“ฝนตก รถติด น้ำท่วม” ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นประจำทั่วไทยในช่วงฤดูฝน แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งปัญหาตามมา เป็นปัญหาที่มา ๆ หาย ๆ นั่นคือ “ฝุ่น” ใครที่เป็นภูมิแพ้น่าจะเคยเจอบ่อย หลายคนคิดว่าฝนจะช่วยล้างฝุ่น แต่เปล่าเลย ฝุ่นไม่ได้หายไปไหน ยังวนเวียนอยู่ในอากาศและใกล้ตัวคุณมากกว่าเดิม ใกล้จนคุณแทบไม่รู้ตัว
PM 2.5 มักมาในช่วงฤดูหนาว หลายคนเตรียมอุปกรณ์ป้องกันทั้งหน้ากากกันฝุ่น เครื่องฟอกอากาศมาต่อกรกับมัน เมื่อหมดฤดูกาลก็ปล่อยถึงไว้ ยิ่งฤดูฝนยิ่งเห็นได้ชัด เพราะคิดว่าฝนชะล้างฝุ่น
งานวิจัยโดยภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยไอโอวา สหรัฐอเมริกา พบว่า พายุฝนเป็นตัวการที่ทำให้ฝุ่นกระจายได้ดีกว่าเดิม เพราะแรงกดอากาศสูงและกระแสลมแรงสามารถทำให้ฝุ่นแตกละอองละเอียดขึ้น ทำให้มีขนาดที่เล็กลงและกระจายตัวได้ดีขึ้น
เมื่อฝุ่นฟุ้งกระจาย ยิ่งมีโอกาสที่เราจะสูดดมเข้าร่างกายได้เยอะขึ้น รวมถึงวิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลกเราในปัจจุบัน ยังทำให้ฤดูฝุ่นมีระยะเวลานานและหนักขึ้น เรียกได้ว่า ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงฤดูไหนของปี เจ้าฝุ่นขนาดเล็กซึ่งรวมไปถึง PM 2.5 ที่เรารู้จักกันดีก็ไม่ได้หายไปเลย
อีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงช่วงฤดูฝนคือ “ไรฝุ่น” ศัตรูตัวฉกาจของชาวภูมิแพ้ ที่แอบซ่อนตัวในบ้านของเรา เพราะฤดูฝนเป็นช่วงที่อากาศมีความชื้นสูง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของไรฝุ่น BuilderNews จึงอยากจะให้ผู้อ่าน หมั่นตรวจเช็กตามชุดเครื่องนอน โซฟา ผ้าม่านต่าง ๆ และทำความสะอาดให้บ่อยขึ้น
จริง ๆ แล้วไม่ว่าจะฤดูไหน ชาวภูมิแพ้ก็ต้องประสบพบเจอกับอาการที่มาจากสิ่งเหล่านี้ การดูแลคุณภาพอากาศในพื้นที่ที่อยู่อาศัยเป็นสิ่งจำเป็น อากาศภายนอกเราไม่สามารถควบคุมหรือคาดการณ์ได้ แต่ในบ้านของเรา เราสามารถดูแลตรงนี้ได้ ทางเลือกหนึ่งที่ BuilderNews อยากจะแนะนำคือการเลือกใช้เครื่องกรองอากาศที่มีคุณภาพสักเครื่อง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ๆ เพราะใช้ได้ตลอดปี ได้ทุกฤดูกาล
คำแนะนำในการเลือกเครื่องกรองอากาศ
- เครื่องต้องเป็นระบบฟูลซีล ปิดผนึกไม่ให้อากาศที่ไม่สะอาดรอดออกมาได้
- กรองมลพิษในอากาศได้หลายชนิด
- การตรวจจับฝุ่นละอองต้องมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าอากาศที่ผ่านการกรองแล้วไม่กระจุกอยู่บริเวณรอบ ๆ
- เลือกเครื่องกรองอากาศที่ทำหน้าที่เหมือนพัดลมจะช่วยส่งกระแสลมบริสุทธิ์ไปทั่วทั้งบ้าน
