ออฟฟิศเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของพนักงงานออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะนอกจากเราจะใช้เวลากับพื้นที่ตรงนี้เป็นเวลานานแล้ว เรายังต้องใช้พื้นที่ตรงนี้ในการคิดสร้างสรรค์หรือผลิตผลงานออกมา ฉะนั้นการออกแบบสถานที่ทำงาน จึงควรเล็งเห็นความสำคัญถึงตัวของผู้ใช้งานเป็นหลัก สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ของงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ในบทความนี้ จะพาผู้อ่านมาชมไอเดียและแนวคิดในการออกแบบสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ใกล้ ๆ กับ BTS บางจาก ของ บริษัท เจียไต๋ จำกัด ที่จะเปลี่ยนภาพสังคมการทำงานแบบเดิม ๆ ด้วยการสร้างพื้นที่ Co-Working Space เพื่อเน้นการสร้างบรรยากาศการทำงานร่วมกัน โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกับการนั่งแช่อยู่ที่โต๊ะทำงานประจำอีกต่อไป
จากห้องแถวเล็ก ๆ สู่อาคารสำนักงานใหญ่เจียไต๋
ก่อนจะมาเป็นสำนักงานใหญ่ 15 ชั้น กับพื้นที่ใช้สอยกว่า 18,000 ตร.ม. ที่เห็นอยู่นี้ คุณมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด เล่าว่า “เวลากว่า 98 ปีที่ธุรกิจของเจียไต๋เริ่มต้นขึ้นจากห้องแถวเล็ก ๆ บนถนนทรงสวัสดิ์ ย่านเยาวราช ก่อนกิจการจะขยายใหญ่ขึ้น จนพื้นที่ของสำนักงานแห่งเก่าไม่เพียงพอที่จะรองรับพนักงานที่มีจำนวนมากขึ้น เราจึงตัดสินใจย้ายสำนักงานมาที่ใหม่เพื่อให้พนักงานทุกคนได้ทำงานอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
“และมุ่งหวังว่าสำนักงานใหญ่แห่งใหม่จะเป็นสถานที่ทำงานที่ทันสมัย เป็นพื้นที่ที่็สามารถจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้กับพนักงาน เพื่อให้ทุกคนได้แสดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะนำไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ของเจียไต๋ในการส่งมอบนวัตกรรมเพื่อการเกษตรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืนของคนทั่วทั้งภูมิภาค”
รูปลักษณ์อาคาร ดีไซน์ที่อยู่เหนือกาลเวลา
พูดถึงดีไซน์ของตัวอาคารภายนอก มีลักษณะโมเดิร์น ร่วมสมัย ที่แฝงไปด้วยความเรียบง่าย ตัวอาคารล้อมรอบด้วยสีเขียว ส่วนบริเวณด้านหน้าอาคารจะปลูกผักและดอกไม้ตามฤดูกาล เพื่อสะท้อนถึงสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งของเจียไต๋กับวิถีการเกษตร พร้อมทั้งเป็นพื้นที่ไว้สำหรับพักผ่อนของพนักงานไปในตัว
คุณพชร แสงสุวรรณ สถาปนิกผู้ควบคุมการออกแบบ จาก บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด เล่าถึงการออกแบบสำนักงานว่า “หากดูที่ตั้งของอาคารแล้วนั้น จะหันหน้าต้อนรับแสงแดดตั้งแต่ตอนเช้า ซึ่งมันอาจจะดีในแง่ของการรับพลังงาน แต่ในแง่ของคนทำงานที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ข้างในก็คงจะไม่ค่อยชอบแดดเท่าไหร่ สิ่งนี้จึงเป็นโจทย์แรกที่ทางสถาปนิกจะต้องแก้ให้ได้ก่อน
“การออกแบบตัวอาคารจึงมีเส้นของ Façade เรามีการใช้เส้นตั้ง ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ในแง่ของการประหยัดพลังงาน ลดความร้อนที่เข้ามาในตัวอาคาร และเส้นสายทั้งหมดที่เราวางไป มันถูกคำนวณมาแล้วว่าเป็นระยะที่พอเหมาะ แสงแดดจะเข้ามาในอาคารได้ไม่เกิน 1 เมตร โดยระยะเส้นของ Façade แต่ละด้านจะไม่เท่ากัน เป็นไปตามทิศทางของแสงอาทิตย์”
นอกจากนี้ยังเพิ่ม Identity ของเจียไต๋ด้วยการแทรกต้นไม้เข้าไปไว้ในตึก ตามช่องเจาะต่าง ๆ บนตัวอาคาร ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เอง เหมาะเป็นพื้นที่ให้พนักงานสามารถมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ ชมวิว หรือดื่มด่ำบรรยากาศจากมุมสูงของตึกได้
จัดสรรพื้นที่ Co-Working Space ให้เกิดการทำงานร่วมกันของหลาย ๆ แผนก
ด้วยค่านิยมที่ถูกปลูกฝังกันมาในการทำงานร่วมกันเป็นทีมของเจียไต๋ ที่ว่า “One Chia Tai” เพื่อเดินไปสู่จุดหมายหลักเดียวกันขององค์กร การออกแบบภายในอาคารจึงใช้แนวคิดที่ว่า “Growing as One – เติบโตไปด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว” ผ่านการจัดองค์ประกอบในแนวคิด “สวนหลังบ้าน” ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบพื้นที่ของแต่ละหน่วยงาน เช่น สนามเด็กเล่น สวนเรือนกระจก สวนพฤกษา และบ้านต้นไม้
นอกจากนี้ยังมีการออกแบบพื้นที่ภายในเพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันและสร้างบรรยากาศการทำงานที่เอื้อต่อวัฒนธรรมในการสร้างสรรค์นวัตกรรม โดยภายในสำนักงานใหญ่จะเต็มไปด้วยพื้นที่ Co-Working Space ที่พนักงานจากหลากหลายแผนกสามารถเข้ามาทำงานร่วมกันได้ และเอื้อต่อการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ภายในอาคารจะมีบันไดกลางเพื่อเชื่อมพื้นที่ในแต่ละชั้น ให้พนักงานสามารถใช้ไปมาหาสู่กันได้โดยไม่ต้องใช้ลิฟต์ ง่ายต่อการติดต่อประสานงานระหว่างแผนก
คุณปกรณ์ กาญจนรินทร์ มัณฑนากรผู้ออกแบบตกแต่งภายใน จาก บริษัท พี ไอ เอ อินทีเรีย จำกัด กล่าวว่า “พนักงานทั่ว ๆ ไป ส่วนใหญ่ใช้เวลาในออฟฟิศอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ถ้าเทียบแล้วมากกว่าอยู่ที่บ้านเสียอีก ฉะนั้นเลยคิดว่าออฟฟิศเป็นบ้านของเราที่เราจะต้องมาทำงาน ขณะเดียวกันหากพูดถึงบ้าน คือมันต้องให้ความรู้สึกว่าเราผ่อนคลาย โดยมีการ apply ไปสู่คอนเซปต์ในแต่ละชั้น แต่ละแผนก ซึ่งโดยปกติสำนักงานต่าง ๆ เราสร้างขึ้นมา เพื่อใช้ในการทำงานอย่างเดียว แล้วเมื่อพนักงานทำงานมาก ๆ ก็เกิดความเครียด เราจึงดึงคอนเซปต์ สวนหลังบ้าน เข้ามา เพื่อให้พนักงานที่นั่งทำงานอยู่ ได้ละสายตาจากงานมาผ่อนคลายไปกับพื้นที่สวนภายในตึก”
สร้าง Work – Life Balance ด้วยพื้นที่บริการสุดพิเศษสำหรับพนักงาน
สำนักงานใหญ่แห่งนี้จึงออกแบบพื้นที่ส่งเสริมการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวให้พนักงานได้มีความสุข สนุกกับการทำงานในทุก ๆ วัน โดยมีพื้นที่ให้พนักงานสามารถผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน เช่น ฟิตเนส ห้อง Golf Simulator ซึ่งไม่ได้มีเพียงอุปกรณ์ออกกำลังกายอย่างครบถ้วนเท่านั้น แต่ยังมีโค้ชประจำ และมีคลาสออกกำลังกายต่าง ๆ เช่น คลาสโยคะ หรือเต้นซุมบ้า เพื่อส่งเสริมสุขภาพอย่างจริงจัง ยังไม่พอ นอกจากนี้ยังมีห้องสมุด ห้องอาหาร และยังคิดเผื่อไปถึงครอบครัวของพนักงาน จึงได้สร้างพื้นที่ Kid Room เพื่อรองรับบุตรหลานของพนักงานอีกด้วย
ออฟฟิศเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
นอกจากอาคารจะใช้วัสดุ เช่น กระจก และมีเพดานสูงเพื่อเปิดช่องให้แสงธรรมชาติผ่านเข้าได้มากที่สุด เพื่อลดการใช้พลังงานแล้ว ยังมีการติดตั้งระบบเปิดปิดไฟฟ้าอัตโนมัติสำหรับควบคุมไฟฟ้าภายในอาคาร ติดตั้งระบบจับความเคลื่อนไหวภายในห้องน้ำที่จะสั่งการเปิดปิดไฟฟ้าอัตโนมัติเมื่อมีคนใช้ ไม่ต้องเปิดไฟทิ้งไว้ทั้งวัน และยังติดตั้งมาตรวัดปริมาณน้ำและไฟที่ใช้ในแต่ละชั้นเพื่อนำข้อมูลไปสร้างแนวทางในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
ทั้งหมดนี้คือ ภาพรวมการออกแบบสำนักงานใหญ่ของเจียไต๋ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของการออกแบบ คำนึงถึงสภาพแวดล้อมการทำงานของพนักงานเป็นหลัก และสร้างสรรค์สถานที่ทำงานออกมาให้เหมือนบ้านหลังใหญ่ของพนักงานทุกคน