ชลบุรี เป็นจังหวัดที่มีขนาดของตลาดอสังหาริมทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ นอกจากพัทยา บางแสน และท่าเรือแหลมฉบังแล้ว อีกพื้นที่ที่การพัฒนาทางด้านอสังหาริมทรัพย์มีความคึกคักเป็นอย่างมาก คือ “ศรีราชา” เป็นพื้นที่ที่นักพัฒนาทั้งจากส่วนกลางและท้องถิ่น เดินหน้าผุดโปรเจคใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
บริษัท วี. เอ็ม. พี .ซี. จำกัด เป็นผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2546 โดย คุณปริญญา เธียรวร เพื่อดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ประเภทพัฒนาและบริหารหมู่บ้านจัดสรร โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ และอพาร์ทเมนต์ ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้เบนเข็มการลงทุนเข้าสู่เมืองศรีราชา
แต่ก่อนจะไปดูรายละเอียดโปรเจคใหม่ของ VMPC เรามาทำความรู้จักผู้ประกอบการรายนี้กันก่อน บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. เกิดจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหารอย่าง คุณปริญญา ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานในสถาบันทางการเงินมาเป็นเวลากว่า 5 ปี ได้เล็งเห็นโอกาสจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจยุคฟองสบู่ปีพ.ศ. 2540 ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นยังเป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตได้ หากมีการวางแผนทางการเงินและการบริหารจัดการที่ดี
ในขณะนั้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งขาดการวางแผน และการบริหารจัดการที่ดี จึงทำให้ธุรกิจต้องปิดตัวลงและเกิดเป็นหนี้เสียเมื่อต้องเผชิญกับวิกฤตทางเศรษฐกิจ แต่คุณปริญญามองว่าหากซื้อสินทรัพย์เหล่านี้กลับมาพัฒนาปรับปรุงทั้งด้านการบริหารจัดการ และการวางแผนระบบการเงินที่รัดกุม จะสามารถเริ่มต้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ในต้นทุนที่ต่ำ และเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว
ธุรกิจหลักของ VMPC เริ่มจากการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่า ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2546 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้วที่ได้มีการเรียนรู้และสะสมประสบการณ์ด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ด้วยประสบการณ์อันยาวนาน และวิสัยทัศน์ที่มุ่งหวัง จะพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการตัดสินใจต่อยอดธุรกิจ
จึงได้มีการเพิ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้านการ พัฒนาโครงการแบบจัดสรรควบคู่ไปกับการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบให้เช่า ภายใต้หลักปรัชญาในการทำงานของ VMPC ที่ว่า “First Choice of all” ซึ่งถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของการคัดสรรตั้งแต่ทำเลที่ตั้ง วัสดุอุปกรณ์ตลอดจนการรักษาระดับการบริการให้อยู่ในระดับมาตรฐานความพึงพอใจสูงสุดของผู้อยู่อาศัย
ปัจจุบันบริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. มีการดำเนินโครงการที่หลากหลาย ได้แก่ สาทร แกลลอรี่ เรสซิเดนซ์, แอสเทร่า สาทร โฮเทล, บ้านสวนราม, หอพักภูหลวงแมนชั่น หน้ามหาวิทยาลัยหอการค้า, แอสเทร่า เรสซิเดนซ์พระราม 2-พุทธบูชา และล่าสุดกับโปรเจคแรกที่อยู่นอกพื้นที่กรุงเทพฯ กับโครงการอาทาระ โฮเทล ศรีราชา ที่มีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 7,000 ล้านบาท
โครงการอาทาระ โฮเทล ศรีราชา (ATARA HOTEL SRIRACHA) เป็นโรงแรมหรู สูง 44 ชั้น บนเนื้อที่ 12 ไร่ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ใจกลางเมืองศรีราชา ซึ่งถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Modern Oriental Style ที่ผสานแนวคิดการตกแต่งในแบบวิถีโลกตะวันออกและความทันสมัยแบบวิถีชีวิตของคนยุคใหม่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
คุณปริญญา ได้อธิบายถึงสาเหตุที่เลือกลงทุนในศรีราชาว่า “ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการลงทุนเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เท่านั้น จนวันหนึ่งมีความคิดที่จะขยายการลงทุนออกสู่ภูมิภาค ก็ศึกษาข้อมูลว่าควรจะลงทุนในพื้นที่ไหนดี ก็พบว่าภาคตะวันออกของประเทศเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมาก เพราะเป็นแหล่งอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกด้วย ทำให้มีการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวนมาก ทั้งด้านที่พักอาศัย โรงแรม คอนโดมิเนียม และศูนย์การค้า เมื่อเลือกสถานที่สำหรับการลงทุนอย่างศรีราชา ซึ่งมีศักยภาพและอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ มากนัก ก็เริ่มหาซื้อที่ดินเพื่อที่จะทำโครงการเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ได้ที่ดินขนาด 12 ไร่ ใกล้กับโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา ซึ่งเป็นทำเลที่ดีมีศักยภาพ และได้แบ่งการพัฒนาโครงการออกเป็น 4 เฟส โดยในเฟสแรกจะมีมูลค่าการลงทุน 7,000 ล้านบาท ประกอบด้วยส่วนของ อาทาระ โฮเทล ศรีราชา และ อาทาระ คอมมูนิตี้มอลล์”
สำหรับรายละเอียดของโครงการ “อาทาะ โฮเทล ศรีราชา” เป็นโรงแรมขนาด 460 ห้อง เป็นอาคารทรงโมเดิร์น สูง 44 ชั้น เริ่มงานก่อสร้างได้ประมาณ 1 ปีแล้ว ดำเนินการก่อสร้างโดย บริษัท ไทโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) การก่อสร้างใช้รูปแบบผสมผสาน บางส่วนเป็นระบบพรีคาสท์ผสมด้วยงานการก่อฉาบในบางส่วน ส่วนพื้นเป็นระบบโพสต์เทนชั่น ขณะนี้งานก่อสร้างดำเนินการอยู่ในชั้นที่ 10 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการเพื่อรองรับชาวไทยและชาวต่างชาติได้ในปีพ.ศ. 2562
ส่วน “อาทาระ มอลล์” เป็นโครงการก่อสร้างคอมมูนิตี้มอลล์แนวราบ ในรูปแบบโมเดิร์น ความสูงรวม 4 ชั้น เป็นอาคารจอดรถใต้ดิน 1 ชั้น และอาคารศูนย์การค้าระดับเหนือพื้นดินอีก 3 ชั้น รวมพื้นที่ใช้สอย 6,600 ตารางเมตร มีที่จอดรถในอาคาร 50 คัน และที่จอดรถกลางแจ้งอีก 80 คัน รวมพื้นที่ในส่วนของคอมมูนิตี้มอลล์ประมาณ 140 คัน ในส่วนของคอมมูนิตี้มอลล์ มีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการภายในสิ้นปีพ.ศ. 2559 นี้
อย่างที่บอกไว้แต่แรกว่า โปรเจคนี้แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 4 เฟส เฟสแรกเป็นคอมมูนิตี้มอลล์และโรงแรม ทางโครงการยังเหลือพื้นที่สำหรับการพัฒนาในอนาคตข้างหน้าเมื่อตลาดโตขึ้น โดยพื้นที่ทั้ง 12 ไร่ ของโครงการสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้ 180,000 ตารางเมตร หากสามารถพัฒนาโครงการเต็มทั้ง 4 เฟสแล้ว จะมีจำนวนห้องพักทั้งสิ้น 1,400 ห้อง หรือคิดเป็นพื้นที่ประมาณ 50,000 ตารางเมตร จึงนับได้ว่าเป็นอีกโปรเจคที่มีความน่าสนใจทั้งในแง่ทำเลที่ตั้งและขนาดโครงการ
นิตยสาร Builder Vol.33 JULY 2016