“บ้านต้นไม้” เป็นบ้านในฝันของใครหลายคน ไม่ว่าจะในวันที่โตแล้วหรือวันวานที่เราฝันอยากผจญภัยในป่า  เพราะการตื่นมาท่ามกลางธรรมชาติรายล้อม ทั้งพรรณไม้และสัตว์ชนิดต่าง ๆ มันทำให้เรารู้สึกอิสระเหลือเกิน

ถ้ามัวรอหาต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรงพอจะสร้างบ้านบนคาคบไม้ก็ดูเป็นเรื่องที่ยากเกินไป ดังนั้น สถาปนิกยุคใหม่เขาเลยคิดค้นวิธีออกแบบบ้านต้นไม้ที่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมแต่ไม่รบกวนธรรมชาติขึ้นมา และตั้งชื่อมันว่า “BERT”

บ้านต้นไม้หน้าตาโดดเด่นมีเอกลักษณ์หลังนี้มีชื่อเรียกว่า “BERT” เป็นสถาปัตย์ที่สร้างขึ้นโดยสถาปัตยกรรมสตูดิโอ Precht ก่อตั้งโดยคู่นักออกแบบสามีภรรยา Chris และ Fei Tang ซึ่งมีจุดประสงค์ในการออกแบบเพื่อใช้สำหรับการสร้างบ้านขนาดเล็กของบริษัทสตาร์ทอัพ Baumbau

แนวทางการออกแบบบ้านต้นไม้หลังนี้ เขาใช้คอนเซ็ปต์การสร้างเลียนแบบลำต้นของต้นไม้ โครงสร้างของมันจึงมีหน้าตาคล้ายทรงกระบอกต่อยอดสูงขึ้นไปแทน แล้วทำโมดูลเป็นปล้อง ๆ แบบเดียวกับลำต้นของต้นไม้ที่ถูกนกเจาะเป็นโพรงเพื่อติดตั้งเป็นห้องแยก ซึ่งถ้าดู ๆ แล้วหน้าตาจะคล้ายโพรงนก หรือถ้าจินตนาการสูงอีกนิดหลายคนก็บอกว่าหน้าตามันคล้าย ๆ เจ้ามินเนี่ยนตาเดียวอยู่เหมือนกัน

สิ่งที่น่าสนใจคือ บ้านต้นไม้หลังนี้สร้างขึ้นโดยใช้พื้นฐานเป็นทรงกลม (ไม่ได้สร้างแบบตั้งขึ้นมาเป็นท่อแล้วเจาะเอา) จากนั้นสร้างเซลล์แยกที่มีลักษณะคล้ายท่อที่ต่อออกไป ทำเป็นห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่นเพื่อแยกสัดส่วนประหนึ่งต้นไม้ที่แตกกิ่งก้านสาขาออกไปจากลำต้น (แค่ฟังก็สนุกแล้ว)

นอกจากเค้าโครงการออกแบบที่เหมือนลำต้นพืช การตกแต่งภายนอกเขาก็เพิ่มความประณีตให้น่าประทับใจด้วยการสร้างผิวสัมผัสและหน้าตาคล้ายเปลือกไม้ซ้อนต่อกันเป็นคลื่น จัดแต่งสีสันเอิร์ธโทน ให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมรอบข้างที่เป็นป่า สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น

ไม่ได้เนียนแค่เปลือกหรือคอนเซ็ปต์อย่างเดียว สถาปนิกเขายังเพิ่มเรื่องฟังก์ชันความเป็น Eco เรื่องการจัดการพลังงานและระบบภายในบ้านเข้าไปด้วย ทั้งการวางระบบไฟฟ้าโดยใช้โซลาร์เซลล์แบบ Off-grid ติดตั้งไว้บริเวณหลังคา ดึงพลังงานสะอาดเข้ามาใช้งาน และการสร้างห้องสุขาที่วางระบบปุ๋ยหมักไว้ที่ระดับดินด้วย

ถึงจะบอกว่าเป็น Eco เน้นเรื่องธรรมชาติแค่ไหน แต่อีกเหตุผลของการใช้ Off-grid หรือระบบโซลาร์เซลล์แบบ Stand Alone สำหรับ BERT น่าจะมาจากข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ด้วย อธิบายให้ง่าย ๆ ก็คือถ้ามันจะเป็นบ้านต้นไม้ที่ตั้งวิเวก โผล่แซมมากับแมกไม้ แถวนั้นคงไม่มีสายสัญญาณหรือระบบไฟฟ้า สาธารณูปโภคเจ้าไหนแหวกเข้าไปถึง ดังนั้น วิธีที่จะทำให้เรายังใช้ชีวิตได้แบบสะดวกสบายและไม่ต้องตัดโลกรอบข้างก็เลยจำเป็นต้องใช้ Off-Grid ส่วนอีกนัยหนึ่งที่เป็นผลพลอยได้ของการใช้ระบบโซลาร์ Stand Alone แบบนี้คือไม่ต้องเดินสายไฟให้รบกวนภูมิทัศน์ สถาปนิกส่วนใหญ่จึงเริ่มหันไปนิยมการวางระบบนี้มากขึ้น

ด้านการตกแต่งภายในก็ออกแบบให้มืด ๆ สลัว ๆ หน่อยเหมือนอยู่ในโพรง แต่ก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นไปพร้อมกันจากช่องแสงที่ลอดผ่านกระจกทรงกลมบานใหญ่ ขณะเดียวกันส่วนระเบียงที่ต่อขยายออกไปก็ทำให้เราได้เยี่ยมชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิดในระดับความสูงเทียมยอดไม้แบบที่หาไม่ได้ง่าย ๆ จากที่ไหน

แรงบันดาลใจที่คาดไม่ถึง

วิวหลักล้าน คอนเซ็ปต์ธรรมชาติก็แสนดี แต่เบื้องหลังโปรเจกต์นี้มันยังสนุกกว่าเดิมเมื่อ Chris และ Fei Tang อธิบายผ่าน dezeen ว่าเขาศึกษาเรื่องวัฒนธรรม ศิลปะและปรัชญามาเป็นอย่างดีก็จริง แต่ Reference ที่เขานำมาสร้างมาจากสเกลงานศิลป์ที่เล็กกว่านั้นเยอะ

 โปรเจกต์นี้พวกเราก็มองหางานศิลปะมาเป็นแหล่งอ้างอิงเหมือนกันนะ แต่ไม่ใช่ทั้งมิเคลันเจโล หรือดาร์ลี่ เราเลือกพวกคาแรกเตอร์การ์ตูนอย่าง Sesame Street หรือ Minions มาใช้

พูดมาอย่างนี้แล้วพอจะเดาออกไหมว่าเขาเอาส่วนไหนจากการ์ตูนทั้งสองเรื่องนี้มาใช้บ้าง ใช่! คุณเดาถูกแล้ว

  1. หน้าตาแบบวงกลมตาเดียว ทรงกระบอกแบบนี้มันเหมือนเจ้าตัว Minions จาก การ์ตูนคอมเมดี้เรื่อง Despicable Me
  2. ชื่อ Bert มาจากตัวละครมัปเพต (หุ่นมือ) สีเหลืองจากเรื่อง Sesame Street

แม้จะเป็นผลงานของผู้ใหญ่ 2 คน แต่พวกเขาทั้งคู่ใช้กระบวนการออกแบบโดยจินตนาการภาพว่าเวลาเด็กวาดบ้านต้นไม้จะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไรแล้วเริ่มจากจุดนั้น เพราะคิดเสมอว่าในฐานะสถาปนิก ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม พวกเขากล่าวว่าตัวเองยังคงมีความเป็นเด็กในการมองโลก อัดแน่นเปี่ยมไปด้วยความสนุกและความขี้สงสัย และความสงสัยนั้นแหละที่ให้กำเนิด BERT ขึ้นมา

BERT เป็นบ้านสำเร็จรูปที่ออกแบบมาให้ประกอบนอกโรงงานได้ แถมยังเติมโมดูลวางซ้อนกันได้ตามต้องการ อยากได้ทรงเรียวสูงชะลูดเพราะพื้นที่น้อยก็ทำได้ หรือถ้าบริเวณตั้งกว้างขวาง คิดจะแตกกิ่งออกไปให้เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นบ้านขนาดใหญ่หรือเป็นชุมชนก็ทำได้สบาย ๆ ใครที่อยากเห็นของจริงหรืออยากซื้อไปตั้งไว้ในสวนหรือป่าที่บ้านตอนนี้รูปอาจจะมีให้ดูไม่มากนัก เพราะยังอยู่ระหว่างการสร้าง protorype อยู่ ส่วนระยะเวลาที่เขาจะเริ่มเปิดตัวตอนนี้กำหนดไว้แล้วว่าโมดูลแรกจะเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิของปีหน้า (2020)

ส่วนประเด็นวัสดุก่อสร้าง ถึงแม้ว่าเราจะเห็นว่ามันใช่ไม้เป็นหลัก และขึ้นชื่อว่า บ้านต้นไม้ ก็ควรมาจากไม้ แต่เรื่องนี้ทั้งคู่กล่าวว่า แบบมันประยุกต์ได้ ถ้าหาไม้มามันสร้างยาก ส่วนโครงสร้างปรับไปใช้เหล็กแทนที่ได้ตามความเหมาะสม

 

อ้างอิงที่มาข้อมูล

  1. https://www.instagram.com/baumbau.at/
  2. https://www.dezeen.com/2019/06/21/bert-modular-treehouse-precht-minions/
  3. https://www.aecexport.com/solar-cell/off-grid-solar-cell/

ภาพประกอบทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของ dezeen.com

 

Previous article“แอโรเจล” ( Aerogel ) ของแข็งที่เบาที่สุดในโลก !!
Next articleWINDMEE โปรแกรมตรวจการไหลเวียนของอากาศ !!