วันนี้ (9 มีนาคม 2562) เป็นวันแรกของการเปิดใช้อย่างเป็นทางการของทางหลวงหมายเลข 304 สาย อ.กบินทร์บุรี – อ.ปักธงชัย (ทางเชื่อมผืนป่ามรดกโลก) เส้นทางสายยุทธศาสตร์เชื่อมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นเส้นทางสายหลักที่รองรับการขนส่งสินค้าจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่ท่าเรือแหลมฉบังและนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก

ส่วนหนึ่งของทางหลวงสายนี้อยู่ในพื้นที่รอยต่อของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่-อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของพื้นที่มรดกโลกดงพญาเย็นเขาใหญ่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จึงมีก่อสร้างทางเชื่อมผืนป่าที่ได้ออกแบบเป็นอุโมงค์และสะพานสำหรับสัตว์ข้าม

ทางเชื่อมแรกเป็นอุโมงค์ชนิดดินตัดและถมกลับ (Wildlife Overpass) ด้วยการถมดินด้านบนอุโมงค์ ปลูกต้นไม้  พร้อมทั้งปรับปรุงภูมิทัศน์และระบบนิเวศ เพื่อจูงใจให้สัตว์ป่าเข้ามาใช้ประโยชน์ และสามารถข้ามฝั่งไป-มาได้

นอกจากนี้ ยังได้ก่อสร้างสะพานทางยกระดับเพื่อเป็นทางลอดสัตว์ป่า (Wildlife Underpass) ซึ่งรถสามารถวิ่งบนสะพาน ขณะเดียวกันสัตว์ป่าสามารถลอดใต้สะพานไป-มาได้อย่างปลอดภัย

อย่างไรก็ดี สะพานสัตว์ข้ามมีความแตกต่างจากสะพานทั่วไปที่มีโครงสร้างครอบคลุมเลนจราจรระหว่าง 2-4 ช่อง ระยะทางค่อนข้างยาวเพื่อข้ามเขตถนนหรือแม่น้ำ โดยสะพานสัตว์ข้ามต้องคำนึงความกว้างและระยะเสาของสะพานที่ต้องมีระยะทางสั้นกว่า แต่ระยะระหว่างเสาโครงสร้างกว้างกว่า เพื่อรองรับปริมาณชั้นดินและการปลูกพืช (Landscaped Surface) และมีภูมิประเทศที่ถอดแบบมาจากพื้นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า

ในส่วนของต่างประเทศก็มีการก่อสร้างอุโมงค์และสะพานสัตว์ข้ามหลายแห่ง ซึ่งจะมีรูปแบบใดบ้าง ลองไปดูกัน

ประเทศสหรัฐอเมริกา
สะพานข้ามสำหรับปูที่ประเทศออสเตรเลีย
ประเทศเคนย่า
สะพานข้ามสำหรับลิงและสัตว์ต่างๆ ที่ประเทศบราซิล
ประเทศสิงคโปร์
สะพานข้ามของกระรอกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
อุโมงค์สำหรับเต่าที่ประเทศญี่ปุ่น
ประเทศเนเธอร์แลนด์
ทางข้ามของผึ้งที่ประเทศนอร์เวย์
ประเทศฟินแลนด์

อ้างอิง:

www.boredpanda.com/bridges-for-animals-around-the-world/

www.prachachat.net/property/news-299253

www.baanlaesuan.com/95102/design/animals-bridges

Previous articleสัมผัสสไตล์ Starbucks Reserve Roastery แดนปลาดิบ สาขาใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Next articleโครงการ ‘One Bangkok’ จุดประกายเยาวชน จัดเวิร์คช็อปศิลปะสร้างแรงบันดาลใจ