เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา สภาวิศวกร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รุดลงพื้นที่ “ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู” เพื่อหาข้อเท็จจริงและแนวทางการแก้ไข หลังเกิดกรณีคานคอนกรีต โครงการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) พังถล่ม บริเวณเกาะกลางถนน หน้าห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขาแจ้งวัฒนะ จังหวัดนนทบุรี เล็งถอดบทเรียน “มาตรฐานงานก่อสร้างขนาดใหญ่ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร” หนุนถ่ายทอดความรู้-แลกเปลี่ยนประสบการณ์วิศวกรไทยและผู้ประกอบการก่อสร้างต่อไป ชี้งานก่อสร้างขนาดใหญ่ ต้อง Safety First ! ทั้งนี้ หากประชาชน พบเห็นความไม่ปลอดภัยในงานก่อสร้าง สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนสภาวิศวกร 1303 หรือแจ้งไปยังเจ้าของโครงการก่อสร้างศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร เปิดเผยว่า จากกรณีคานคอนกรีต โครงการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) ถล่ม บริเวณหน้าห้างแมคโคร สาขาแจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี สภาวิศวกร ไม่ได้นิ่งนอนใจ รุดลงพื้นที่ “รถไฟฟ้าสายสีชมพู” พร้อมประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และสถานีตำรวจภูธร (สภ.) ปากเกร็ด เพื่อหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ รวมถึงแนวทางการแก้ไขร่วมกัน เพื่อถอดเป็นบทเรียน “มาตรฐานงานก่อสร้างขนาดใหญ่ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร” ซึ่งมีกำหนดจัดพูดคุย เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แก่วิศวกรไทยและผู้ประกอบการก่อสร้าง ณ สภาวิศวกร ต่อไปศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในพื้นที่ หรือผู้สัญจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง เจ้าของโครงการ วิศวกร และผู้เกี่ยวข้อง จะต้องเข้มงวด เรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้าง เพิ่มขึ้น อาทิ ทำเช็คลิสต์เพื่อตรวจสอบการทำงานทั้งก่อนและหลังการก่อสร้าง รวมถึงตรวจสอบความปลอดภัยของพื้นที่เสมอ ประกอบกับตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. 2542 จะมีคณะกรรมการจรรยาบรรณ เป็นผู้พิจารณาตรวจสอบการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมของวิศวกรที่เกี่ยวข้องกับการเกิดเหตุดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป

อย่างไรก็ดี ทุกงานก่อสร้างขนาดใหญ่ จะมีมาตรการความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ครอบคลุมทุกกระบวนการทำงาน อาทิ มีการตรวจสอบความปลอดภัยของพื้นที่ มี barrier กั้นอาณาเขตพื้นที่ก่อสร้าง มีป้ายจราจรแจ้งเตือนแก่ผู้ขับขี่ มีการกำหนดเวลาทำงานก่อสร้าง ขณะการจราจรไม่หนาแน่นคือ หลัง 22:00 – 5:00 น. มีผ้าใบคลุมสิ่งปลูกสร้าง เพื่อป้องกันอันตรายจากการร่วงหล่นของชิ้นส่วน-อุปกรณ์งานก่อสร้าง ทั้งนี้ หากประชาชน พบเห็นความไม่ปลอดภัยในงานก่อสร้าง สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนสภาวิศวกร 1303 หรือแจ้งไปยังเจ้าของโครงการก่อสร้าง ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ กล่าวทิ้งท้าย

 

Previous articleกุ๊กกู๋หรือน่าอยู่? เทรนด์ฮิตต่างแดน จับโบสถ์เก่ามารีโนเวตเป็นบ้าน
Next article“THE PARQ” โครงการ Mixed Use สุดล้ำ ตอบโจทย์ New Normal
ด้วยนวัตกรรม TOUCHLESS
Ton Suwat
คอลัมนิสต์หนุ่ม ผู้หลงไหลในสถาปัตยกรรมไทยอีสาน และความง่ายงามตามวิถีชนบท