รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่พากันเปิดตัวใหม่ ๆ ออกมามากมาย แสดงให้เห็นถึงเทรนด์ทางนวัตกรรมในปัจจุบันเป็นอย่างดี ว่าผู้คนต่างก็กำลังให้ความสนใจ สอดรับไปกับสภาพราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นสิ่งที่มาคู่กันอย่างตู้ชาร์จไฟฟ้า (EV Charger) จึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน การติดตั้งตู้ชาร์จไฟฟ้าไว้ที่บ้านเป็นมากกว่าทางเลือกสำหรับความสะดวกสบาย แต่คือทางออกสำหรับตู้ชาร์จที่มีจำนวนไม่มากนักในปัจจุบัน แต่หยุดความคิดที่จะติดตั้งตู้ชาร์จไว้ในบ้านเองไว้ก่อน แล้วเช็ค 6 จุดต้องรู้ ก่อนติดตั้งตู้ชาร์จไฟฟ้า EV Charger ไว้ที่บ้าน ดังนี้
- ทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในบ้านก่อนติดตั้ง เพราะหากติดตั้งระบบชาร์จผิดวิธี ระบบไฟฟ้าในภายในบ้านก็อาจเกิดปัญหาเสียหายขึ้นมาได้
- ตรวจสอบขนาดมิเตอร์ไฟฟ้า เพราะมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านทั่วไปมักจะใช้เป็น 15(45) 1 เฟส(1P) ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้ขนาดของมิเตอร์ที่แนะนำคือ 30(100) เพื่อป้องกันการใช้งานไฟฟ้าที่มากเกินไป และช่วยเรื่องการชาร์จไฟที่เสถียรมากขึ้นด้วย
- ติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว (RCD) ป้องกันเพลิงไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจร ที่อาจเกิดเพราะกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าออกมีค่าไม่เท่ากัน
- เลือกจุดติดตั้งเครื่อง EV Charger โดยพิจารณาจากระยะห่างระหว่างเครื่องชาร์จจนถึงตัวรถที่ไม่ควรเกิน 5 เมตร, หลังคาสำหรับกันฝนและฝุ่น และจุดที่สามารถเดินสายไฟจากเครื่องชาร์จไฟสู่ตู้เมนไฟฟ้าในบ้านได้ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเดินสาย
- ตรวจสอบประเภทของปลั๊กรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อติดตั้งเครื่องชาร์จให้ตรงกับรถ โดยดูจากประเทศที่ผลิตรถยนต์ว่าเป็นรถญี่ปุ่น อเมริกา หรือจีน
- ตรวจสอบระบบควบคุมการดึงไฟฟ้า หรือ On-Board Charger ที่ตัวรถจะสั่งการไปยังเครื่อง EV Charger โดยทั่วไปจะมีขนาดตั้งแต่ 6 kW ถึง 22 kW ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์ ซึ่งจะส่งผลต่อระยะเวลาในการชาร์จ
Source