ช่วงนี้เป็นช่วงที่เฟอร์นิเจอร์กับต้นไม้ค่อนข้างจะขายดี เพราะคนอยากรีโนเวตให้บ้านหลังเดิมสดชื่นขึ้น แต่ใช่ว่าเฟอร์นิเจอร์สวย ๆ หรือของแต่งห้องดี ๆ ที่เคยอยู่ในโชว์รูม พอวางในห้องเราแล้วมันจะสวยเหมือนในร้าน

บางครั้งการเอาของมาวางหรือจัดบ้านเปลี่ยนที่ก็ทำให้เฟลได้มากกว่าเก่า BuilderNews จึงขอแนะนำ 5 เรื่องเฟลที่มาจากการแต่งห้องให้ทุกคนเลือกไปปรับใช้ตาม และระวังไม่ให้การตกแต่งที่หมายมั่นปั้นมือนั้นเฟล

 

FAIL: เอาหัวเตียงไปปิดหน้าต่าง

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ามีคนทำแบบนี้จริง ๆ เพราะรู้สึกว่า ถ้าวางเตียงหันหัวเตียงไปอยู่ทางช่องหน้าต่าง มุมอื่น ๆ ของห้องจะกลายเป็นโซน Pinterest ดี ๆ ให้เราถ่ายรูปได้ แต่จำไว้เสมอว่าการแต่งแบบนี้มันผิด! เพราะไม่ใช่แค่เวลามองจากถนนแล้วเห็นหัวเตียงมันจะแปลกเท่านั้น แต่มันยังทำให้เฟอร์นิเจอร์ซีดลงจากการโดดแดดเลียด้วย

กรณีที่ไม่มีทางเลือกจริง ๆ ถ้าห้องเรามันมีหน้าต่างล้อมรอบ หรือมุมอื่นก็ติดทางเดินที่ต้องใช้งานมากเกินไป แนะนำทริกให้แขวนผ้าม่านยาวไล่เฉดสีที่ช่วยกรองแสง หรืออีกกรณีคือเลือกเตียงให้ Headboard (ส่วนแผ่นหลังหัวเตียง) อยู่ต่ำกว่าขอบหน้าต่าง

 

FAIL: เริ่มต้นแต่งห้องผิดจุด

จริง ๆ แล้วการจัดแต่งเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน แม้เราจะไม่ใช่มัณฑนากรก็สามารถเข้าใจบางทฤษฎีการจัดวางได้ง่าย ๆ เพราะการวางห้องก็มีลักษณะเหมือนการกลัดกระดุมเสื้อ ถ้าเราเริ่มผิดจุด ส่วนอื่น ๆ ก็จะผิดตาม ดังนั้น ลองเช็กจุดเริ่มต้นในห้องให้ดี

กฎง่าย ๆ ยกตัวอย่าง เช่น ห้องนอนของเรา เราต้องเริ่มต้นจากการเลือกวางตำแหน่งเตียงก่อน เพราะเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอกในห้อง โดยแน่นอนว่าต้องไม่เอาหัวเตียงหรือตัวเตียงไปปิดหน้าต่าง ตามปกติทุกห้องมักจะมีด้านที่เป็นผนังปกติอยู่แล้วอย่างน้อย 1 ด้าน ก็ให้เลือกด้านนั้นแทนได้ ส่วนปลายเท้าฝั่งตรงข้ามเตียงเลือกวางเฟอร์นิเจอร์เป็นโต๊ะหรือตู้ที่สามารถวางโทรทัศน์ได้ให้เหมาะกับการใช้งาน เป็นต้น

 

FAIL: ลืมคิดเรื่องการเดินไปมา ใช้งานพื้นที่ห้อง

หลายคนหลอกตัวเองว่า ห้องสวย วางตำแหน่งสิดีแล้วก็ทน ๆ ใช้งานไป โดยไม่ทันสังเกตว่าเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นที่วางไปมันเหมาะสมกับทางเดินเข้า-ออก หรือการใช้งานในห้องแล้วหรือยัง พอไปใช้งานจริงกลายเป็นต้องป่ายปีน เตะโน่น ชนนี่ ได้แผลไปพร้อมกับการใช้ชีวิตในห้องสวย ๆ ที่ไม่ได้ฟังก์ชัน

ความคิดแบบนี้ต้องเปลี่ยน ทริกง่าย ๆ ก่อนจัดห้องคือต้องคิดถึงทางเข้าทางออกในห้อง ว่าปกติเราจะเดินผ่านเส้นทางตรงไหนบ้างและพยายามเคลียร์บริเวณนั้นให้ว่าง ๆ ไว้เพื่อใช้งาน หรือทางเดินระหว่างห้องแต่ละห้องจุดไหนที่สามารถเติมเฟอร์นิเจอร์เข้าแบบแบบไม่บังทางได้บ้างเพื่อให้ได้ประโยชน์การใช้พื้นที่สูงสุด

 

FAIL: มองข้ามเฟอร์นิเจอร์ชิ้นจิ๋ว

หลายคนคิดว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นโต โซฟาตัวใหญ่ โต๊ะตัวโตเท่านั้นที่จะตอบสนองความฟินเวลาใช้งาน แต่ความจริงเราไม่จำเป็นต้องใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นโต ๆ แต่งห้องเสมอไป เพราะยิ่งใหญ่แค่ไหน เฟอร์นิเจอร์พวกนั้นก็จะยิ่งกินพื้นที่ห้องได้เร็ว ทำให้เวลาเราวางชิ้นอื่นตามลงไปแล้วดูแน่นห้องไปหมด

ลองคิดภาพตามว่าโซฟาตัวใหญ่ โต๊ะหน้าโซฟาจะเล็กจิ๋วก็คงไม่ได้ เพราะจะทำให้ห้องดูไม่แมตช์กัน เทคนิคสำคัญคือลองลงขนาดเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นลง จากโซฟาใหญ่แนวยาว ลองเลือกรุ่นที่นั่งสบายแต่หดลงมาสักนิด จะช่วยให้ใช้งานพื้นที่ห้องได้มากขึ้น และยืดหยุ่นสำหรับการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ อีกด้วย

 

FAIL: ห้องแคบยาววางอะไรไม่ได้

ด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป การออกแบบขนาดห้องก็เปลี่ยนไป เราอาจจะเคยเห็นบ้านดีไซน์สี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว ๆ มาเยอะแล้ว และมันก็ส่งผลให้ห้องมีทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว ๆ ไปด้วย ทำให้เวลาใช้งานห้องไม่ค่อยฟังก์ชัน วางอะไรได้น้อย ทำให้การตกแต่งของเราพังไม่เป็นท่าบ่อย ๆ

เมื่อเราเปลี่ยนขนาดห้องไม่ได้ สิ่งที่เราพอจะแก้ไขได้ก็คือการแบ่งพื้นที่ห้อง เช่น ถ้าห้องนั้นเป็นห้องนั่งเล่นแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว ๆ แต่เราอยากใช้พื้นที่ให้ได้มากที่สุด แทนที่เราจะใช้วิธีดันโซฟาไปติดผนัง ลองขยับขึ้นมากลาง ๆ หน่อยแล้วนำโต๊ะและเก้าอี้สักชุดวางด้านหลังโซฟาแทน ไว้ใช้ทำงานหรือเล่นเกม ทำแบบนี้แล้วเราจะรู้สึกทันทีว่ามีพื้นที่ส่วนตัวเพิ่มขึ้น เหตุผลที่แนะนำให้วางหลังโซฟา เพราะถ้าเราไปจัดวางหน้าโซฟา แปลว่าเราต้องเดินผ่านไปผ่านมา ทำลายทัศนวิสัยบริเวณหน้าโซฟา

นี่คือข้อแนะนำที่เรานำมาฝาก ถ้านำไปปรับใช้รับรองว่าจากที่นั่งปวดหัวว่าจัดตรงนี้ตรงนั้นแล้วยังไงพื้นที่ก็ไม่ลงตัว หนนี้น่าจะทำให้ปรับพื้นที่ในบ้านของเราให้ลงล็อกขึ้น ถูกใจทั้งการใช้งานและดีไซน์ หวังว่าทุกคนจะมีความสุขในการปรับแต่งบ้านมากขึ้น แล้วอย่าลืมเอาห้องมาอวดเราบ้างนะ

Previous articleเปิดบริการแล้ววันนี้! สะพานด้วน หรือ “พระปกเกล้าสกายปาร์ค”
สวนลอยฟ้าเชื่อมฝั่งธนฯ-พระนคร
Next articleเทคโนโลยีสุดปัง! การฝังอนุภาคเงินไว้ในเนื้อผ้าเพื่อกำจัดไวรัสโคโรนา
จาก “Serge Ferrari Group”