Nike ขยายคลังสินค้าใหม่ ‘โลจิสติกแคมปัสแห่งยุโรป’ ครอบคลุมพื้นที่ 150,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนพื้นที่สีเขียว เลียบคลองอัลเบอร์ด ห่างจากตัวเมืองแอนเวิร์ป ประเทศเบลเยียม ราว ๆ 50 กิโลเมตร
คลังสินค้าใหม่ของ Nike มีการจัดการซัพพลายเชนควบคู่ไปกับการคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ โดยรอบ ๆ คลังสินค้า รายล้อมด้วยแหล่งพลังงานทดแทน 5 แหล่ง ได้แก่ ไฟฟ้าพลังงานน้ำ,พลังงานความร้อนใต้พิภพ, พลังงานชีวมวล, พลังงานลมที่มีกังหันลมสูง 150 เมตร จำนวน 6 ต้น เพียงพอที่จะผลิตไฟฟ้าได้ถึง 5,000 ครัวเรือน และแผงโซล่าเซลล์ซึ่งมีขนาดเทียบเท่ากับสามสนามฟุตบอล
ทั้งหมดนี้เพื่อเร่งการขับเคลื่อนบริษัทไปสู่ซัพพลายเชนอย่างยั่งยืนในอนาคต ที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์ ซึ่งจะเห็นได้จากเส้นทางขนส่งไปกลับระหว่างคลังสินค้า ที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์ลง 30 เปอร์เซ็นต์ และให้ความสำคัญกับการลดการใช้พลังงาน โดยหันมาใช้พลังงานทดแทน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรและมวลมนุษย์ชาติ
นอกจากนี้ สินค้าที่ผลิตออกมาแล้วเป็นของเสีย มากกว่า 95% จะนำไปรีไซเคิลต่อ โดยรอบ ๆ ทางเดินของพนักงานบริษัท ก็ทำมาจากวัสดุรองเท้าเหลือทิ้งด้วยเช่นกัน
สะดวกสบายด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเข้าถึงโรงงานได้หลากหลายทาง ทั้ง คลอง ทางรถไฟ และถนนไฮเวย์ แต่ทางไนกี้กล่าวว่า ร้อยละ 99 ของสินค้าจะส่งเข้าโรงงานผ่านทางน้ำมากกว่าทางถนน ซึ่งช่วยลดการขนส่งด้วยรถบรรทุกประมาณ 14,000 คันต่อปี
ภายนอกอาคารโดดเด่นด้วยการใช้โครงสร้างของชั้นจัดเก็บสินค้าเป็นโครงสร้างสำหรับรองรับตัวอาคาร ซึ่งวิธีการก่อสร้างอาคารลักษณะนี้จะใช้วัสดุก่อสร้างน้อยชิ้น และก่อให้เกิดวัสดุก่อสร้างเหลือทิ้งน้อยกว่าการใช้โครงสร้างจากเหล็กและคอนกรีต
ภายในอาคารติดตั้งหน้าต่างหลายบาน และมีระบบ Daylight Capture System เพื่อให้ข้างในอาคารเจิดจ้าไปด้วยแสงจากธรรมชาติ นอกจากนี้ยังทันสมัยด้วยไฟ LED แบบอัตโนมัติ ช่วยให้แสงสว่างยามฉุกเฉิน ทั้งยังลดค่าไฟ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
การลงทุนอันล้ำสมัยของคลังสินค้าแห่งใหม่ของ Nike ศูนย์กลางเครือข่ายการกระจายสินค้าในยุโรป ก่อให้เกิดเครือข่ายของผู้ค้าปลีกและผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง ไม่ใช่แค่เพียงทวีปยุโรป แต่กระจายไปทั่วโลก ทั้งยังทำให้ Nike มีการจัดการด้านซัพพลายเชนแบบครบวงจร ตอบโจทย์ผู้ใช้สินค้าได้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นหาวัตถุดิบ จนส่งถึงมือลูกค้า ถือเป็นอันสิ้นสุดกระบวนการ
Source: Designboom , Environmentalleader