที่ได้ครอบคลุมตั้งแต่บรรยากาศในแบบโรงปฏิบัติงานดิบ ๆ ไปจนถึงงานลอฟท์ที่ดูทันสมัย ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่จากซีรีส์ Moon ประกอบด้วย Moon Light Copper, Moon Turquoise Copper, Moon Dark Copper และ Moon Brass
การเกลี่ยสีทองแดงและทองเหลืองอย่างนุ่มนวล ตัดกับเส้นทแยงและลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนอันคมชัด เกิดเป็นปฏิกิริยาระหว่างสีสันและเส้นสายบนพื้นผิวของ “Diamond Antique” เคลือบผิวโลหะทั้ง 2 ชั้น ต่างเล่นล้อไปกับแสง รูปทรง และสีสันของสภาพแวดล้อมได้อย่างลงตัว พื้นผิวใหม่จากผลิตภัณฑ์ชุดนี้ประกอบไปด้วย Diamond Antique Brass, Diamond Antique Copper และ Diamond Antique Bronzetone
เส้นร่องเล็ก ๆ ในชุดผลิตภัณฑ์ “New Crisp” สร้างเอกลักษณ์บนพื้นผิวที่ไม่เหมือนใคร พร้อมด้วยสีสันหลากหลาย รองรับทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Crisp Rose, Crisp Oxygreen, Crisp Gold หรือ Crisp Anthracite ที่ขับเน้นให้เห็นเส้นสายแร่อันโดดเด่น หรือจะเป็นโทนสีเข้มอย่าง Crisp Antique Copper ที่เส้นสายแตกแขนงแฝงตัวอยู่บนพื้นผิวอย่างกลมกลืน
สำหรับสัมผัสที่หรูหรา ฟอร์ไมก้าได้นำเสนอพื้นผิวโลหะมันวาว ทั้งสีทอง สีเงิน และสีทองแดง เคลือบด้วยผิวกระจกลวดลายเฉพาะตัว อาทิ Cella, Cascade และ Crossline ความงดงามของพื้นผิวโลหะอันเลอค่าจะช่วยสรรสร้างผลลัพธ์ที่ชวนมองอย่างแท้จริง พร้อมทั้งมอบภาพลักษณ์เหนือระดับด้วยเฉดสีที่หลากหลายและผิวเคลือบสุดสะดุดตา ซึ่งผสานกันอย่างลงตัวเพื่อผลงานออกแบบที่โดดเด่น
คอลเลกชัน DecoMetal® เหมาะสำหรับงานเบาทั้งแนวดิ่งและแนวราบ ไม่ว่าจะเป็นผืนผนัง ท็อปโต๊ะ เฟอร์นิเจอร์ แท่นวางผลิตภัณฑ์ ป้าย งานนิทรรศการและจัดแสดงสินค้า ลองสัมผัสคุณสมบัติการใช้งานที่หลากหลายของลามิเนต ที่ก้าวล้ำเกินกว่าแค่ผลิตภัณฑ์ตกแต่ง
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับฟอร์ไมก้า และผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุดได้ที่ www.formica.com
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.formica.com/en-us/articles/industry/history-of-the-formica-brand