คุณกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” เผยภาพรวมการดำเนินงานในปีนี้ถือเป็นปีที่ดีของบริษัทฯ เนื่องจากมีโครงการใหม่ที่ทยอยสร้างเสร็จ เพื่อโอนกรรมสิทธิ์รวมทั้งสิ้นถึง 10 โครงการ มูลค่าโครงการวม 14,530 ล้านบาท

     ในจำนวนนี้เป็นโครงการใหม่ที่กำหนดสร้างเสร็จและโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 4/2566 จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,400 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเคฟ โคโลนี (Kave  Colony) ซึ่งมี จุดเด่นคือทำเลใกล้ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และส่วนกลางที่พร้อมอำนวยความสะดวก 30 รายการ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ รวมถึงผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนระยะยาว, แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช (Atmoz Oasis Onnut), แอทโมซ โฟลว์ มีนบุรี (Atmoz Flow Minburi) และ ดิ อาเบอร์ ดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ (The Arbor Donmueng Changwattana)

     นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการที่ก่อสร้างเสร็จ พร้อมส่งมอบกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่องในปี 2567 จำนวน 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 23,177 ล้านบาท ซึ่งจากแผนงานดังกล่าว สะท้อนได้ถึงศักยภาพของ ASW ซึ่งมั่นใจได้ว่าบริษัทฯ มีภาพการเติบโต และแผนการรับรู้รายได้ที่ต่อเนื่องและเข้มแข็ง

     ขณะที่แผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ได้ปรับเพิ่มเป็น 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 30,260 ล้านบาท จากแผนเดิม 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนการเติบโตในอนาคต โดยแผนงานไตรมาส 4/2566 พร้อมเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 5 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 15,100 ล้านบาท ได้แก่

  1. เคฟ วันเดอร์แลนด์ (Kave Wonderland) 1,424 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,550 ล้านบาท เริ่มเปิดให้ชมห้องตัวอย่างปลายเดือน ธันวาคม 2566
  2. แอทโมซ แคนวาส ระยอง (Atmoz Canvas Rayong) 674 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท ทำเลติดศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง เพื่อรองรับการขยายตัวของการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC
  3. โมดิซ โวยาด ศรีนครินทร์ (Modiz Voyage Srinakarin) 813 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท ใกล้บริเวณรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีกรีฑา โดยมีระยะห่างเพียง 300 ม.
  4. โครงการ ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา (The Honor Yothinpattana) บ้านเดี่ยวสุดหรู จำนวน 106 หลัง มูลค่าโครงการกว่า 4,200 ล้านบาท ซึ่งมีบ้านตัวอย่างให้เยี่ยมชมถึง 6 หลัง
  5. เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา (The Title Legendary Bang-Tao) 637 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท

     “โครงการ เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในตลาดอสังหาริมทรัย์ ภูเก็ต ภายหลังจัดงาน Agent Day สามารถปิดการขายผ่านตัวแทนด้านธุรกิจในเฟสแรกกว่า 300 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าราว 2,000 ล้านบาทในหนึ่งวัน จึงเชื่อมั่นว่าอสังหาฯ ภูเก็ตยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ”

     “โครงการ เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ในตลาดอสังหาริมทรัย์ ภูเก็ต ภายหลังจัดงาน Agent Day สามารถปิดการขายผ่านตัวแทนด้านธุรกิจในเฟสแรกกว่า 300 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าราว 2,000 ล้านบาทในหนึ่งวัน จึงเชื่อมั่นว่าอสังหาฯ ภูเก็ตยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ”

     ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของปี 2566 ว่า ตลาดเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากมีปัจจัยอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ปรับขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่การเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ ทำให้การใช้จ่ายของภาครัฐขาดความต่อเนื่อง เกิดการชะลอการลงทุนของภาคเอกชน ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2 และ 3 ที่ผ่านมาเกิดภาวะสุญญากาศ ทำให้ผู้บริโภคใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามตลาดที่อยู่อาศัยบางส่วนยังมีกำลังซื้อที่ดี เช่น คอนโดมิเนียมรอบมหาวิทยาลัย (Campus Condo) เนื่องจากมีกลุ่มคนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และบริหารเงินด้วยการซื้อคอนโดฯ เพื่อรับผลตอบแทนในระยะยาว ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ รวมทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง นอกจากนี้พบว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหัวเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ มีการเติบโตที่ดีจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง

     บริษัทฯ คาดการณ์ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 จะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามตัวเลขทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่คาดว่าจะขยายตัว 2.8-3.3% เพราะภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ เดือนตุลาคม-พฤศจิกายนที่ผ่านมาเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งสงครามระหว่างอิสราเอล-ฮามาสที่ไม่ได้ขยายวง อัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศไทยที่เริ่มทรงตัว รวมทั้งแรงส่งของการบริโภคภาคเอกชน จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ มาตรการ Easy E-Receipt ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค.-15 ก.พ. 2567, โครงการ  Digital Wallet เป็นต้น รวมถึงแรงซื้อจากชาวต่างชาติที่กลับมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็นบ้านหลังที่สองในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ภูเก็ต เป็นต้น

     “ปี 2567 บริษัทฯ เตรียมขยายการลงทุนโครงการอสังหาฯ ในจังหวัดภูเก็ต ผ่านบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE และ บริษัท โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว จำกัด หรือ BGA เพื่อตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยว และคนทำงานในจังหวัดภูเก็ต”

     อนึ่ง ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 57 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA),แบรนด์ ดิ อาเบอร์ (THE ARBOR) และ แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมมูลค่าโครงการกว่า 67,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จรวมถึงโครงการพร้อมอยู่ 41 โครงการ ด้านโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 16 โครงการ ปัจจุบันมียอดขายคาดการ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 16,337 ล้านบาท

Previous articleสัมผัส สถาปัตย์ สัมผัสสถาปัตยกรรมกินได้ ที่งานสถาปนิก’67
Next articleย้อนรอยผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง สวยไร้ขอบจำกัดด้วยดีไซน์โค้งมน ในงานสถาปนิก’66