ห้องหับไม่จำเป็นต้องจัดสีแบบโมโนโทนเสมอไปถึงดูดี การตกแต่งสีห้องให้โดดเด่นจำเป็นต้องใช้สีใดสีหนึ่งตลอดห้องเท่านั้น วันนี้ BuilderNews จะขอแนะนำคู่สีแต่งบ้านที่ทำให้บ้านของเรา “Pop-up” หรือโดดเด่นสดใสทั้งในเฟรมถ่ายภาพและการอยู่อาศัย

แล้วสีไหนถึงเด่น? หลักการแต่งบ้านง่าย ๆ เชื่อว่าทุกคนคงพอจะได้เรียนเรื่องวงล้อสีหรือทฤษฎีคู่สีกันมาบ้าง เราสามารถใช้หลักเดียวกันเลือกคู่สีตรงข้ามกันจับมาอยู่คู่กันเพื่อให้ได้เฉดสีที่ขับและส่งเสริมกัน หรือที่ในภาษาอังกฤษเขาจะเรียกวิธีการเลือกคู่สีประเภทนี้ว่า “complementary colors”

เราลองเลือกมาทั้งหมด 5 คู่สีให้เพื่อน ๆ ให้ทุกคนลองไปทาหรือตกแต่งตาม บางคนอาจจะเคยเห็น swatch นี้ในงานออกแบบกราฟิก แต่ยังคิดไม่ออกว่าถ้านำมาใช้แต่งห้องแล้วมันจะดูดีจริงหรือ เราก็นำภาพประกอบมาไว้ด้านล่างให้ดูด้วย จะได้มี reference ไปใช้จัดห้องกัน

1. เหลือง – ม่วง

Image by domino.com

คู่สีกลางเฉพาะที่คนเริ่มจะให้ความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะสีเหลืองที่เราเห็นคนเริ่มหันมาทาห้องมากขึ้น เพราะว่ารู้สึกเหมือนได้รับพลังความสดใสเข้าไป กระตุ้นให้อยากทำงานหรือมีพลังงานรอบกายเวลามอง จริง ๆ ทั้งเหลืองและม่วงถือเป็นค่าสีกลางที่อยู่ได้ทั้งร้อนและเย็น ดังนั้น เมื่อเรานำทั้งสองสีนี้มาตกแต่งก็ถือว่าเป็นการผสมสีให้ลงตัว ช่วยทำให้บ้านมีชีวิตชีวา

 

2. ม่วง – เขียวมะกอก

Image by stylebyemilyhenderson.com

สีนี้ก็เป็นสีคู่ตรงข้ามกันในวงจรสีที่เป็นไม้ตายเหมือนกัน ตกแต่งด้วยเฉดสีนี้นอกจากจะสบายตาก็ช่วยเสริมกลิ่นอายความแอนทีค หรูหราลงไปให้ห้องได้ และด้วยความที่เฉดม่วงมันเป็นม่วงที่ถูกเบนไปทางโทนมืดอมแดงค่อนข้างมาก ทำให้สีนี้ค่อนข้างจะกลมกลืนกับสีเขียวเหมือนกันสีไม้ จัดโทนนี้ก็จะเหมาะกับการปลูกต้นไม้ในร่มที่ห้องคนส่วนใหญ่กำลังนิยมอยู่มากทีเดียว

Image Credit: TapetShow

ที่สำคัญการเลือกสีสัน เราอยากให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องเป็นสีพื้นเสมอไป จะเพิ่มลูกเล่นเป็น wallpaper ลายใบไม้ก็ช่วยเสริมความพิเศษและดูสดใสมากขึ้นได้

 

3. ชมพู – น้ำทะเล

Image by Pluck

คู่สีที่ให้อารมณ์พาสเทลสุด ๆ เหมือนสีสันแฟนตาซีแนวลูกกวาดลูกอม พอเอามาเข้าคู่แต่งห้องก็สร้างอารมณ์หวานละมุน ผสมความสดใสและดูขี้เล่นทำให้ห้องดูมีมิติไปอีกแบบ ถ้าสังเกตดี ๆ เฉดนี้ก็ไม่ใช่การเอาชมพูจ๋ามาใช้ แต่เป็นสีชมพูอมส้ม ออกแนวสีโอรสหน่อย ๆ ส่วนสีฟ้าน้ำทะเลใส ๆ อมเขียวนิด ๆ ทำให้ดูลงตัว

Image by ohjoy

จริง ๆ คู่สีประมาณนี้ถ้าเป็นในยุคก่อน ๆ จะไม่นิยมแต่งกัน เพราะเป็นเฉดสีที่ค่อนข้างสะท้อนผนังและมีสีสันเกินไป บางคนอาจจะรู้สึกไม่เหมาะจะแต่งเป็นห้องในชีวิตจริง แต่ทุกวันนี้ความนิยมคู่สีแนวพาสเทลที่เด่นเตะตาก็เริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และเรามักจะเห็นบ่อย ๆ ตามสื่อ ไม่ว่าจะเป็น MV ศิลปินคนโปรดหรืองานศิลปะ ดังนั้น คนส่วนมากที่มีความกล้า ก็เริ่มเปิดใจใช้สีนี้ตกแต่งบ้านกันมากขึ้นแล้ว

 

4. เขียว – แดง

Image by Simone McEwan
Image by IKEA

หลายคนพอพูดถึงคู่สีนี้ต้องคิดถึงบรรยากาศซานตาครอสขี่กวางเรนเดียร์มาไว้ก่อน ซึ่งเอาเข้าจริงการเลือกใช้คู่สีเทศกาลคริสต์มาสมาแต่งห้องมันไม่ได้ทำให้ดูแย่นะ ลองสังเกตดูเวลาที่เราออกไปข้างนอกช่วงเทศกาลคริสต์มาสสิ ทุกบ้านและห้างร้านที่ตกแต่งด้วยคู่สีนี้ มันให้ฟีลวันหยุดแถมยังดูมีเสน่ห์และดูแพงเอามาก ๆ เลย ที่สำคัญคู่สีนี้ก็เป็นคู่สีที่อยู่กับเทศกาลมานานหลายศตวรรษแล้ว ฉะนั้นก็ยกให้เขียว-แดง เป็นคู่สีคลาสสิกที่เอามาตกแต่งเพิ่มความโดดเด่นได้อย่างเป็นอมตะอีกเฉดที่ไม่ควรมองข้าม

 

5. ส้ม – น้ำเงิน

Image by ruemag.com

เฉดสีนี้แม้จะดูไม่เข้ากัน แต่ธรรมชาติเขาก็สร้างมาให้คู่กันนานแล้ว ลองดูจากช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก จะเห็นว่าคู่สีนี้บนท้องฟ้ามีเสน่ห์มาก เมื่อเราจับคู่สีนี้มาไว้ในห้อง แน่นอนว่ามันก็เสน่ห์ไม่ต่างกัน

เทคนิคอย่างหนึ่ง ที่อยากจะแนะนำไว้สำหรับคนขี้เบื่อที่อยากเติมแต่งสีสันให้ห้องภายในบ้าน แต่ไม่มั่นใจว่าเราจะชอบสีนั้นตลอดไปไหม แนะนำว่าให้เลือกสีผนังเป็นสีพื้น หรือใช้วิธีติด Wallpaper เอาเพราะคือพื้นที่ส่วนใหญ่ในบ้าน เพื่อให้สามารถแมตช์ได้กับทุกสี

ส่วนถ้าอยากแต่งสีไหนเข้าไปเพื่อตกแต่งก็แค่เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นสีนั้น ต้องการเน้นสีไหนเป็นพิเศษให้แต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ที่มองเห็นได้ชัดเจนอย่างโซฟา ตู้ หรือพรม ส่วนสีที่จะนำมาเบรกเพื่อเข้าคู่ก็อาจจะตกแต่งด้วยเฟอร์ฯ ที่ชิ้นเล็กกว่า หรือไอเทมเสริม เช่น ต้องการเบรกด้วยสีม่วง อาจจะเพิ่มหมอนที่มีสีม่วงเข้ามาตกแต่งโซฟาแทน ภาพรวมของห้องจะทำให้เวลาเราเดินเข้าไปเห็นแล้วรู้สึกว่าลงตัว ไม่หนักสายตาจนเกินไป

หากใครมั่นใจสำหรับเฉดสีที่ตัวเองต้องการ และพร้อมที่จะปรับโฉมห้องตัวเอง สี Delta ChillSHIELD (สีเดลต้า ชิลชิลด์) จากสีเดลต้า เป็นสีทาบ้านที่ดีที่สุดในรอบ 40 ปีของสีเดลต้า เป็นสีชนิดกึ่งเงา เกรดอัลตร้าพรีเมียม ทาได้ทั้งภายนอกและภายใน ใช้การผลิตสีแบบใหม่ด้วย VAKUUM Technology จากเยอรมนี เอกสิทธิ์เฉพาะสีเดลต้าเท่านั้น ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นดังนี้

 

  • ทารอบเดียวอยู่ ไม่ต้องทาซ้ำ ปกปิดได้ดีติดทนนาน
  • ทาได้พื้นที่มากขึ้น ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย จาก 10 ถัง ก็ใช้เพียง 6 ถังเท่านั้น
  • สะท้อนความร้อนได้ 93% มั่นใจได้เลยว่าบ้านเย็นสบาย
  • Low VOC ไร้สารปรอทและตะกั่ว มีสารระเหยอินทรีย์ต่ำ ปลอดภัย เมื่อทาเสร็จสามารถเข้าอยู่ได้เลย
  • ติดแน่นทนนานสูงสุดถึง 15 ปี เช็ดล้างได้มากกว่าแสนรอบ

 

สามารถสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สีเดลต้าเพิ่มเติมได้ที่ Line: @DeltaPaint

การแต่งบ้านเป็นเรื่องสนุก และการใช้ชีวิตกับพื้นที่ที่มีสีสันมีส่วนช่วยกระตุ้นให้อารมณ์และจิตใจเราเบิกบานขึ้น มีชีวิตชีวา ถูกใจคู่สีไหนก็อย่าลืมลองไปแต่งบ้านกันดูนะ

 

Cover image by Fabmood.com

Previous article“National Museum of Qatar” ใจกลางวัฒนธรรม ศูนย์การเรียนรู้
และแหล่งประวัติศาสตร์แห่งกาตาร์
Next article‘สวนน้ำรามายณะ’ ตอบแทนนักรบชุดกาวน์ เปิดให้บุคลาการทางการแพทย์เข้าฟรีถึงสิ้นปี 63