คริสตัล ลากูนส์ บริษัทนวัตกรรมน้ำข้ามชาติหนึ่งเดียวในโลก ที่นำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมาช่วยพัฒนาบึงน้ำใสขนาดใหญ่ให้เหมาะสำหรับการว่ายน้ำและกีฬาทางน้ำ โดยมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ
แนวคิดของบริษัทได้ถูกนำมาใช้กับการพัฒนาที่อยู่อาศัย พื้นที่สาธารณะ สถานที่ท่องเที่ยวและโครงการต่าง ๆ ทั้งพื้นที่ชายฝั่งทะเล พื้นที่ห่างไกลจากชายหาด พื้นที่กลางทะเลทราย หรือแม้กระทั่งใจกลางเมือง โดยสร้างวิถีชีวิตริมชายหาดในอุดมคติให้เกิดขึ้นบนพื้นที่ที่ไม่คาดคิดว่าจะสามารถพัฒนาได้ ซึ่งน้ำที่ใช้มีหลากหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำเค็ม น้ำกร่อย หรือน้ำจากชั้นหินอุ้มน้ำใต้ดินในทะเลทราย
“นวัตกรรมของคริสตัล ลากูนส์ ถือเป็นกรรมสิทธิ์และมีสิทธิบัตรคุ้มครองใน 190 ประเทศ ซึ่งนับเป็นการปฏิวัติตลาดโลก เช่น อสังหาริมทรัพย์ การพัฒนาผังเมือง การท่องเที่ยว พื้นที่สาธารณะและงานอุตสาหกรรม บึงลากูนเหล่านี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์หรือวิสัยทัศน์ด้านอสังหาริมทรัพย์โดยมุ่งเน้นไปที่ “สถานที่ตั้ง” การสร้างสถานที่ท่องเที่ยวในสิทธิของตนเอง ปัจจุบันลากูนน้ำใสที่ทางบริษัทสร้างขึ้นมีมากกว่า 600 โครงการใน 60 ประเทศทั่วโลก” นายไฮเม่ ริเวร่า ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาคคริสตัล ลากูนส์ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
เทคโนโลยีของคริสตัล ลากูนส์ นับเป็นเ่ทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยลากูนได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เป็นวงจรปิด ซึ่งจะเห็นได้ว่าลากูนขนาด 3 เฮคเตอร์ (ประมาณ 18.75 ไร่) ใช้ปริมาณน้ำน้อยมาก นอกจากนี้ คริสตัล ลากูนส์ยังได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีการควบคุมการระเหยที่ใช้ชั้นฟิล์มซึ่งสามารถลดอัตราการระเหยได้ถึงร้อยละ 50
จากการเพิ่มมูลค่าต่อตารางเมตรในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของคริสตัล ลากูนส์ ส่งผลเชิงบวกต่ออสังหาริมทรัพย์ โดย นายไฮเม่ ริเวร่า กล่าวว่า “การเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ นับเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ใช้ ในแง่ของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” โดยคริสตัล ลากูนส์ จะช่วยเปลี่ยนให้สถานที่มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มลากูนน้ำใส ช่วยดึงความสนใจในเรื่องของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และจะเห็นได้ว่า เทคโนโลยีของคริสตัล ลากูนส์ ช่วยตอบสนองความต้องการของบริษัทสถาปัตยกรรมที่กำลังมองหาเทคโนโลยีใหม่ที่คงความเป็นเอกลักษณ์เพื่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ยิ่งไปกว่านั้น คริสตัล ลากูนส์ ยังได้สร้างประโยชน์ให้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทซึ่งขาดแคลนพื้นที่สีเขียว โดยโครงการสาธารณะของคริสตัล ลากูนส์ สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพความเป็นอยู่ของชุมชนได้อย่างสิ้นเชิงและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นการตอบแทนสังคมได้อีกทางหนึ่ง
คริสตัล ลากูนส์ ประสบความสำเร็จในกลุ่มประเทศอาเซียน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีของบริษัท การจัดตั้งสาขาในแต่ละภูมิภาคเพื่อตอบสนองความต้องการที่ตรงจุดทำให้คริสตัล ลากูนส์ ตั้งเป้าขยายโครงการอีกมากถึง 60 โครงการ ภายในระยะเวลา 6 ปี โดยเป็นการขยายความสำเร็จด้วยการสร้างโครงการใหม่ในตลาดที่ได้ดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบัน รวมถึงเจาะตลาดเข้าสู่ประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม ญี่ปุ่น พม่า กัมพูชา และลาว
ในปัจจุบัน คริสตัล ลากูนส์ มีโครงการในทวีปเอเชียจำนวน 20 โครงการ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาที่แตกต่างกันไป โดยมี 2 โครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว หนึ่งในนั้น คือ โครงการ “บินตัง เทรชเชอร์ เบย์” (Bintan Treasure Bay) ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เป็นโครงการลากูนที่มีน้ำใสประดุจคริสตัลขนาด 6.3 เฮคเตอร์ (ประมาณ 39.37 ไร่) ที่โอบล้อมไปด้วยหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ ตั้งอยู่บนเกาะสวรรค์อย่างเกาะบินตังซึ่งห่างจากสิงคโปร์ 48 กิโลเมตร โครงการดังกล่าวประกอบด้วยที่อยู่อาศัยจำนวน 3,000 ยูนิต โรงแรมสี่และห้าดาว เพื่อตอบสนองความต้องการของประชากรสิงคโปร์ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ลากูนแห่งนี้ยังมีประโยชน์ในด้านการท่องเที่ยวและสาธารณูปโภคเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ เหมาะแก่การว่ายน้ำและจัดการแข่งขันกีฬาทางน้ำ เช่น เคเบิลสกีน้ำ วอเตอร์เจ็ทแพ็ค พายเรือคายัค วินเสิร์ฟ ดำน้ำสน็อคเกิล และพายเรือแพดเดิลบอร์ด
สำหรับโครงการที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ คริสตัล ลากูนส์ นั้นตั้งอยู่ในประเทศไทยคือ “มหาสมุทร คันทรี่ คลับ” อำเภอหัวหิน นับว่าเป็นพื้นที่ที่มูลค่าการพัฒนาในส่วนที่เป็นที่อยู่อาศัยสูงสุดในประเทศไทย ซึ่งโครงการดังกล่าวประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก ด้วยลากูนน้ำใสประดุจคริสตัลขนาดใหญ่ ที่มีเนื้อที่กว่า 6.3 เฮคเตอร์ (ประมาณ 39.37 ไร่) รวมถึงวิลล่าหรูหราเหนือระดับและคันทรี่คลับส่วนตัวที่ตั้งรายล้อมลากูน จุดเด่นและความแตกต่างของโครงการนี้คือ วิลล่าสุดหรูกว่า 80 หลังนั้นสามารถเชื่อมไปยังลากูนน้ำใสนี้ได้อย่างสะดวกสบาย ผู้ที่ต้องการผ่อนคลาย สามารถใช้ลากูนเป็นสถานที่ฝึกซ้อมกีฬาทางน้ำได้อย่างสะดวกสบายและเพลิดเพลินไปกับภูมิทัศน์ที่งดงาม
อย่างไรก็ตาม ผู้พัฒนาคริสตัล ลากูนส์ ก็ยังไม่หยุดคิดค้น พัฒนาโปรเจคต่าง ๆ ให้เติบโตยิ่ง ๆ ขึ้นไป ซึ่งหลังจากที่คริสตัล ลากูนส์ได้ขยายธุรกิจมายังประเทศต่าง ๆ ในเอเชียแล้ว เป้าหมายต่อไป คือการเดินหน้าพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดียิ่งขึ้น