Product Review ฉบับนี้ เราจะนำผลิตภัณฑ์และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานในพื้นที่อุตสาหกรรมและคลังสินค้ามาแนะนำกัน
‘LED Highbay’ อุปกรณ์ส่องสว่างเพื่อคลังสินค้า
ปกรณ์กำเนิดแสงสว่าง LED ภายใต้แบรนด์ TDLIGHT เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้ในงานตามอาคารและสถานที่ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก อาศัย คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงยิม โชว์รูม คลังสินค้า โรงงาน และโรงพยาบาล ซึ่ง LED ประสิทธิภาพสูง มีความสามารถในการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงเหมาะที่จะเป็นอุปกรณ์ให้แสงสว่างสำหรับอาคารที่ต้องการประหยัดพลังงาน
ทั้งนี้ TDLIGHT เองก็มีอุปกรณ์ส่องสว่างประเภทโคม Highbay ที่เหมาะสำหรับงานอาคารคลังสินค้าให้เลือกใช้งานหลายรุ่น มีให้เลือกตั้งแต่ขนาดใหญ่ระดับ 400 วัตต์ ไปจนถึงขนาดเล็กสุดที่ 100 วัตต์ ซึ่งทุกรุ่นให้คุณภาพแสงที่ไว้วางใจได้ และยังออกแบบมาสำหรับคลังสินค้าที่ต้องการปริมาณแสงสว่างที่เพียงพอ โดยปกติแล้วอาคารคลังสินค้าจะมีพื้นที่ค่อนข้างมาก จึงจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ให้แสงสว่างจำนวนมาก ซึ่งจะตามมาด้วยค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ค่อนข้างสูง แต่หากเลือกใช้การส่องสว่างด้วยหลอด LED แล้ว ก็จะช่วยให้ประหยัดพลังงานได้อย่างมาก
สำหรับรายละเอียดของ LED HIGHBAY 400W ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีจาก TDLIGHT เป็น LED ที่เหนือกว่าคู่แข่งในท้องตลาด ด้วยกำลังไฟที่สูงถึง 400 วัตต์ และมีการออกแบบดีไซน์ Sink อลูมิเนียมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ TDLIGHT สามารถใช้ทดแทนหลอดชนิดแสงจันทร์กำลัง 1,000 วัตต์ เลยทีเดียว แต่ให้ระดับการประหยัดพลังงานอยู่ในชั้น A+ และยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากถึง 50,000 ชั่วโมง ทั้งยังให้อุณหภูมิสี 2,700 เคลวิน และ 6,000 เคลวิน โดยมีระยะเวลาที่ใช้ในการอุ่นเครื่องเพื่อให้ได้แสง 60% ของปริมาณแสงเต็มรูปแบบน้อยกว่า 1 วินาที และมีขนาดของโคมไฟ 273 X 403 X 190 มิลลิเมตร
ถัดมาเป็นรุ่น LED HIGHBAY 200W เมื่อเปิดสวิตช์ ไฟจะติดทันที หากมีโป๊ะโคมหรือโคมไฟแบบธรรมดาและต้องการแสงที่กระจายสม่ำเสมอ ให้ใช้หลอดชนิดขาวขุ่นตัวหลอด LED มีอายุใช้งานประมาณ 30,000 ชั่วโมง ปลอดสารปรอท สินค้าผลิตจากพลาสติกโพลีคาร์บอเนต ระดับการประหยัดพลังงาน A+ อุณหภูมิสี 2,700 เคลวิน และ 6,000 เคลวิน ระยะเวลาที่ใช้ในการอุ่นเครื่องให้ได้แสง 60% ของปริมาณแสงเต็มรูปแบบน้อยกว่า 1 วินาที
ส่วนในรุ่น LED HIGHBAY 150W เมื่อเปิดสวิตช์ ไฟจะติดทันที หากมีโป๊ะโคมหรือโคมไฟแบบธรรมดา และต้องการแสงที่กระจายสม่ำเสมอ ให้ใช้หลอดชนิดขาวขุ่น หลอด LED มีอายุใช้งานประมาณ 30,000 ชั่วโมง ปลอดสารปรอท สินค้าผลิตจากพลาสติกโพลีคาร์บอเนต มีค่าการส่องสว่าง 600 ลูเมน ระดับการประหยัดพลังงาน A+ อุณหภูมิสี 2,700 เคลวิน และ 6,000 เคลวิน ระยะเวลาที่ใช้ในการอุ่นเครื่องให้ได้แสง 60% ของปริมาณแสงเต็มรูปแบบน้อยกว่า 1 วินาที
รุ่น LED HIGHBAY 120W เมื่อเปิดสวิตช์ ไฟจะติดทันที หากมีโป๊ะโคมหรือโคมไฟแบบธรรมดา และต้องการแสงที่กระจายสม่ำเสมอ ให้ใช้หลอดชนิดขาวขุ่นหลอด LED มีอายุใช้งานประมาณ 30,000 ชั่วโมง ปลอดสารปรอท สินค้าผลิตจากพลาสติกโพลีคาร์บอเนต มีค่าการส่องสว่าง 600 ลูเมน ขนาดของโคมไฟ มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 55X88 มิลลิเมตร มีค่าดรรชนีความถูกต้องของสี 80 กำลังไฟฟ้า 3 วัตต์
รุ่นเล็กสุด LED HIGHBAY 100W เมื่อเปิดสวิตช์ ไฟจะติดทันที หากมีโป๊ะโคมหรือโคมไฟแบบธรรมดา และต้องการแสงที่กระจายสม่ำเสมอ ให้ใช้หลอดชนิดขาวขุ่นหลอด LED มีอายุใช้งานประมาณ 30,000 ชั่วโมง ปลอดสารปรอท สินค้าผลิตจากพลาสติกโพลีคาร์บอเนต ขนาดของโคมไฟมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 50X88 มม. กำลังไฟฟ้า 3 วัตต์
‘NOXYDIZING’ นวัตกรรมสีป้องกันการผุกร่อน
“สีน็อกไซด์” (NOXYDIZING) เป็นนวัตกรรมใหม่ในการป้องกันการผุกร่อนด้วยฟิล์มสียืดหยุ่นพิเศษ (Corrosion protection by elastomeric membrane) ทั้งยังเป็นสีที่ช่วยป้องกันการผุกร่อนที่เกิดจากสนิมเป็นสีส่วนเดียว จึงใช้งานง่าย ฟิล์มสีมีความยืดหยุ่นสูง สามารถช่วยป้องกันการซึมผ่านของน้ำ ทนต่อสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง ทนต่อแรงกระแทก และสารเคมีจึงเหมาะกับงานอุตสาหกรรมหนัก
สีน็อกไซด์ รวมคุณสมบัติเด่นของทุกวิธีในการป้องกันการผุกร่อนเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยผงสีป้องกันสนิมคุณภาพสูง จึงช่วยลดการสึกกร่อน มีความยืดหยุ่นมากกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ เหมาะสำหรับโครงสร้างเหล็กที่มีการขยายหรือหดตัวตลอดเวลา เช่น สะพานสายเคเบิล สีน็อกไซด์ยังมีการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ถึงแม้ว่าฟิล์มสีจะมีรอยขีดข่วนหรือถูดตัดขาด สีบริเวณใกล้เคียงจะไม่มีการหลุดล่อนหรือกระเทาะออกเป็นแผ่น จึงสามารถช่วยลดการลุกลาม หรือแพร่กระจายของสนิมได้
สีน็อกไซด์ สามารถป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้ดีและมีความแข็งแรงสูง ใช้ได้ดีกับบริเวณหลังคาที่เป็นโลหะ สีน็อกไซด์มีสูตรพิเศษ ที่สามารถให้การปกคลุมพื้นผิวได้ดี แม้ว่าจะเป็นบริเวณมุมหรือขอบชิ้นงาน โดยปกคลุมได้มากถึง 100 เปอร์เซ็นต์ สำหรับมุมชิ้นงานที่เป็นรูปโค้ง และ 41 เปอร์เซ็นต์ สำหรับมุมชิ้นงาน 90 องศา ซึ่งในบริเวณมุมหรือขอบชิ้นงานนั้น หากใช้สีทั่วไปจะได้ความหนาฟิล์มต่ำและเกิดสนิมได้ง่าย
สีน็อกไซด์ สามารถใช้ได้งานหลากหลาย จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการซ่อมบำรุงชิ้นงานที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกมาชุบกัลวาไนซ์ได้ จึงเหมาะสำหรับภายนอกอาคาร, เครน, สะพานเหล็ก, แท็งค์น้ำ หรือแท็งค์น้ำมัน, หลังคาเหล็กและประภาคาร
สีน็อกไซด์ ได้ผ่านการทดสอบจากสถาบันที่มีชื่อเสียงมากมาย โดยได้ผลการทดสอบในด้านการป้องกันการผุกร่อนที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 ได้มีการใช้สีน็อกไซด์แพร่หลายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสภาวะอากาศเช่นไร สีน็อกไซด์ก็ยังคงความแข็งแกร่งของชิ้นงานไม่เปลี่ยนแปลง
‘MITSUBISHI’ ผู้นำโฟล์คลิฟท์คลังสินค้า
ภายในคลังสินค้า การขนย้ายสินค้าและโลจิสติกส์ถือเป็นอีกหนึ่งระบบที่เป็นปัจจัยหลักของการบริหารจัดการสินค้า การใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ สำหรับงานขนถ่ายที่มีคุณภาพจึงเป็นเรื่องจำเป็น ดังนั้นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะแนะนำ ได้แก่ โฟล์คลิฟท์จาก MITSUBISHI ซึ่งถือได้ว่าเป็นแบรนด์ชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตเครื่องจักรสำหรับงานขนถ่ายและลำเลียงสำหรับอาคารคลังสินค้าโดยเฉพาะ โดยเริ่มดำเนินธุรกิจจาก Mitsubishi Heavy Industries หรือ MHI และต่อมาได้มีการพัฒนารถโฟล์คลิฟท์ที่สามารถตอบสนองการใช้งานในด้านต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม โดยมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้งานหลากหลาย อาทิ รถโฟล์คลิฟท์เครื่องยนต์ดีเซล, เครื่องยนต์ใช้ก๊าซแอลพีจี และรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
สำหรับโฟล์คลิฟท์เครื่องยนต์แอลพีจี ของมิตซูบิชิ เป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีมลพิษต่ำ เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้งานในคลังสินค้าที่มีสภาพปิด อากาศถ่ายเทได้น้อย โดยมีขนาดต่าง ๆ ให้เลือกใช้งานที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่ขนาด 1 ตัน, 3.5 ตัน, 4 ตัน และ 5 ตัน ส่วนรถโฟล์คลิฟท์แบบเครื่องยนต์ดีเซล มีให้เลือกใช้งานตั้งแต่ขนาด 1 ตัน ไปจนถึงขนาด 3.5 ตัน แต่รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดจะเป็นขนาด 4 ตัน ถึงขนาด 5 ตัน เหมาะกับงานที่ต้องการ
ประสิทธิภาพสูงในการยกที่สูง เครื่องยนต์ทำงานนุ่มนวล และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ MITSUBISHI ยังมีรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า ให้เลือกใช้งานอีกด้วย โดยมีทั้งแบบ 3 ล้อ และแบบ 4 ล้อ โดยรถไฟฟ้าแบบ 3 ล้อ ถือเป็นนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการออกแบบรถโฟล์ทลิฟท์ไฟฟ้าที่ก้าวหน้า ด้วยการทำงานที่มีประสิทธิภาพ มีความสมดุล และความยืดหยุ่นสูง โดยมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 1.3 ตัน ถึงขนาด 2 ตัน เนื่องจากเป็นรถขนาดเล็กที่ออกแบบมาสำหรับการทำงานในพื้นที่จำกัด จึงได้ความนิยมอย่างมากในคลังสินค้าขนาดเล็ก
ในขณะที่รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าแบบ 4 ล้อ เป็นการดัดแปลงเทคโนโลยีและนวัตกรรมการออกแบบจากรถแบบ 3 ล้อ มาเป็นรถแบบ 4 ล้อ โดยใช้ยางแบบเติมลม ทำให้ตัวรถเบามากขึ้น การทำงานนุ่มนวลและมีความเสถียรสูง โดยมีขนาดต่าง ๆ ให้เลือก ตั้งแต่ 2.8 ตัน จนถึงขนาด 3 ตัน นอกจากนี้ยังมีรถขนาด 1.5 ตัน ถึงขนาด 5.5 ตัน ที่ออกแบบมาสำหรับงานยกที่ต้องการประสิทธิภาพในการยกสูงให้เลือกใช้งานอีกด้วย
นิตยสาร Builder Vol.33 July 2016