ฉลองครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 151 ปี ไทย-อิตาลี คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตอิตาลี ประจำประเทศไทย เอาใจคนรักการออกแบบและงานดีไซน์ จัดงาน “ซีดีซี อิตาเลียน เฟสติวัล 2019” (CDC Italian Festival 2019) งานแสดงนวัตกรรมการออกแบบเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านดีไซน์ระดับโลกจากอิตาลี ภายใต้ธีม Urban Living in Nature ธรรมชาติกลางมหานคร…กับสมดุลแห่งสุนทรียภาพ
โดยภายในพิธีเปิดงานได้รับเกียรติจาก มร.โลเรนโซ กาลันตี เอกอัครราชทูตอิตาลี ประจำประเทศไทย เป็นประธานเปิดงานและเป็นตัวแทนในการมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวินให้แก่ คุณกวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่ม เค.อี. ในฐานะบุคคลที่ช่วยสนับสนุนและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐอิตาลี ด้านศิลปวัฒนธรรมไลฟ์สไตล์และงานดีไซน์ผ่านงาน ซีดีซี อิตาเลียน เฟสติวัล มากว่า 10 ปี
คุณกวีพันธ์ เปิดเผยว่า รู้สึกภาคภูมิใจมากที่รัฐบาลอิตาลีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวินในครั้งนี้ ด้วยความตั้งใจให้โครงการ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี) เป็นศูนย์รวมงานดีไซน์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ในเอเซีย ที่คัดสรรนวัตกรรม เทรนด์ใหม่ๆ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านหลากหลายสไตล์ทั้งโมเดิร์นและวินเทจสไตล์อิตาลี ในรูปแบบนิทรรศการและการสัมมนาเผยแพร่ความรู้โดยเพื่อเป็นแรงบันดาลใจและเปิดมุมมองให้กับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ผ่านงานดีไซน์ระดับโลกของประเทศอิตาลีและเรายืนยันว่าจะจัด ซีดีซี อิตาเลียน เฟสติวัล ให้ดีที่สุดในทุกๆ ปี
ส่วนงาน “ซีดีซี อิตาเลียน เฟสติวัล 2019” ครั้งนี้ ได้พบกับนิทรรศการแห่งนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบศิลป์ที่ถ่ายทอดผ่านเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้านดีไซน์ระดับโลกจากอิตาลี อันเป็นผลงานศิลป์ที่รังสรรค์โดยดีไซเนอร์ชื่อดัง โดยมีไฮไลต์ อาทิ โคมไฟ Behive Tavolo (บีไฮฟ์ ทาโวโล) แบรนด์ Foscarini (ฟอสคารินี) by Decoricco (เดคคอริคโก) หยิบยกแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ โดยนำรูปแบบของรวงผึ้งมาผสมกับดีไซน์ทันสมัยได้อย่างลงตัว ด้วยรูปทรงวงแหวนที่โค้งมนซ้อนทับกัน เรียงจากวงเล็กในส่วนของฐานโคมไฟ ขึ้นไปยังวงใหญ่ด้านบนอย่างพิถีพิถัน ออกแบบการลาดเอียงของวงแหวน ทำให้มองไม่เห็นต้นกำเนิดแสงโดยตรง เพิ่มความน่าดึงดูดของโคมไฟให้แสงที่นวลตา ดูละมุนและยากจะเลียนแบบยามเมื่อเปิดไฟ ขณะที่เวลาปิดไฟ ยังสร้างความรู้สึกสดชื่นและชวนหลงใหล เป็นของตกแต่งชิ้นงามที่ทรงคุณค่า Behive Tavolo (บีไฮฟ์ ทาโวโล) เป็นเหมือนประติมากรรมอันโดดเด่น เผยให้เห็นธรรมชาติของการเปลี่ยนจากขาวเป็นดำ แสงกลายเป็นเงา สร้างอารมณ์ที่ไม่ซ้ำใคร, โต๊ะฟุตบอลอินเตอร์วอลโล (Intervallo) จากแบรนด์เทคเคล (Teckell) ตัวโต๊ะประกอบขึ้นจากไม้วอลนัทและแก้วคริสตัลที่มีความโค้ง ใช้อุปกรณ์ตกแต่งพื้นผิวน้อยที่สุดเพื่อจะได้มองเห็นเกมอย่างชัดเจน ด้ามถือเป็นแบบเทเลสโคปิค รอดส์ (Telescopic Rods) ที่มีคุณสมบัติไม่ยื่นออกนอกตัวโต๊ะ ป้องกันอุบัติเหตุ ปลอดภัยสำหรับผู้เล่น ขาโต๊ะเป็นไม้ สามารถปรับระดับได้
นอกจากนี้ แบรนด์ Calligaris (คาลลิการิส) by Euro Creations (ยูโร ครีเอชั่นส์) ยังมีอีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นงามที่สอดคล้องกับวิถีการใช้ชีวิตของสังคมเมือง กับ โต๊ะรับประทานอาหารอาเคเชีย (Acacia) โดดเด่นด้วยขาโต๊ะรูปทรงคล้ายลำต้นของต้นไม้ รองรับหน้าโต๊ะทรงกลมทำจากวัสดุกระจกนิรภัยเทมเปอร์ จะใช้เป็นโต๊ะรับประทานอาหารหรือประยุกต์ไปจัดวางตรงส่วนไหนของห้องก็ทำให้ห้องนั้นดูมีสไตล์
รวมทั้งยังมี เก้าอี้เบซิล (Basil) ของ Calligaris (คาลลิการิส) by Euro Creations (ยูโร ครีเอชั่นส์) ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ดีไซน์พนักพิงรูปทรงใบไม้ ทำจากวัสดุโพลิโพรไพลีน สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ น้ำหนักเบา มีสีสันให้เลือกหลากหลาย นำไปมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ทั่วทุกห้องในบ้าน สำนักงาน ฯลฯ ส่วนลำโพงไฮเอนด์ Electra Amator III ลำโพงแบบ 2 ทาง แบรนด์ Sonus faber (โซนัส เฟเบอร์) by KS Home (เคเอสโฮมส์) ขนาดเล็กเต็มไปด้วยคุณภาพ มาพร้อมกับเทคโนโลยี DAD? Damped Apex Dome? และ Paracross topology? วงจรครอสโอเวอร์ที่ออกแบบโดยการใช้คาปาซิเตอร์ เพื่อให้ได้น้ำเสียงที่หวานขึ้น ตัวตู้ใช้วัสดุไม้วอลนัทกับหินอ่อนคาร์ราราประเทศอิตาลี แทรกด้วยเส้นทองเหลืองมัน แผงด้านหลังและแผงด้านหน้าตู้ลำโพงหุ้มด้วยหนังชั้นดี ขาตั้งเป็นอะลูมิเนียมชุบอะโนไดซ์ดำแบบพิเศษ และติดตั้งลงบนฐานหินอ่อนคาร์รารา ตอบโจทย์คนรักเสียงเพลง
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการจัดงานสัมมนา ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี โดยในปีนี้ได้หยิบยกประเด็น Urban Living in Nature มาเป็นหัวข้อในการเสวนาครั้งนี้ สำหรับงานเสวนาได้รับเกียรติจากวิทยากรมากประสบการณ์และความสามารถทั้งสิ้น 3 ท่าน ได้แก่ คุณณิชารีย์ พงษ์สมบูรณ์ Associate Design Director จาก DWP, ม.ล. ปรเมศ วรวรรณ Designer/Founder KIDDEE DESIGN และ ผศ.ร.อันธิกา สวัสดิ์ศรี ประธานสภาคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ แห่งประเทศไทย และคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่มาร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่น่าสนใจ
คุณณิชารีย์ พงษ์สมบูรณ์ Associate Design Director จาก DWP บรรยายเกี่ยวกับเรื่อง Sustainability Innovation Design พร้อมยกตัวอย่างโครงการ The high Line (2009) และ Marina One Singapore (2018) มาพูดถึงเรื่องกระบวนการคิดแบบรอบด้านเกี่ยวกับการนำ Sustainability เข้ามาใช้ใน Building ควบคู่กับความราบรื่นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ พร้อมกันนี้ได้ชี้ถึงปัญหาการออกแบบของประเทศไทย คือขาดการ Research ที่ดีเกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมของมนุษย์ นอกจากนี้ยังเสริมในเรื่องของ Digital Transformation ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ Ai หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่เข้ามาแทนที่การทำงานบางส่วนของมนุษย์ แต่ไม่ใช่ว่า Digital Connectivity จะแย่ไปทุกอย่าง อย่างน้อยถ้ารู้จักใช้ประโยชน์กับมันได้ถูกต้อง ก็สามารถช่วยปรับปรุงชีวิตในปัจจุบันได้ง่ายขึ้น
ม.ล.ปรเมศ วรวรรณ Designer/Founder KIDDEE DESIGN บรรยายในหัวข้อ Product design โดยได้ยกตัวอย่างการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการปลูกต้นไม้ชื่อว่า “ไพร” และอธิบายถึงจุดเริ่มต้นก่อนจะออกแบบว่า จำเป็นที่จะต้องศึกษาในเรื่องที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะผลิตออกมาจริง ๆ ต้องทำความเข้าใจว่า ถ้าปลูกต้นไม้ในลักษณะแนวตั้งจะเป็นอย่างไร ขนาดกระถางต้องออกแบบมาให้มีขนาดเล็กใหญ่ขนาดไหนถึงจะเหมาะสม และทดลองทำต้นแบบง่าย ๆ ซึ่งการจะสร้างผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นออกมาต้องคำนึงไว้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะไม่เป็นภาระแก่ผู้บริโภค
ม.ล. ปรเมศ ทิ้งท้ายให้แก่ผู้ที่คิดอยากเป็น Product Designer ว่า เวลาเราดีไซน์อะไรออกมาเราจะต้องมองไปข้างหน้า 10 ปี 20 ปี เป็นอย่างน้อย อย่าไปดีไซน์อะไรที่คนอื่นเขาทำแล้ว เพราะมันไม่มีความแตกต่าง ประเทศไทยในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ไม่แพ้ชาติใดในโลก เราสามารถที่จะพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ที่มีเอกลักษณ์เพื่อขายไปยังประเทศต่าง ๆ ได้ เพราะฉะนั้นสินค้าที่ดี มีคุณภาพ และแก้ปัญหาให้แก่ผู้คน แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์จะอยู่ได้นาน
ผศ.ร.อันธิกา สวัสดิ์ศรี ประธานสภาคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ แห่งประเทศไทย และคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง อธิบายถึงความหมายของ Future City ว่า อาจจะไม่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ของความเป็น High Technology แต่คนกำลังโหยหาในสิ่งที่ถูกลืมและขาดหายมานาน นั่นก็คือ ธรรมชาติที่จับต้องได้ และความเป็นธรรมชาติที่มนุษย์กับธรรมชาติต้องอยู่ร่วมกัน พร้อมทั้งปรับตัวร่วมกันได้
ส่วนในเรื่องการจัดการเมืองนั้น ผศ.ร.อันธิกา อธิบายว่า หากแบ่งสาขาในการแก้ปัญหาเมือง จะอยู่กันยากขึ้น เพราะหลาย ๆ ปัญหาไม่ได้ต้องการแค่สถาปนิกหรือดีไซน์เนอร์อีกต่อไป มันอาจจะต้องสร้างเป็นสหวิทยาการกันมากขึ้น เพื่อให้เราอยู่ในเมืองที่มันน่าอยู่มากขึ้น
นอกเหนือจากในส่วนงานสัมมนาแล้ว ยังมีงานที่เอาใจคนรักการออกแบบและดีไซน์อย่างจัดเต็ม ด้วยการแสดงนวัตกรรมการออกแบบเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านระดับโลกจากอิตาลี สำหรับของตกแต่งที่จัดได้ว่าเป็นไฮไลท์ของงานในครั้งนี้มีอยู่มากมายหลายแบรนด์ด้วยกัน เช่น โต๊ะทานอาหารจังเกิล (Jungle) จากแบรนด์ Calligaris โต๊ะผิวหน้าเซรามิก โดดเด่นด้วยขาโต๊ะที่นำไม้หลายชิ้นมาต่อเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นรูปทรงที่สวยงาม ทนทานต่อทุกการใช้งาน และง่ายต่อการทำความสะอาด
รวมถึงยังมี โต๊ะฟุตบอลอินเตอร์วอลโล (Intervallo) จากแบรนด์ Teckell ตัวโต๊ะประกอบขึ้นจากไม้วอลนัทและแก้วคริสตัลที่มีความโค้ง เน้นการใช้อุปกรณ์ตกแต่งน้อยเพื่อการมองเห็นเกมได้อย่างชัดเจน ส่วนด้ามถือเป็นแบบเทเลสโคปิค รอดส์ ที่คุณสมบัติไม่ยื่นออกนอกตัวโต๊ะ ป้องกันอุบัติเหตุ เพิ่มความสะดวกด้วยขาโต๊ะไม้ที่สามารถปรับระดับได้
สำหรับผู้ที่สนใจ เชิญร่วมสัมผัสกับนวัตกรรมการออกแบบเฟอร์นิเจอร์จากอิตาเลียนได้ที่งาน “ซีดีซี อิตาเลียน เฟสติวัล 2019” ( CDC Italian Festival 2019 ) โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-27 มิถุนายน 2562 เวลา 10.00-21.00 น. ณ อาคารบี ชั้น 1 คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์(ซีดีซี) เลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-101-5999