5 หลังนี้ที่เวียดนาม! ส่องบ้านดีไซน์แปลกตาที่สถาปนิกและผู้มาเยือนไม่ควรมองข้าม

เวียดนามเป็นอีกประเทศที่เราเคยไปเยือน แต่เรามักจะคุ้นเคยกับหน้าตาบ้านตึกแถวเรียงกันสไตล์จีน ครั้งนี้ BuilderNews ขอพาไปชมอาคาร 5 หลัง ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่มองแวบแรกคุณคงไม่คิดว่ามันตั้งอยู่ที่เวียดนาม เพราะหน้าตาของพวกมันแตกต่างจากที่เราเห็นมากจริง ๆ

House for Trees โดย Vo Trong Nghia Architects ณ โฮจิมินห์

อ่านชื่อ House for trees แปลแล้วอาจจะงงว่ามันเป็นบ้านสำหรับต้นไม้ยังไง ไม่ใช่บ้านคนเหรอ? ความจริงแล้วบ้านหลังนี้เปิดประตูเข้าไปจากด้านล่างก็ยังเป็นบ้านพักคนปกตินี่แหละ แต่ใช้ชื่อนี้เพราะตรงตามคอนเซปด้วยการออกแบบโครงสร้างเป็นคอนกรีตให้หน้าตาคล้ายกระถางต้นไม้ขนาดยักษ์ แล้วชั้นดาดฟ้าก็ปลูกต้นบันยันจริง ๆ บนอาคารหลายต้น พอดูไกล ๆ เลยยิ่งเหมือนกระถางต้นไม้ยักษ์หรือบ้านสำหรับต้นไม้จริง ๆ

แต่ใช่ว่ามันมีดีแค่มีต้นไม้อย่างเดียว ข้อดีอีกเรื่องที่น่าสนใจของการสร้าง Green rooftop แบบนี้คือ การดูดซับน้ำฝนจากด้านบน เป็นอีกวิธีที่ช่วยไม่ให้เมืองต้องน้ำท่วมในหน้ามรสุม แนวทางการออกแบบจึงไม่ใช่แค่ตอบโจทย์เรื่องคอนเซ็ปต์แต่ยังเหมาะกับความเป็นเมืองที่ผังเมืองหลวงเนืองแน่นและสภาพภูมิอากาศท้องถิ่นด้วย นับว่าสถาปนิกเขาไม่ได้สร้างสรรค์เพื่อความแปลกตาอย่างเดียว แต่เรื่องฟังก์ชันเขาก็วางแผนมาแล้วเป็นอย่างดี

Saigon House โดย a21studio ณ โฮจิมินห์

หลังนี้ก็ยังอยู่ในโฮจิมินห์เช่นกัน บ้านนี้รีเควสไอเดียว่าอยากได้ที่เพียงพอสำหรับสมาชิกตัวน้อยในครอบครัว เพราะเป็นครอบครัวใหญ่และต้องการรูปแบบบ้านแบบดั้งเดิมด้วยโดยให้รูปแบบอ้างอิงเป็นบ้านเวียดนามยุคก่อนปี 1976 ใครอยากหาสถาปัตย์สไตล์โบราณเพื่อซึมซับประวัติศาสตร์ก็เหมาะจะไปแอบชะโงกดูบ้านหลังนี้ได้

ลักษณะพิเศษของเจ้า Saigon House ไม่ใช่ความสวย แต่มันแปลกที่อยู่ดี ๆ ไปแทรกกลางระหว่างตึกสองหลังที่มีขนาด 4 ชั้น เหมือนเสียบเลโก้ลงล็อกได้พอดิบพอดี ด้านในยังสร้างบันไดเชื่อมต่อกันเป็นห้องแยกหลาย ๆ ห้อง ดูจากผังจะเห็นได้ว่าเป็นอาคารหน้าแคบที่เข้าไปลึกด้านใน มีหลายห้องเพียงพอต่อการแบ่งสัดส่วนให้ทุกคนในครอบครัว อันที่แพลนออกแบบแบบนี้มีให้เห็นในบ้านเราทางจังหวัดภูเก็ตเหมือนกัน ที่ความยาวของตัวบ้านหน้าบ้านกับหลังบ้านอาจจะยาวทะลุจากซอยหนึ่งจนถึงอีกซอยได้เลยแต่ก็หาดูได้ยากมาก ดังนั้น ถ้าแวะเวียนไปโฮจิมินห์บันทึกสถาปัตย์แบบนี้ไว้ในความทรงจำได้ก็ถือว่าคุ้ม

Zen House โดย HA

สถาปัตย์พักอาศัยความสูง 4 ชั้นใช้ชื่อว่า Zen House หลังนี้ได้รับอิทธิพลมาจากการออกแบบอารามสไตล์เซน เจ้าของที่พักก็เป็นครอบครัวชาวพุทธเช่นกัน (เห็นได้เลยว่าสถาปัตย์สื่อเอกลักษณ์ของผู้อยู่) บ้านหลังนี้จักแต่งโดยใช้กระจกบนเพดาน การตกแต่งทั้งหมดเป็นลักษณะบานเกล็ดไม้และบันไดเพื่อสร้างเสน่ห์จากแสงเงา

ด้วยแพทเทิร์นการออกแบบที่ซ้ำ มินิมัล และใช้วัสดุที่โชว์ความเปลือยเพื่อสะท้อนแก่นแท้ตามรูปแบบเซนจึงมีความขลังของงานมาก ขณะเดียวกันก็ทำให้ดูคล้ายอยู่ในเขาวงกตเช่นกัน

Brick Cave โดย H&P Architects ณ ฮานอย

บ้านสร้างจากอิฐมีรูพรุนขนาด 2 ชั้น ที่ให้บรรยากาศชวนหลบพักกายคล้ายถ้ำหลังนี้อยู่ที่ฮานอย กำแพงชั้นนอกที่ก่อไว้สูงถึง 8.25 เมตร เว้นให้มีรูสำหรับช่องแสงกรองแดดอันร้อนแรงไม่ให้รบกวนคนอยู่อาศัย ขณะเดียวกันวัสดุอย่างอิฐยังช่วยกรองเสียงที่อยู่ภายนอกให้เบาบางลงได้ ดังนั้น บ้านหลังนี้จึงให้ความรู้สึกเหมือนเราอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแทนที่จะอยู่ในเมืองใหญ่อันแสนวุ่นวาย เรียกได้ว่าค่อนข้างคอนทราสต์ทางความรู้สึกและตอบโจทย์การเป็นที่อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี

นอกจากเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบที่ตอบโจทย์การใช้งานแล้ว “อิฐ” ยังเป็นวัสดุที่คนท้องถิ่นคุ้นเคยด้วยแต่เมื่อมาปรับโฉมให้อยู่ในรูปแบบทันสมัย เหมือนการอัปเกรดวัสดุขึ้นมาอีกชั้นให้ดูสวยงามกว่าเดิมด้วยเทคนิคในการก่อสร้าง

T House โดย Kientruc O

บ้านเก่าในตรอกแคบของโฮจิมินห์ที่ดูเหมือนเรือนกระจกสุดโมเดิร์นหลังนี้ น่าจะเป็นหลังที่ทุกคนได้มีโอกาสคลุกคลีมากที่สุดเพราะเขาเปิดเป็นร้านอาหารด้วย ดังนั้น เราสามารถดูได้อย่างทะลุปรุโปร่งทั้งภายในและภายนอก แต่กว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัย Kientruc O สถาปัตยกรรมสตูดิโอสัญชาติเวียดนามนี้เองต้องใช้พลังในการ Make Over มันไม่น้อยเพื่อเปลี่ยนจากบ้านเก่าในตรอกแคบให้กลายเป็นสถานที่ที่ผสมผสานระหว่างบ้าน สวน ถนน จนกลายเป็นพื้นที่ลงตัวที่ลูกค้าสามารถเข้ามาใช้บริการได้อย่างมีความสุข

จุดเด่นของสถาปัตยกรรมร้านอาหารแห่งนี้อยู่ที่กำแพงกระจกอันเป็นเอกลักษณ์ เพราะมีส่วนผิวหน้าของแก้วที่มีมิติหลากหลาย เป็นลวดลายเรขาคณิต บางแผ่นให้ภาพใสคมชัด แต่บางแผ่นก็มีลายบนผิวหน้าเสียจนทำให้มัวจาก texture จนเห็นภาพต้นไม้ด้านในแปลกตา เกิดเป็นมุมมองที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยู่ด้านในและคนจากด้านนอกมองเข้ามา เนื่องจากให้ความรู้สึกที่ขัดแย้งชนิดที่จะบอกว่ากำแพงกระจกโปร่งเสียจนขาดความเป็นส่วนตัวก็ไม่ใช่ ขณะเดียวกันจะว่าปิดทึบจนอึดอัด ตัดขาดระหว่างทั้งสองฟากก็ไม่ใช่เช่นกัน

แม้สถาปัตย์ที่นำเสนอผ่านจุดขายของการท่องเที่ยวตามสถานที่สำคัญคือสิ่งที่เราควรไปเยือนสักครั้ง แต่ก็เชื่อว่าอีกมุมที่อยู่นอกจากโพลไกด์ก็ยังเป็นเรื่องสนุก ๆ ที่น่าสนใจให้เราได้ไปเยี่ยมเยือนเสมอ ไว้คราวหน้ามีที่ไหนน่าสนใจ อย่าลืมมาติดตามกันนะ

อ้างอิงข้อมูลจาก

1. https://www.dezeen.com/2014/06/19/house-for-trees-vietnam-vo-trong-nghia-architects/
2. https://www.dezeen.com/2018/09/28/hp-architects-brick-cave-house-hanoi-vietnam/
3. https://www.dezeen.com/2015/12/21/saigon-house-a21studio-vietnam-ho-chi-minh-city-skinny-different-levels-waf-2015/
4. https://www.dezeen.com/2017/11/12/tropical-plants-garden-geometric-glass-wall-modernist-le-corbusier-kentruc-o-ho-chi-minh-city-vietnam-t-house/
5. https://www.dezeen.com/2016/04/19/zen-house-ha-vietnam-buddhist-family-home-concrete-brick-atrium/