เริ่มต้นไปเรียบร้อยกับงาน Hong Kong Lighting Fair งานแสดงสินค้าด้านผลิตภัณฑ์แสงสว่าง โดยมีไฮไลท์ห้ามพลาดอย่าง Asian Lighting Forum เวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์แสงสว่าง ด้วยหัวข้อแรก Beyond Lighting: How Connected Lighting Shapes your Future โดยวิทยากรชั้นนำจากทั้งภาครัฐและเอกชน

เริ่มที่ Mr. Lawrence Chan จาก OSRAM บริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมแสงสว่าง พูดถึงการเปลี่ยนผ่านของเทรนด์ จากเดิมที่เป็นการให้แสงสว่าง ไปเป็นการปรับเข้าสู่ระบบดิจิทัล ที่จะเชื่อมต่อทั้งอดีต, อนาคต และความรู้สึกด้านจิตใจ อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างการเชื่อมต่อนั้น Mr. Chen ยกตัวอย่างโซลูชั่นแสงสว่างของ OSRAM ที่ช่วยให้งานสถาปัตยกรรมอย่าง มหาวิหาร เซนต์ ปีเตอร์ บาซิลิกา ดูงดงามยิ่งขึ้น

หรือการใช้เสริมจิตรกรรมฝาผนังบนเพดานของโบสถ์น้อยซิสติน และงานศิลปะอื่นๆ เหล่านี้เป็นการใช้แสงสว่างในการเชื่อมต่อกับอดีตทั้งสิ้น

ส่วนการเชื่อมต่อกับอนาคต เช่น การศึกษาเรื่องประเภทและขนาดของแสงสว่างที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชโดย NASA ที่ทำร่วมกับ OSRAM เพื่อหาแนวทางในการปลูกพืชบนยานอวกาศซึ่งจะช่วยให้นักบินอวกาศได้มีอาหารทานตลอด

ขณะที่การโชว์แสงสว่างที่เมือง Shenzhen หรือเทคนิคแสงสีในคอนเสิร์ตและอีเวนท์ต่างๆนั้น ล้วนเป็นการเชื่อมต่อกับความรู้สึกด้านจิตใจทั้งสิ้น Mr. Chen ทิ้งท้าย

Mr. Tung Wong ตัวแทนจาก Signify Hong Kong มองถึงการใช้ศักยภาพของแสงสว่างเพื่อให้ผู้ใช้งานมีความเป็นอยู่และการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นในทุกๆพื้นที่ อาทิ ในตัวเมือง, ที่ทำงาน, สนามกีฬา, ห้างสรรพสินค้า และที่พักอาศัย โดยยกตัวอย่างเทคโนโลยีต่างๆ เช่น

Lighting Fidelity (LiFi) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้บริการอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ไร้สายแบบสื่อสารสองทาง ซึ่งมีข้อดีทั้งด้านความปลอดภัย, ความเสถียร และคุณภาพของการเชื่อมต่อ

ซึ่งในอนาคต Mr. Wong มองว่าแสงสว่างจะกลายเป็นภาษานึงในการสื่อสาร โดยยกตัวอย่างการทำงานของหุ่นยนต์ในโรงงานที่สั่งการด้วยระบบแสง

สุดท้าย Dr. Ieong Mei-kei หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีจากสถาบันพัฒนาเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ฮ่องกง ให้ข้อมูลว่าในปี 2026 เสาไฟฟ้า 73 ล้านต้นทั่วโลกจะกลายเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะที่สามารถทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์อื่นๆ เพื่อทำการตรวจสอบสภาพแวดล้อมของเมืองและถนนได้

ขณะที่รัฐบาลฮ่องกงผลักดันโครงสร้างพื้นฐานของเมืองอัจฉริยะสำหรับ 5G ที่จะมาเร่งให้เกิดการพัฒนาด้วยความเร็วในการใช้งานที่สูง, ช่วยให้แต่ละอุปกรณ์สามารถสื่อสารกันได้ ส่งผลให้ IoT เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะด้วยการติดตั้งระบบในยานพาหนะ เพื่อให้ผู้ขับขี่รับทราบข้อมูลการจราจรแบบทันที รวมถึงยานพาหนะไร้คนขับที่ถูกพัฒนาด้วย 5G

Previous articleWienerberger Brick Award เวทีประกวดรางวัลสถาปัตย์ที่ขับเคี่ยวความเจ๋งเรื่อง “อิฐ”
Next articleAsian Lighting Forum 2019 จับตานวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ