“เอสซีจี” ผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง นำโดย คุณอนุวัตร เฉลิมไชย แบรนด์ไดเร็คเตอร์ ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของ 2 สุดยอดสถาปนิกชั้นนำในโอกาสที่คว้ารางวัลด้านงานดีไซน์ระดับโลก จากการออกแบบสถาปัตยกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ “A Place We Stand Showcase @บางแสน” ภายใต้โครงการ “A Place We Stand สร้างเพื่อให้” ซึ่งเป็นโครงการที่เอสซีจีได้นำผลงานการออกแบบของสถาปนิกชื่อดังมาสร้างจริงภายใต้แนวคิด “การสร้างสรรค์ให้ทุกดีไซน์ ทุกความต้องการด้านที่อยู่อาศัยเป็นจริงได้ ด้วยการนำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างมาใช้อย่างไร้ขีดจำกัด” โดยใช้วัสดุก่อสร้างเอสซีจีทั้งอาคาร และได้ส่งมอบให้กับชุมชนเทศบาลเมืองแสนสุข ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ไปเมื่อเดือน พ.ย. 2557 เพื่อให้เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชน และสร้างสรรค์แรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับสถาปนิกรุ่นใหม่และผู้ที่มาเยี่ยมชม
โดย 2 ผลงาน ที่สร้างชื่อเสียงบนเวทีการประกวดสถาปัตยกรรมระดับโลก ได้แก่ ศาลาอเนกประสงค์ “The Flow” ผลงานการออกแบบของคุณทวิตีย์ วัชราภัย เทพาคำ คว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวด Blueprint Awards 2015 ประเทศอังกฤษ และรางวัลรองชนะเลิศการประกวด World Architecture Festival 2015 (WAF Awards) ประเทศสิงคโปร์ โดยมีไอเดียในการออกแบบให้เป็นศาลาอเนกประสงค์ที่ให้ทุกความสุขมีพื้นที่ของตัวเอง แผ่นพื้นถูกพับยกขึ้นคล้ายการพับกระดาษ พื้นบางส่วนถูกยกฉีกขึ้น กลายเป็นโต๊ะ และที่นั่งสำหรับกิจกรรมต่างๆ เป็นพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับชุมชน ทั้งนั่งชมวิว หรือเป็นอัฒจันทร์ เวทีขนาดย่อม ส่วนหลังคาใช้แผ่นโปร่งแสง และแผ่นสมาร์ทบอร์ดตัดเป็น ยูนิตย่อมๆ มาซ้อนกันเป็นชั้นๆ ให้บังเงากันเองและมีช่องว่างระหว่างแผ่นให้ลมพัดเอาความร้อนไหลระบายออกไปโดยเร็ว ทั้งยังได้แสงรำไรเป็นการให้ร่มเงาแบบเดียวกับร่มเงาของต้นไม้ใหญ่
ขณะที่ผลงานการออกแบบ สนามผู้ใหญ่เล่น “The Labyrinth” ผลงานการออกแบบของคุณปิตุพงษ์ เชาวกุล คว้ารางวัลชนะเลิศจากเวทีประกวด AR EMERGING ARCHITECTURE AWARDS 2015 มีแนวคิดในการออกแบบให้เด็กและผู้ใหญ่ได้ออกกำลังกายร่วมกัน พร้อมซึมซับบรรยากาศธรรมชาติในคราวเดียว โครงสร้างคอนกรีตจึงเน้นการใช้ปูนโครงสร้างที่แข็งแกร่งของเอสซีจี นำมาผสมสีแดงลงในเนื้อปูน และหล่อในที่มั่นใจในความแข็งแรง ปลอดภัย ทางเดินและบันไดสร้างขึ้นมาเป็นโมดูลาร์ (Modular) เชื่อมต่อกัน ถ้าเดินครบ 1 รอบ จะเผาผลาญได้ 10 แคลอรี่ อาคารนี้จึงมีชื่อเล่นว่า “10 แคลอรี่ทาวเวอร์”
คุณทวิตีย์ กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ว่า “รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ รู้สึกดีใจและภูมิใจมากค่ะ เพราะเราได้ทำชื่อเสียงให้กับประเทศ และทำให้ต่างชาติได้เห็นว่าวงการสถาปัตยกรรมไทยมีผลงานดีๆ ออกมา สำหรับสิ่งที่ทำให้ได้รับรางวัลโดยส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องคาแรคเตอร์ของสถาปัตยกรรมที่มีความชัดเจนและใหม่ ในการตอบรับความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการใช้งาน ตรงกับต้องการของชุมชน และตอบรับกับพื้นที่ตั้ง เป็นการออกแบบที่มาจาก “สิ่งที่เราอยากมอบให้กับคนในชุมชน” เพราะเมื่อเราได้รับโจทย์มาต้องตีโจทย์ไปอีกขั้น ว่าเราอยากให้สถาปัตยกรรมของเราทำอะไร ทั้งด้านการใช้งาน ความรู้สึก และมุมมอง จากนั้นจึงสร้างสิ่งที่ตอบโจทย์เหล่านั้นขึ้นมารองรับ ด้วยวิธีการตอบโจทย์ที่แตกต่าง ไม่ได้ยึดติดกับอาคารรูปแบบเดิมๆ เช่น อยากให้คนที่มานั่งในศาลาได้รับวิวทะเล ก็พับแผ่นพื้นขึ้นมาเป็นที่นั่งเป็นชั้นๆ ไม่บังกัน หรือการกันแดดกันความร้อนก็เป็นรูปแบบใหม่ที่ใช้การซ้อนๆ กันของแผ่นวัสดุ ยิ่งปัจจุบันมีนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างมากมาย หากเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติที่ดีก็ช่วยลดข้อจำกัดต่างๆ ลงได้”
ด้านคุณปิตุพงษ์ กล่าวว่า “ภูมิใจและตื่นเต้นมากที่ผลงานของเราสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศจากเวทีประกวดออกแบบที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งความโดดเด่นที่เอาชนะใจกรรมการ คือความเป็นสถาปัตยกรรมที่ “จริงใจ” สื่อสารกับผู้ใช้ได้อย่างตรงไปตรงมา มีแนวคิดการออกแบบที่หลุดออกจากเทรนด์แฟชั่นของการดีไซน์ในปัจจุบัน รวมถึงการนำวัสดุก่อสร้างอย่างปูนซีเมนต์ที่ให้ความรู้สึกหนา ทึบ ตัน มาสร้างสรรค์เป็นสนามเด็กเล่นที่ผู้ใหญ่ก็สามารถมาเล่นได้ จึงอยากแนะนำสถาปนิกรุ่นใหม่ว่า ความสำเร็จไม่มีสูตรตายตัว ไม่มีใครรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดี ทำแล้วจะประสบความสำเร็จ เราจึงต้องช่วยกันค้นหา และให้มองวัสดุก่อสร้างเป็นโอกาส ยิ่งมีนวัตกรรมวัสดุใหม่มามากเท่าไร ก็ยิ่งเปิดโอกาสให้เราได้สร้างสรรค์ผลงานอีกมากมาย อย่าจำกัดให้ความคิดอยู่แต่ในกรอบ”
คุณอนุวัตร กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับคุณทวิตีย์และคุณปิตุพงษ์ ที่ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมยอดเยี่ยมจากเวทีระดับโลก นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของวงการสถาปนิกไทย ที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและความสามารถทางด้านการออกแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และทำให้คนทั่วโลกรู้ได้จักงานสถาปัตยกรรมไทยมากขึ้น ทั้งนี้ในฐานะเจ้าของโปรเจ็กต์ ต้องขอบคุณสถาปนิกทั้ง 2 ท่านที่มาร่วมออกแบบ “A Place We Stand Showcase @บางแสน” สถาปัตยกรรมแห่งยุคที่ไม่เพียงมีดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่น สร้างสรรค์ แต่ยังเป็นสถาปัตยกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะหลังจากที่ได้ส่งมอบอาคารให้แก่ชุมชน จนถึงวันนี้ทุกคนในชุมชนยังคงมาใช้อาคารในการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน อีกทั้งยังมีน้องๆ สถาปนิกมาเยี่ยมชมผลงานเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบกันอย่างมากมายอีกด้วย”