สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร โชว์ผลการศึกษารถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่ เผยทุ่มกว่า 6 หมื่นล้าน เริ่มก่อสร้างปี 2561 คาดเสร็จพร้อมเปิดใช้งาน ในปี 2564 หวังพลิกโฉมระบบรางของประเทศไทยให้มีความพร้อม เพื่อยกระดับการค้า และการลงทุน ขับเคลื่อนให้ภาคเหนือกลายเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวของอาเซียนในอนาคต

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า ขณะนี้โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ โดยเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 60 ได้เปิดสัมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 4 (ครั้งสุดท้าย) เพื่อสรุปผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน จากนั้นจะนำผลสรุปทั้งหมดเสนอต่อกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และคณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติดำเนินโครงการ

คาดเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2560 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี และพร้อมที่จะเปิดใช้งานภายในปี 2564 ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้น รัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด คาดว่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 60,000 ล้านบาท
สำหรับผลสรุปแนวเส้นทางที่เหมาะสม มีระยะทางรวม 189 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเด่นชัย-ลำปาง ระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร และช่วงลำปาง-เชียงใหม่ ระยะทาง 85 กิโลเมตร โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 160 กม./ ชม. ตลอดเส้นทาง ส่วนโครงสร้างทางรถไฟกำหนดให้สามารถรองรับน้ำหนักกดเพลา 20 ตัน (U20)

ในการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ พบว่ามีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) 12.06% มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) 291 ล้านบาท อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุนเท่ากับ 1.01% ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์การวิเคราะห์ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของธนาคารโลก และสภาพัฒน์ โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 61,220 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 60,464 ล้านบาท และค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 756 ล้านบาท

นายชัยวัฒน์กล่าวถึงมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมว่าโครงการให้ความสำคัญกับการแนวเส้นทางที่ผ่านพื้นที่ชุมชนและเส้นทางคมนาคมโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภาคเหนือโดยได้ออกแบบการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน

นอกจากนี้ยังมีการแจ้งให้ประชาชนรับทราบและเตรียมพร้อมเกี่ยวกับแผนการก่อสร้างเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรที่อาจเกิดขึ้น ส่วนมาตรการด้านการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินก็ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 และคู่มือการกำหนดเงินค่าทดแทนฯ ของกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2560 เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ผู้ที่ถูกเวนคืนมากที่สุด

 

Source : prachachat

Previous articleชมไอเดียเปลี่ยนพื้นที่ดาดฟ้า เป็นมุมพักผ่อนติดธรรมชาติอย่างง่าย สำหรับใช้พักผ่อนในวันชิลๆ
Next article“ลีอาร์คีเทค”จับมือพันธมิตรชูนวัตกรรมก่อสร้าง หวังลดปัญหาแรงงาน-เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน