อิตัลไทย นำรถเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ SDLG รุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยภายในปีนี้จะมีการนำรถประเภทใหม่ๆ เข้ามาขายเพิ่มเติม ตอบโจทย์ฐานลูกค้าที่หลากหลายทั้งงานอุตสาหกรรม งานเกษตร งานก่อสร้าง ไปจนถึงงานเหมือง ด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่คุณภาพสูง มีความคุ้มค่า ครบเครื่องด้วยบริการหลังการที่มีประสิทธิภาพ พร้อมจัดกิจกรรมไฮไลท์ SDLG TOP Driver 2016 หาสุดยอดนักขับรถตักยาง มุ่งหวังให้ลูกค้าใกล้ชิดกับผลิตภัณฑ์ยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา บริษัทอิตัลไทย อุตสาหกรรม จำกัด ได้จับมือกับผู้ผลิตรถจักรกลแบรนด์SDLG จากประเทศจีน เพื่อรุกตลาดในประเทศไทยให้กว้างยิ่งขึ้น โดยขยายฐานลูกค้าเพิ่มจากเดิมที่เป็นกลุ่มงานเกษตร สู่กลุ่มลูกค้าภาคอุตสาหกรรม กลุ่มงานก่อสร้าง รวมถึงงานเหมืองแร่ ซึ่งเป็นการตอบรับกับความความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย อันมีแนวโน้มใช้งานรถเครื่องจักรกลหนักมากขึ้น พร้อมวางเป้าผลักดันผลิตภัณฑ์รถจักรกลแบรนด์SDLG ขึ้นเป็นผู้นำในตลาดรถตักล้อยางจากประเทศจีน ให้ได้ส่วนแบ่งการตลาด 30 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ทางบริษัทอิตัลไทย ได้นำรถเคริ่องจักกรกลหนักแบรนด์SDLG มาเปิดตลาดในประเทศไทยแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 ในฐานะตัวแทนจำหน่ายและบริการหลังการขายเพียงเจ้าเดียวในประเทศ ด้วยจุดเด่นที่คุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ มีความปลอดภัยสูง และคุ้มค่าด้านการใช้งาน จึงมีเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเสมอมา สำหรับการรุกตลาดในปีนี้ก็ได้มีการนำผลิตภัณฑ์เข้ามาเพิ่มเติม ส่งผลให้ในปีนี้จะมีรถจักรกลให้กลุ่มลูกค้าได้เลือกใช้ ถึง 4 ประเภท ได้แก่
1. รถตักล้อยาง (Wheel Loader) มีขนาดให้เลือกใช้ตั้งแต่ 1-6 ตัน ใช้งานง่าย ปลอดภัย ประหยัดน้ำมัน และมีฟังก์ชั่นเสริมที่หลากหลาย เหมาะกับงานในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง
2. รถเกรด (Motor Graders) โดดเด่นที่ระบบเกียร์ไฟฟ้า ปรับเปลี่ยนเกียร์ตามสภาพถนนได้หลากหลาย พร้อมด้วยอุปกรณ์เสริมที่จะทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
3. รถตักหน้าขุดหลัง (Backhoe Loader) เป็นรถอเนกประสงค์ ที่ทำได้ทั้งงานขุดและงานตัก ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยแขนบุ้งกี๋ทั้งแบบมาตรฐานและแบบ Telescopic
4. รถบดอัดดิน (Soil Compactor) รถบดล้อเหล็กแบบซิงเกิลดรัม น้ำหนักใช้งานขนาด 14-20 ตัน พร้อมด้วยเครื่องยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิง
จุดเด่นอีกประการของรถจักรกลแบรนด์SDLG นั่นคือ การบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่ารถจีนแบรนด์อื่น ซึ่งผู้จำหน่ายอย่างอิตัลไทยนั้นมีศูนย์บริการทั่วประเทศกว่า 15 สาขา มีพนักงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง จึงสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงยังมีบริการอื่นๆ เช่น การรับประกันการใช้งาน การจัดฝึกอบรมวิธีใช้งาน และการเข้าไปดูแลซ่อมบำรุงอย่างทั่วถึงด้วยอะไหล่คุณภาพ ลูกค้าจึงวางใจในมาตรฐานบริการหลังการขายได้อย่างหมดห่วง
นอกจากนี้ทางบริษัทยังคงมุ่งเน้นให้กลุ่มลูกค้าสามารถเข้ามาสัมผัสและทดสอบสมถรรภาพของตัวผลิตภัณฑ์ได้โดยตรงจากกิจกรรม SDLG TOP Driver 2016 ซึ่งเป็นการแข่งขันหาสุดยอดนักขับรถตัดล้อยางทั่วประเทศไทย ในช่วงเดือนสิงหาคม – พฤศจิกายน 2559 นี้ โดยรูปแบบการแข่งในปีนี้จะมุ่งเน้นไปที่ทักษะการขับขี่ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดบนความปลอดภัย พร้อมด้วยของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาทเลยทีเดียว ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้นอีกด้ว