“เอสซีจี ดำเนินธุรกิจโดยยึดลูกค้าเป็นแกนหลักในการพัฒนาสินค้า และโซลูชัน ด้วยนวัตกรรมที่มีจุดมุ่งหมายทำให้คุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยของผู้บริโภคดียิ่งขึ้น”
อัญชลี ชวนะลิขิกร Deputy Head of Housing Product Business บริษัท สยามไฟเบอร์ซีเมนต์กรุ๊ป จำกัด และบริษัท เอสซีจี รูฟฟิ่ง จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวเปิดสนทนาถึงแนวทางกลยุทธ์ของแบรนด์ “สมาร์ทบอร์ดและหลังคา เอสซีจี” ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้าและโซลูชันเพื่อคุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยที่ดียิ่งขึ้น หรือ Smart Living Solution Provider จนสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศและมั่นใจโหวตให้ได้รับรางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2021–2022 ถึง 2 รางวัล ทั้งในหมวดสินค้ากลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด และในหมวดสินค้ากลุ่มกระเบื้องหลังคา ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ได้อย่างยอดเยี่ยม
ยึดหลัก Customer Centric คิดจาก Pain Points และ Insights ของลูกค้า
สำหรับแกนหลักสำคัญในการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ รวมถึงกลยุทธ์การตลาดนั้น อัญชลีกล่าวว่า เอสซีจียังคงยึดหลัก “Customer Centric” เป็นสำคัญ โดยการหา Pain Points และ Insights ของลูกค้าว่าต้องการอะไร รวมถึงศึกษาเทรนด์ตลาดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ ๆ ออกมา ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่ม
“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจในแบรนด์สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี และกระเบื้องหลังคา เอสซีจี มาจากแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยึดลูกค้าเป็นแกนหลักในการพัฒนาสินค้าและโซลูชัน เอสซีจีอยู่คู่คนไทยมานาน เราจึงให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกกลุ่ม รับฟังลูกค้าว่ามี Pain Points หรือต้องการอะไร และใช้จุดนั้นเป็นโจทย์เพื่อสร้างสรรค์สินค้ารวมถึงโซลูชันใหม่ๆ ซึ่งเมื่อพบ Pain Points ต่าง ๆ ผู้บริโภคนั่นคือการค้นพบโอกาสของเราเช่นกัน”
อีกจุดสำคัญที่มีความสำคัญอย่างมากคือ การปรับตัวให้ทันกับเทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจากวิถีชีวิตใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะการเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
“ทุกคนเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ และเข้าสู่ยุคดิจิทัลหมดแล้ว ดังนั้นธุรกิจก่อสร้างก็ต้องปรับตัวมุ่งเน้น Digital Marketing เต็มรูปแบบ ด้วยการทำการตลาดแบบ Omni Channel และ Personalize Marketing ทำแคมเปญทางการตลาดและโปรโมชั่น ผ่านทั้งทางออนไลน์ และออฟไลน์ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ในแต่ละ Segment ทั้งกลุ่มเจ้าของบ้าน ช่าง ผู้รับเหมารวมทั้งมีการ Design Customer Journey ของแต่ละกลุ่มเป้าหมายในโลกออนไลน์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมความชอบของลูกค้าอันหลากหลาย เพื่อลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้า บริการสามารถซื้อสินค้าบนเพลตฟอร์มออนไลน์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราได้พัฒนาในส่วนของออนไลน์ในหลายๆ จุด ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งในส่วนที่เราพัฒนาขึ้นมาเอง และพัฒนาร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำมากมาย เพื่อเสริมประสิทธิภาพของออนไลน์ชอปปิ้งให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด และความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคทุกคน”
กลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์เพื่อรักษาความเป็นที่ 1
หากพูดถึงการสร้างแบรนด์ให้เติบโตและอยู่ในใจลูกค้าได้อย่างยั่งยืน สิ่งที่สำคัญและขาดไปไม่ได้เลยคือ การวางกลยุทธ์ที่ดีและเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ รวมถึงกลุ่มเป้าหมาย ผู้บริโภค เพื่อตอบทุกโจทย์ความต้องการของทุกคน ภายใต้ 3 หัวข้อหลัก คือ
- การพัฒนาสินค้าและโซลูชัน ทั้งทางด้านฟังชันและความสวยงาม เมื่อถามว่าอะไรคือ Key Success ที่ทำให้แบรนด์เอสซีจีครองใจผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่นทั้งในกลุ่มสมาร์ทบอร์ด และกระเบื้องหลังคา คุณอัญชลีได้กล่าวว่า “จริง ๆ แล้วมาจากหลากหลายปัจจัย แต่สิ่งสำคัญ อยู่ที่การสรรสร้างนวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชันที่ไม่ใช่แค่วัสดุก่อสร้าง แต่เป็นนวัตกรรมที่มีจุดมุ่งหมายทำให้คุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยของผู้บริโภคดียิ่งขึ้น ซึ่งเอสซีจีพยายามมองหาอุปสรรคในการใช้ชีวิตของผู้บริโภคมาเป็นที่ตั้ง และพัฒนาต่อยอดเป็นสินค้าและโซลูชันที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว” จนได้มาเป็น 3 หัวข้อใหญ่ ซึ่งเป็นแกนหลักในการสรรสร้างนวัตกรรมสินค้าและโซลูชัน ที่ “อยู่สบาย สุขภาพดี ประหยัดพลังงาน” ที่เราส่งผ่านจากผลิตภัณฑ์ของเราสู่ความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค
-
-
- ตัวช่วยระบายความร้อน อย่าง ฝ้าสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี รุ่น ระบายอากาศ-โพรเทคชั่น, Active AIRflow System
- ช่วยสร้างสุขอนามัยที่ดี ด้วยนวัตกรรมระบบผนัง ULTRA CLEAN WALL ,SCG Active AIR Quality ระบบกันสัตว์เล็ก
- การช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน อย่าง SCG Solar Roof Solutions
- เพิ่มความสวยงามกับที่อยู่อาศัยจากผนัง หรือรั้วระแนงตกแต่ง เอสซีจี รุ่น เฟรทเวิร์ค ,กระเบื้องหลังคาเอสซีจี รุ่น Prestige X-Shield SLIM, Smooth Cool และ เดการ์ บาย เอสซีจี
-
-
- เน้นการทำการตลาดแบบ O2O เพราะถึงแม้ในปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนเป็นออนไลน์ และดิจิทัลมากขึ้น แต่ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซึ่งผู้บริโภคยังคงต้องการเห็นและได้ลองสัมผัสสินค้าจริง การสร้างประสบการณ์แบบ O2O จึงยังเป็นส่วนสำคัญที่เรายังคงเน้นให้มากยิ่งขึ้น
- การทำแคมแปญ Circular Economy หรือ SCG Green Choice ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และผู้บริโภค ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม ช่วยให้เกิดการใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า ลดต้นทุนการใช้จ่าย และเกิดประโยชน์สูงสุด ที่นอกจากจะตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังนับเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกให้น่าอยู่ผ่านการดำเนินธุรกิจภายใต้ความยั่งยืน
มุ่งมั่นทำสิ่งที่ดียิ่งขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติ
และในอนาคต เอสซีจี ยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด Customer Centric เพื่อส่งมอบสินค้า บริการ และประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกท่านอย่างต่อเนื่องต่อไป
“เอสซีจี ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความเชื่อมั่น และไว้วางใจสินค้าสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี และกระเบื้องหลังคา เอสซีจี อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราจะยังคงมุ่งมั่นใช้ความชำนาญ และนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และเราจะดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามสโลแกน “SCG Passion for Better”” อัญชลีกล่าวทิ้งท้าย