ในช่วงที่ทุกอย่างรอบ ๆ ตัวเราต่างเต็มไปด้วยเชื้อโรคและแบคทีเรียอันไม่พึงประสงค์นั้น หารู้มั้ยว่า ในแต่ละวันที่เราออกไปข้างนอก แล้วกลับเข้ามาบ้านนั้น เป็นการนำเชื้อโรคจากข้างนอกเข้าสู่บ้านได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว และบ้านเราก็จะกลายเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคที่เผลอ ๆ อาจจะเป็นอันตรายมากกว่าสถานที่นอกบ้านด้วยซ้ำไป
วันนี้เรารวบรวม 11 จุดภายในบ้านที่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นเยี่ยม และอยากให้เจ้าของบ้านทุกคนหันมารักษาความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบริเวณดังต่อไปนี้กันเป็นประจำ
- พื้นผิวสัมผัส
มีรายงานมาว่าเชื้อโรคสามารถมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวแข็ง ๆ ได้ถึง 2-8 ชั่วโมง จึงไม่แปลกที่คนจำนวนมากสามารถติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้จากการจับลูกบิดประตู สวิตซ์ไฟ หรือพวกรีโมทคอนโทรลภายในบ้าน สิ่งเหล่านี้เอง เจ้าของบ้านควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสบ่อยครั้ง อาจจะเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ หรือเช็ดด้วยน้ำส้มสายชู แล้วนำผ้าขนหนูมาเช็ดออกให้แห้งก็ได้
- รองเท้าของคุณ
รองเท้าคือสิ่งที่เราสวมใส่เวลาออกไปข้างนอก เป็นแหล่งซุกซ่อนของพวกโคลน ฝุ่น หรือพวกเศษขยะ ซึ่งพวกไวรัสและแบคทีเรียสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดอกยางของรองเท้า คำแนะนำคือ ก่อนเข้าบ้านควรรีบถอดรองเท้าและเช็ดเท้าก่อนเข้าบ้านทุกครั้ง นอกจากนี้ต้องทำความสะอาดรองเท้าและซักพรมเช็ดเท้าอย่างสม่ำเสมอ
- โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์ที่เราพกติดตัวตลอดเวลานั้นเป็นตัวสะสมเชื้อโรคตัวดีเลยทีเดียว เพราะเราเอามือมาสัมผัสกับมันตลอดเวลา หรือบางครั้งโทรศัพท์อาจถูกสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น การจาม ไอ ละอองฝอยอาจไปโดนโทรศัพท์ของคุณได้ คุณสามารถทำความสะอาดโทรศัพท์ของตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์มาเช็ดรอบ ๆ แล้วรอให้แห้ง แนะนำว่าโทรศัพท์ต้องหมั่นทำความสะอาดทุกครั้งที่คุณรับหรือวางสายจนเป็นนิสัย
- โต๊ะทุกตัวภายในบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร โต๊ะทำงาน หรือเคาน์เตอร์ครัว ล้วนเป็นพื้นที่ที่เราใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้สามารถเกิดการสะสมและปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบอกว่า โต๊ะทำงานที่บ้านสามารถสะสมเชื้อแบคทีเรียได้มากถึง 400 เท่า มากกว่าสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเสียอีก ฉะนั้นควรเช็ดโต๊ะต่าง ๆ ในบ้านบ่อยครั้ง และที่สำคัญควรเช็ดทำความสะอาดโต๊ะก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง
- สิ่งของและจุดต่าง ๆ ในห้องครัว
ไม่ว่าจะเป็นเตาอบ เขียง อ่างล้างจาน ก๊อกน้ำ ผ้าเช็ดจาน และฟองน้ำล้างจาน สิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีเชื้อโรคสะสมอยู่แน่นอน ซึ่งภายหลังจากเสร็จธุระภายในครัว ควรจะทำความสะอาดสิ่งของเหล่านี้หลังจากใช้งานทุกครั้ง และควรเปลี่ยนผ้าเช็ดจานเป็นผ้าที่ผ่านการทำความสะอาดทุกวัน
- ไม้ถูพื้นตัวการแพร่เชื้อโรคทั่วบ้าน
ไม้ถูพื้น หรือผ้าขี้ริ้ว แม้จะเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาด แต่ในทางกลับกันถ้าหากไม่ทำความสะอาดไม้ถูพื้นก่อนใช้งาน มันก็กลายเป็นอุปกรณ์ที่สามารถแพร่กระจายเชื้อโรคไปทั่วบ้านของคุณได้ ฉะนั้นควรล้างอุปกรณ์ด้วยน้ำอุ่นผสมสบู่ และภายหลังจากใช้งานเสร็จให้หยดน้ำยาฟอกขาว 1-2 หยดลงถังผสมกับน้ำ เพื่อฆ่าเชื้อโรคของไม้ถูพื้นอีกทีนึง
- ซักผ้าปูที่นอน
ส่วนพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอน ที่เราใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงในการนอนอยู่บนเตียง เจ้าของบ้านจึงควรทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม หรือแม้แต่พรมเช็ดเท้า อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือ 2 สัปดาห์ครั้ง และควรซักในน้ำอุ่น เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ
- การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจากทองแดง
หากคุณกำลังคิดอยากจะเปลี่ยนซิงค์ล้างจาน หรือท็อปครัวใหม่ ที่มีทั้งดีไซน์ที่สวยงามและสามารถยับยั้งการเกิดเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย ขอแนะนำให้หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ทำจากทองแดง เพราะทางองค์กรป้องกันสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (EPA) ได้ยืนยันแล้วว่าทองแดงและทองเหลือง มีประสิทธิภาพช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้
- เครื่องดักฝุ่น
แม้เครื่องดักฝุ่นจะคอยกรองอากาศภายในบ้านให้สะอาดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันถ้ามันไม่ได้ทำความสะอาดมัน ก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น แบคทีเรียต่าง ๆ ได้เช่นกัน และเพื่อให้คนภายในบ้านหายใจได้สะดวกมากขึ้น ควรติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ พร้อมเสริมตัวอัลตราไวโอเลต (UV) เข้าไปด้วย
- บ้านควรมีความชุ่มชื้น
การที่บ้านมีความชื้นในอากาศมาก จะช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ โดยช่วงระดับความชื้นที่ดีต่อสุขภาพนั้น ความชื้นสัมพัทธ์จะอยู่ที่ประมาณ 40-50 % ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้รู้สึกสบายขึ้น ทั้งยังทำให้จมูกของเราไม่แห้งเกินไปด้วย
- วางกล่องทิชชู่ในที่ที่สามารถเอื้อมถึง
ทิชชู่กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุก ๆ บ้านต้องสต็อกเก็บไว้ และควรวางกล่องทิชชู่ไว้ในจุดที่คุณสามารถหยิบมันได้อย่างสะดวก เช่น ห้องครัว ห้องนั่งเล่น หัวเตียง ห้องน้ำ เป็นต้น หากคุณเกิดอยากจะจาม หรือไอขึ้นมาก็สามารถเอื้อมหยิบกระดาษทิชชู่มาใช้ได้ทันที
กันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าเกิดคนในบ้านเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาจะแย่เอาได้ ลองกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และหาเวลาว่างในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์มาทำความสะอาดตามจุดเสี่ยง จุดซ่อนเร้นกันดู เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีต่อทั้งตัวเองและคนใหนครอบครัว
อ้างอิงข้อมูลจาก: https://www.bobvila.com/slideshow/11-ways-to-flu-proof-your-home-49641#household-humidity-in-winter