เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีงานแสดงเทคโนโลยีก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน ‘งานสถาปนิก’59’ ซึ่งได้รวบรวมผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมการออกแบบและก่อสร้างจากทั่วโลกมาให้ชมกัน จากอดีตเราเริ่มเรียนรู้วัสดุก่อสร้างพื้นฐาน อย่าง อิฐ ดิน ทราย จนกระทั่งมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกิดเป็นวัสดุก่อสร้างใหม่ ๆ ขึ้นมา ตอบสนองการออกแบบและการก่อสร้างให้สะดวกและมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ดังนั้น BuilderNews ในเล่มนี้จึงไม่พลาดที่จะนำเสนอสินค้าที่น่าสนใจ มาแบ่งปันให้กับกลุ่มผู้อ่านของเราให้ได้ติดตามกัน
Healthy Wood
ผลิตภัณฑ์แรกที่จะแนะนำ ได้แก่ Healthy Wood วัสดุทดแทนไม้ที่ฆ่าเชื้อโรคได้ จาก BIOWOOD โดย บริษัท จีอาร์เอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าวัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากบริษัท พี ที กรีน รีซอร์เซส จำกัด (ประเทศอินโดนีเซีย) ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ ภายใต้ตราสินค้า BIOWOOD ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบตกแต่งภายในหรืองานตกแต่งสถาปัตยกรรมภายนอก อาทิเช่น พื้น ฝ้า เพดาน ผนังอาคาร ระแนง กันสาด บันได ราวกันตก รั้ว และเฟอร์นิเจอร์
“ไบโอวู้ด” เป็นผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ยุคใหม่ ที่นำนวัตกรรมเครื่องจักร และการผลิตสมัยใหม่มาใช้ในการผลิต โดยมีส่วนประกอบของไม้จากป่าปลูกและพีวีซี จึงทำให้ผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ไบโอวู้ดมีคุณสมบัติที่โดดเด่นและเหนือกว่าไม้จริง แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ รูปทรง สี และความเป็นไม้ธรรมชาติไว้ได้ ด้วยเฉดสีและลวดลายเนื้อไม้ที่หลากหลาย
ผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้ไบโอวู้ด มีความทนทานต่อแมลง ปลวก มอด รา ทนทานต่อทุกสภาวะอากาศ ไม่ผุกร่อน ไม่บิดงอ ไม่บวม ไม่หดตัว ไม่เป็นสนิมและไม่เปลี่ยนรูป ไม่ลามไฟ ไม่มีสารเคมีที่เป็นพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ทำลายธรรมชาติมีน้ำหนักเบา ทำงานง่าย ติดตั้งได้เร็ว สามารถใช้กับเครื่องมือกับเครื่องมือช่างทุกชนิด สามารถตอกตะปู เลื่อย ไส ตัด ดัดโค้ง เจาะ กลึง ลบมุม และทาสีได้ตามต้องการ สามารถใช้งานได้ทั้งงานภายในและภายนอกอาคาร มีความคงทนกว่าไม้จริง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา มีคุณสมบัติในการดูดซับเสียงและเป็นฉนวนป้องกันความร้อน ทำให้อุณหภูมิของห้องเย็นสบายและประหยัดพลังงาน
และตลอดเวลาที่ผ่านมา BIOWOOD ไม่เคยหยุดนิ่งกับการพัฒนาวัสดุทดแทน ล่าสุดในงานสถาปนิก ’59 กับการเปิดตัว Healthy Wood นวัตกรรมใหม่ของคนรักษ์ไม้ ที่ต้องการมีสุขภาพที่ดี โดย Healthy Wood จะสามารถปล่อยประจุลบออกมา ซึ่งข้อดีของประจุลบคือ ในธรรมชาติประจุลบจะมีอยู่ตามน้ำตก หุบเขา และในป่า ผู้ที่ได้รับประจุลบ จะรู้สึก ผ่อนคลาย หายเครียด และนอนหลับสบาย นอกจากนี้ประจุลบยังช่วยในการปรับสมดุลให้กับร่างกาย ทำให้ระบบทางเดินหายใจ หลอดเลือด เส้นเลือด ระบบเผาผลาญอาหาร และระบบขับถ่ายดีขึ้น
หลักการทำงานของ Healthy Wood คือจะทำหน้าที่ปล่อยประจุลบออกมาและประจุลบเหล่านี้จะไปจับกับอนุภาคของประจุบวกที่ลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งก็คือมลพิษที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นผง แบคทีเรีย ไวรัส สารก่อภูมิแพ้ จากสัตว์เลี้ยง ควันบุหรี่ มลภาวะบนท้องถนน มลภาวะจากโรงงานอุตสาหกรรม และเชื้อรา เมื่อประจุลบที่ถูกปล่อยออกมาจาก Healthy Wood ไปจับกับอนุภาคของประจุบวก ก็จะทำให้อนุภาคนั้นมีน้ำหนักและตกลงสู่พื้น ทำให้ฝุ่นละอองไม่ลอยต่อไปในอากาศ จึงหยุดการแพร่กระจาย
นอกจากนี้ประจุลบที่ถูกปล่อยออกมาจาก Healthy Wood ยังช่วยลดอาการภูมิแพ้ และช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย สามารถลดอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ โดยจะช่วยดับกลิ่นคาว กลิ่นควันบุหรี่ หรือกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา และเชื้อโรคในอากาศและบริเวณพื้นผิวได้เช่นกัน จึงนับเป็นวัสดุทดแทนไม้ที่ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในงานตกแต่งเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้ใช้อีกด้วย
OPV เจนใหม่ของเซลล์แสงอาทิตย์
ในปัจจุบันพลังงานทดแทนกำลังเป็นกระแสที่น่าจับตามอง สินค้า OPV หรือ Organic Photo Voltaic เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายโครงการนิยมใช้งานกัน เพื่อตอบโจทย์การประหยัดพลังงานไฟฟ้าในอาคารและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
ทั้งนี้ บริษัท โซล่าร์ โอพีวี จำกัด หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า OPV ซึ่งตั้งขึ้นโดยการร่วมทุนระหว่างบริษัทของไทยและเยอรมัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตและจำหน่ายสินค้า OPV ในประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้รับเทคโนโลยีโดยตรงจากบริษัท บีเลคทริก โอพีวี ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ออกแบบ ผลิต และจำหน่ายสินค้า OPV ให้กับ German Pavilion ในงาน World Expo 2015 ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี และได้เป็นผู้ดำเนินการติดตั้ง OPV บริเวณช่องแสดงที่โถงกลางของ African Union ประเทศแอฟริกาใต้
OPV (Organic Photo Voltaic) เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Solar Cell ซึ่งผลิตจากสารอินทรีย์ เป็นนวัตกรรมใหม่เจนเนอเรชั่นที่ 3 ของการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยโซล่าเซลล์ ในรูปแบบเดิมจะใช้ซิลิกอน (Si) หรือสารโลหะหนักอื่น ๆ เช่น แคดเมียมเทลลูไลท์ (CdTe) หรือคอปเปอร์อินเดียมแกลเลียมเซเลไนด์ (CIGS) เป็นวัตถุดิบ ในขณะที่ OPV ผลิตจากสารละลายของเหลวประเภทโพลิเมอร์และสารโมเลกุลขนาดเล็กจำพวกเม็ดสีอินทรีย์ และด้วยวิธีการผลิตด้วยกระบวนการพิมพ์แบบม้วนต่อม้วนทำให้ OPV มีคุณสมบัติกึ่งโปร่งแสง น้ำหนักเบา สามารถออกแบบได้หลากหลาย และสามารถใช้ประยุกต์กับการใช้ในบ้านหรืออาคารสูงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งจากกระบวนการผลิต วัตถุดิบ และการกำจัด ที่ไม่มีการใช้งานโลหะหนักเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ OPV เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิด Carbon Footprint น้อยมาก จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จุดเด่นที่สำคัญของ OPV คือ สามารถทำงานได้แม้ในสภาวะแสงน้อย และสามารถติดตั้งในมุมองศาที่หลากหลายกว่า PV ทั่วไป ซึ่งจะต้องติดตั้งบนหลังคาหรือบนพื้นที่โล่ง และต้องหันไปทางทิศใต้และเอียงทำมุม 30 องศา กับพื้น ในขณะที่ OPV สามารถทำงานได้แม้ในระนาบแนวดิ่ง สามารถทำให้มีความโปร่งแสงได้สูงสุดถึง 50% และมีสีให้เลือก 4 สี คือ สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน และสีเทา OPV จึงสามารถตอบสนองความต้องการด้านการออกแบบให้กับสถาปนิกได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบมาตรฐาน คือ รูปแบบ strip เพื่อติดตั้งบริเวณหลังคา ติดตั้งเป็นม่านบังแดดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด หรือรูปแบบเรขาคณิต เช่น แบบ 6 เหลี่ยม นอกจากนี้ OPV ยังมีน้ำหนักเบา เพียง 0.5 กิโลกรัมต่อตารางเมตรเท่านั้น ทำให้การติดตั้งง่าย ไม่ต้องปรับปรุงโครงสร้างเพื่อรับน้ำหนักเหมือน PV ทั่วไป
PISCINA นวัตกรรมเพื่องานสระว่ายน้ำ
อีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานกับสระว่ายน้ำ จาก บริษัท วิสต้า อินโน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตสารเคลือบพื้นผิวและเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง อาทิ งานเคลือบพื้นผิวและงานพื้นที่ต่าง ๆ ระบบงานกันซึม สารเคมีเคลือบปกป้อง สำหรับงานเฉพาะและงานเคลือบสีสนามกีฬา โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2551 โดยผู้บริหารซึ่งเป็นนักเคมีที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ซึ่งเล็งเห็นถึงความสำคัญของสารเคลือบพื้นผิวที่มีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมที่มีการเจริญเติบโตขึ้นตลอดเวลา
“วิสต้า อินโน” มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสารเคลือบพื้นผิวและเคมีภัณฑ์ก่อสร้างให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสมกับสภาพอากาศ รวมถึงการรักษามาตรฐานของผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพคงที่ บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง มีห้องปฏิบัติการเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุด และได้มาตรฐานคงที่อยู่เสมอ ในการผลิตสินค้าแต่ละครั้งจะมีการทดสอบเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานก่อนส่งถึงมือลูกค้า มีเครื่องจักรที่ทันสมัยและกำลังการผลิตสูง สามารถรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดสำหรับงานสถาปนิก ’59 บริษัท วิสต้า อินโน ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ PISCINA (พิสซิน่า) โพลิเมอร์ซีเมนต์ดัดแปลงชนิดพิเศษ สำหรับงานพื้นและผนังสระว่ายน้ำ ที่ประกอบด้วย โพลิเมอร์ซีเมนต์ Crystal Beads และสารเติมแต่งชนิดพิเศษ ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ออกแบบสำหรับระบบงานพื้นและผนังสระว่ายน้ำโดยเฉพาะ
PISCINA เป็นระบบไร้รอยต่อ สามารถติดตั้งตามความโค้งมนของสระ นอกจากนี้การผสมผสานกับ Crystal Beads ทำให้มีความสวยงาม สะท้อนแสงเปล่งประกาย และมีความทนทานต่อรังสี UV ไม่ซีดจาง มีความแข็งแรง ทนต่อสารเคมีและกรดด่าง บำรุงรักษาง่าย อายุการใช้งานยาวนาน มีความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ พื้นผิวเรียบ ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ติดตั้งง่ายโดยการฉาบหรือพ่น เหมาะสำหรับสระว่ายน้ำใหม่และการซ่อมแซม
ผลิตภัณฑ์ PISCINA เป็นการผสมเสร็จจากโรงงานผลิต จึงได้คุณภาพที่สม่ำเสมอ และมีหลากหลายเฉดสีให้เลือก อีกทั้งในการติดตั้งก็ไม่ยุ่งยาก เพียงเตรียมพื้นผิวภายในสระว่ายน้ำให้สะอาด ปราศจากคราบปูน น้ำมัน จารบี หรือสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ นอกจากนี้พื้นและผนังรอบสระที่จะทำการติดตั้งจะต้องเรียบ ถ้ามีโพรง หลุม รอยแตก รอยต่อ หรือตามด ต้องซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อน ถ้าเป็นคอนกรีตใหม่ควรมีอายุคอนกรีตอย่างน้อย 14 วัน จึงจะสามารถติดตั้ง Piscina ได้ ส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในสระว่ายน้ำ เช่น ท่อน้ำ ท่อระบาย สายไฟ รวมไปถึงกระเบื้อง ต้องติดตั้งให้เรียบร้อยก่อนติดตั้ง
DES Enclosed Blind Glass นวัตกรรมม่านปรับแสงกันร้อน
ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ การป้องกันแสงแดดและความร้อนเข้าสู่อาคารก็เป็นทางเลือกที่หลาย ๆ คนนิยม โดยการเลือกใช้อุปกรณ์บังแดดเข้ามาช่วยผ่อนแสงแดดจ้าและความร้อนจะเข้าสู่อาคารได้ ม่านบังแดดก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่หลาย ๆ คน นิยมเลือกใช้งาน เพราะสามารถช่วยบังแดดได้ดี และยังติดตั้งได้ง่ายอีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัท เอส ซี ที อินโนเวชั่น จำกัด ขอนำเสนอนวัตกรรมม่านปรับแสงกันร้อนแบบใหม่ที่จะมาตอบโจทย์ในการป้องกันแสงแดดและความร้อนเข้าสู่อาคารที่ดีกว่าเดิม ด้วยม่านปรับแสงแม่เหล็กไร้สายพร้อมกระจกฉนวน (DES Enclosed Blind Glass) ซึ่งเป็นนวัตกรรมการรวมม่านปรับแสงกับกระจกฉนวน (Insulated Glass) ให้เป็นหนึ่งเดียว โดยม่านปรับแสงจะแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างกระจกนิรภัย 2 แผ่น โดยมีกรอบอลูมิเนียมฝังสารดูดความชื้นรอบขอบระหว่างกระจกทั้งสองแผ่น และปิดทับรอบกระจกด้วย AB Glue ดังนั้นระหว่างกระจกจะมีอากาศแห้งเป็นฉนวนกันความร้อน และมีม่านปรับแสงเป็นตัวเปิด/ปิดการรับแสง ส่วนระบบการควบคุมการปรับม่านขึ้น/ลง เป็นระบบแม่เหล็กไร้สาย
คุณสมบัติเด่นของ DES Enclosed Blind Glass คือช่วยประหยัดพลังงาน ช่วยในการควบคุมอุณหภูมิ ช่วยลดระดับเสียงดังจากภายนอก ลมไม่สามารถผ่านเข้ามาในตัวกระจกได้ ช่วยป้องแสง UV จากภายนอก น้ำไม่สามารถผ่านเข้ามาในตัวกระจกได้ปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัว ง่ายต่อการใช้งาน สามารถปรับแสงขึ้นลงด้วยระบบแม่เหล็กไร้สาย ไม่ต้องบำรุงรักษา ทำความสะอาดได้ง่ายแค่เช็ดกระจกเฉพาะภายนอกและยังให้การรับประกันคุณภาพและการใช้งานยาวนานถึง 10 ปี
หากเปรียบเทียบ DES Enclosed Blind Glass กับกระจกทั่วไปแล้วชุดกระจก DES สามารถลดการแผ่รังสีความร้อนได้มากกว่า 40% ในขณะที่การใช้กระจกและม่านปรับแสง จะช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนได้เพียง 0-10% เท่านั้น ในแง่ของการป้องกันรังสี UV ชุดกระจก DES ช่วยป้องกันรังสี UV ได้มากกว่า 70% ในขณะที่กระจกทั่วไปและม่านปรับแสง ป้องกันรังสี UV ได้เพียง 5-10% นอกจากนี้ชุดกระจกของ DES ยังช่วยลดระดับเสียงได้มากกว่า 40% ในขณะที่กระจกทั่วไปและม่านปรับแสงช่วยลดเสียงได้เพียง 10-15%
ชุดกระจก DES Enclosed Blind Glass มีการผลิตขนาดมาตรฐาน 2 ขนาด ตามมาตรฐานที่ส่งไปขายในยุโรปและอเมริกาคือ ความกว้าง 560 มิลลิเมตร ยาว 915 มิลลิเมตร และขนาดความกว้าง 560 มิลลิเมตร ยาว 1,630 มิลลิเมตร โดยใช้กระจกนิรภัยหนา 3.2 มิลลิเมตร ที่สามารถรับแรงลมได้ถึง 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงสามารถนำไปติดตั้งบนอาคารสูงได้ด้วยความสูงสุดถึงชั้น 44 พร้อมกันนี้ยังสามารถผลิตตามความต้องการของลูกค้าที่ขนาดความกว้างสูงสุด 1,360 มิลลิเมตร ความยาวสูงสุด 2,438 มิลลิเมตร โดยมาตรฐานโรงงานจะใช้กระจกนิรภัยหนาตั้งแต่ 4-6 มิลลิเมตร ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของชุดกระจก
สำหรับขนาดความหนาของชุดกระจก DES มีให้เลือกใช้งาน 2 ขนาด คือ ขนาดมาตรฐาน และขนาดสั่งทำ โดยขนาดมาตรฐานจะใช้กระจกที่มีความหนา 3.2 มิลลิเมตร ในทั้งสองด้าน ส่วนตัวม่านปรับแสงจะมีความหนา 19.05 มิลลิเมตร เมื่อประกอบเป็นชุดกระจก DES แล้วจะมีความหนารวมกัน 25.7 มิลลิเมตร ส่วนขนาดสั่งทำจะใช้กระจกที่ความหนา 4.0 มิลลิเมตร ในการผลิต ส่วนม่านปรับแสงจะมีความหนาเท่ากันที่ 19.05 มิลลิเมตร เมื่อประกอบเสร็จแล้วจะมีความหนาของชุดกระจก DES แบบสั่งทำรวมกันที่ 27.3 มิลลิเมตร
นอกจากนี้ชุดกระจก DES Enclosed Blind Glass ยังผ่านการทดสอบ Design Pressure (DP) Testing โดยการทดสอบปรับม่านขึ้น/ลง มากถึง 20,000 ครั้ง ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ในอายุการใช้งานที่ยาวนานนับ 10 ปี
JOLYPATE วัสดุฉาบผนังที่ไม่ปิดกั้นจินตนาการ
ในปัจจุบันมีวัสดุสำหรับการตกแต่งผนังอาคารเพื่อความสวยงามให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ ซึ่งก็สามารถตอบโจทย์ตามความต้องการของผู้ออกแบบและเจ้าของอาคารได้อย่างดี ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายทั้งหลายต่างก็นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มานำเสนอแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวัสดุสำหรับการตกแต่งภายในที่นิยมวัสดุใหม่ ๆ แปลกตามาสร้างสรรค์บรรยากาศให้พื้นที่ในอาคารเหล่านั้น
ทั้งนี้ บริษัท แอลเอสเอ็กซ์ จำกัด ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ให้บริการด้านวัสดุตกแต่งภายใน โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2547 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง โดยผู้บริหารและทีมงานที่มีประสบการณ์ในการให้บริการด้านวัสดุตกแต่งภายใน
LSX มุ่งมั่นที่จะนำเสนอและคิดค้นนวัตกรรมเกี่ยวกับวัสดุตกแต่งภายในเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังมีเป้าหมายเพื่อสร้างความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า LSX มีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพของวัสดุสำหรับงานตกแต่งภายในของประเทศไทย ด้วยราคาที่เหมาะสมและการบริการที่ดีที่สุด โดยได้มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าสะดวกสบาย และรวดเร็วในการให้บริการ รวมถึงเป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาที่ดีในการเลือกวัสดุสำหรับงานตกแต่งภายใน จนเป็นที่ไว้วางใจขององค์กรชั้นนำหลายแห่ง
“แอลเอสเอ็กซ์” ได้นำวัสดุคุณภาพมานำเสนอ โดยให้ความใส่ใจทุกรายละเอียด เริ่มจากทีม Supply chain ที่เชื่อมต่อผู้ผลิตคุณภาพสูงจากทั่วโลก คัดเลือกวัสดุโดยผู้เชี่ยวชาญและเข้าใจเทรนด์ในการออกแบบ ทั้งทางฝั่งตะวันออกและตะวันตก มีการทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีทีมขายที่เอาใจใส่ในงานบริการและตั้งใจที่จะเสนอผลิตภัณฑ์พร้อมทางเลือกที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้า เพราะ LSX เชื่อว่าสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดจากความเอาใจใส่ในการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ โดยเลือกสรรเฉพาะวัสดุตกแต่งภายในคุณภาพดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการให้คำมั่นสัญญากับลูกค้าว่า เราจะมอบสิ่งที่พิเศษให้กับลูกค้าของเรา และเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
และล่าสุดกับการเปิดตัว JOLYPATE วัสดุฉาบผนังที่ไม่จำกัดจินตนาการอีกต่อไป ด้วยเฉดสีที่มีให้เลือกกว่า 100 เฉดสี ทั้งยังสามารถผสมกับวัสดุต่าง ๆ ได้ อาทิ หินลุ่มแม่น้ำ ผงศิลาแลง หรือวัสดุท้องถิ่นอื่น ๆ ที่จะสร้างเอกลักษณ์ได้ไม่จำกัด ด้วยนวัตกรรม NANO TECHNOLOGY ที่พัฒนาต่อเนื่องกว่าครึ่งศตวรรษจากประเทศญี่ปุ่น
JOLYPATE สามารถปกป้องพื้นผิวจากการยึดเกาะของคราบสกปรก และป้องกันการก่อเกิดเชื้อแบคทีเรีย ทั้งยังปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การันตีด้วยมาตรฐานระดับ F4STAR และนอกจากนี้ LSX ยังมีวัสดุปิดผิวนวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่นอีกมากมาย อาทิเช่น แผ่นลามิเนตโปร่งแสง แผ่นลามิเนตลดการเกิดรอยนิ้วมือ
3d board วัสดุแต่งผนังทะลุมิติ
อีกหนึ่งวัสดุสำหรับการตกแต่งผนังที่น่าสนใจ ที่อยากจะแนะนำเช่นกัน นั่นคือ 3d board วัสดุแต่งผนัง 3 มิติ จาก บริษัท เวิลด์ เอ็กเซลเลนท์ อินเตอร์เทรด จำกัด โดยบริษัทก่อตั้งเมื่อปีค.ศ. 2011 ดำเนินธุรกิจด้านนำเข้า-ส่งออกสินค้าประเภทวัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้าง รวมถึงสินค้าตกแต่งภายใน บริษัทเริ่มต้นจากการจำหน่ายสินค้าประเภทกล่องเครื่องมือช่าง ภายใต้เครื่องหมายการค้าจดทะเบียน STOREMAX ซึ่งมีสินค้าหลากหลายรูปแบบและขนาดต่าง ๆ เพื่อจำหน่ายในท้องตลาด โดยสินค้าได้เน้นวัสดุที่มีคุณภาพ ทนทานและการออกแบบที่ทันสมัย สวยงาม เพื่อตอบสนองการขยายตลาดด้าน DIY (Do It Yourself) ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจอุตสาหกรรมที่ต้องการเน้นการใช้กล่องเครื่องมือที่ดูดี ทันสมัย และเพื่อเสริมภาพลักษณ์ของตนให้ดียิ่งขึ้นไป
หลังจากนั้นไม่นาน บริษัทก็ได้เริ่มดำเนินธุรกิจนำเข้าจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์ Hardware จำพวก มือจับ บานพับ อุปกรณ์ล็อค และอื่น ๆ สำหรับประตูและหน้าต่างของวงกบและกรอบบาน PVC และ Aluminum ปัจจุบันบริษัทได้ลงนามในสัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้แก่บริษัทชั้นนำด้านการผลิต Hardware สำหรับ UPVC และ Aluminum ของโลกหลายรายด้วยกัน อาทิ FAB & FIX, TROJAN, SCHLEGEL, KINLONG เป็นต้น ทำให้บริษัทกลายเป็นบริษัทหนึ่งเดียวที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ Hardware ประตูและหน้าต่างระดับโลกที่มีสินค้าครบครันที่สุด
บริษัทได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการนำเสนอสินค้าที่มีความเป็น Innovation และเพื่อให้ใช้งานในด้านการตกแต่งภายในสำหรับบ้านพักอาศัยและอาคาร จึงได้ศึกษาสินค้าผนังภายใน 3 มิติ หรือที่เรียกว่า 3d board ที่มีความนิยมอย่างแพร่หลายในยุโรปและอเมริกา สินค้าจะมีลักษณะเป็น 3 มิติ โดยลักษณะลวดลายของแผ่นผนังจะนูนออกมามีมิติ คือมีความกว้าง ความยาว และความลึกของลวดลาย ทำให้เมื่อทำการติดตั้งบนผนังแล้วทำให้เกิดความสวยงามอย่างเห็นได้ชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับลักษณะที่เป็นแบบ 2 มิติ บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการสรรหาสินค้าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างและตกแต่งภายในที่มีคุณภาพ พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรฐานการบริการที่เป็นเลิศทั้งในปัจจุบันและในอนาคตต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง และสำหรับงานสถาปนิก ’59 ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ผนังตกแต่ง 3d board เป็นสินค้านวัตกรรมใหม่เพื่อการตกแต่งผนังอย่างมีมิติ ด้วยลวดลายกว่า 30 แบบ และเฉดสีกว่าหมื่นเฉดสี และยังสามารถกำหนดรูปแบบการจัดวางลายที่หลากหลาย
คุณสมบัติของผนัง 3d board สินค้ามีลักษณะ 3 มิติ ให้ความโดดเด่นเด่นกว่า 2 มิติ ทำจากวัสดุธรรมชาติ 100% จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถเลือกสีสันได้เอง (Customized Color) หมดปัญหาเรื่องความชื้นและเชื้อราของผนัง หมดปัญหาเรื่องการหลุดร่อนของผนัง และสามารถเก็บเสียงได้ดี สามารถเปลี่ยนสีใหม่ได้ตามต้องการ สามารถเช็ดทำความสะอาดได้หลังติดตั้งแล้วเสร็จสามารถซ่อมแซมได้ง่าย
3d board เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็น Eco Friendly โดยทำจากวัสดุธรรมชาติ Fiber Plant ซึ่งจะไม่ปล่อยมลพิษในขั้นตอนการผลิตสินค้า ปัจจุบันบริษัทได้จัดทำ Showroom สินค้าเพื่อไว้จัดแสดง ณ สำนักงานสาขากรุงเทพฯ และพร้อมให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการให้ข้อมูลแก่ตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าทั่วไปทั้งในส่วนของรายละเอียดของสินค้าและวิธีการติดตั้ง
iWOOD X นวัตกรรมไม้จริงรูปแบบใหม่
ด้วยแนวคิดที่ต้องการเชิญชวนให้คนไทยหันกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติมากขึ้น แต่ก็ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม บริษัท ลีโอวูด อินเตอร์เทรด จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายสินค้าพื้นไม้และประตูทุกชนิด ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในวงการมานานกว่า 40 ปี จึงได้พัฒนานวัตกรรมไม้รูปแบบใหม่ ซึ่งผลิตจากไม้ที่มีคุณภาพ พร้อมกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าที่สุด พร้อมพัฒนาคุณภาพสินค้าเคียงคู่ไปกับจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ในคุณภาพของสินค้าที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ ตลอดจนการใส่ใจในบริการที่เทียบเท่าระดับสากล การให้บริการติดตั้งงานไม้แบบมืออาชีพ และบริการหลังการขายที่ครบวงจร
และล่าสุดลีโอวูด ได้ออกผลิตภัณฑ์ iWOOD X ขึ้นมาสำหรับการใช้งานภายนอกอาคาร ซึ่งเป็นสุดยอดนวัตกรรมของไม้เอ็นจิเนียริ่งของไทยที่ปฏิวัติวงการไม้จริง สามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้ดี โดยเฉพาะการใช้งานพื้นที่ภายนอก เพราะมีความทนทานกว่าไม้จริงโดยทั่วไป ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่จาก ลีโอวูด โดย iWOOD X มีจุดเด่นที่แตกต่าง 2 ประการหลัก ได้แก่
1. การอัดวีเนียร์ด้วยเทคนิคเอ็นจิเนียร์ด้วยแผ่นไม้บางอัดประสาน หรือ LVL (Laminated Veneer Lumber) ซึ่งเป็นการอัดประสานไม้ตามแนวเสี้ยนไม้ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพให้ไม้จริงแข็งแกร่ง ทนทาน ลดการโก่งตัว การหดและการขยายตัวของไม้ธรรมชาติ ทำให้มีความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ด้วยโครงสร้างสินค้าคุณภาพสูง ไม่มีการแยกตัวหรือผุกร่อนของเนื้อไม้ (Delaminated & Decay) จึงมีการรับประกันคุณภาพสินค้านานถึง 10 ปี
2. ผ่านกระบวนการอบ-อัดน้ำยากันปลวกในระดับนาโน ตามมาตรฐาน NWFA ไร้สารพิษ ปลอดภัยจากปัญหาการกัดทำลายเนื้อไม้ของปลวกและแมลง โดยรับประกันการป้องกันปลวกและแมลงนานถึง 15 ปี
นอกจากนี้ iWOOD X ยังผลิตจากวัสดุไม้ยางพาราคุณภาพดีที่มีอายุ 10-15 ปี จากป่าปลูกเพื่อการอุตสาหกรรมจึงไม่ทำลายธรรมชาติ อีกทั้งสินค้ายังมีการทำสีสำเร็จที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการได้มากถึง 9 สี โดยแบ่งเป็นสีมาตรฐาน 4 สี และสีสั่งผลิตพิเศษ 5 สี
iWOOD X แบ่งออกตามการใช้งานได้ 3 ซีรี่ส์ ได้แก่ iWOOD X DECKING สำหรับลูกค้าที่ต้องการปูพื้นด้วยไม้จริงรอบบ้าน หรือทางเดินรอบสระว่ายน้ำ หรือเฉลียงรอบบ้าน เป็นต้น ไม้เอ็นจิเนียริ่งอัดประสาน LVL มีความหนา 20 มิลลิเมตร สามารถใช้งานกับพื้นภายนอกอาคารได้เป็นอย่างดี มีความทนทาน ช่วยยกระดับการใช้ชีวิต Outdoor Living ด้วยอัตลักษณ์ที่เรียบหรู โดดเด่นด้วยลายเสี้ยนไม้ธรรมชาติ ที่มาพร้อมระบบการติดตั้งรูปแบบใหม่ T-clip ช่วยให้สามารถปรับแต่งทางเดินได้ดั่งใจ
iWOOD X WALL ไม้ฝาที่ผลิตด้วยไม้เอ็นจิเนียร์อัดประสาน LVL มีความหนา 10 มิลลิเมตร เสริมแรงให้ไม้ฝามีความแข็งแรงกว่าไม้จริงทั่วไป พร้อมช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น อีกทั้งยังเป็นฉนวนกันความร้อนตามธรรมชาติได้ด้วย
และสุดท้าย iWOOD X LUMBER ไม้แปรรูป สำหรับนักออกแบบ สถาปนิก หรือผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ที่ต้องการไม้เอ็นจิเนียร์อัดประสาน LVL ไปใช้ในงานออกแบบในรูปแบบต่างๆ เพื่อใช้งานสำหรับพื้นที่ภายนอกอาคารอย่างแท้จริง โดยสามารถเลือกขนาดของชิ้นไม้ได้ตามขนาดมาตรฐาน ซึ่งมีให้เลือกหลายขนาดตามความเหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอย และยังมีสีสันให้เลือกกว่า 9 สีอีกด้วย
นอกจากนี้ ลีโอวูด ยังเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายประตูไม้ บันได ไม้พื้นเอ็นจิเนียร์ ไม้พื้นลามิเนต และงาน DIY ซึ่งเปิดตัวใหม่เช่นกัน เป็นกลุ่มงานตกแต่งที่สามารถทำเองได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องพึ่งช่างไม้มืออาชีพ และยังมีกลุ่มอุปกรณ์ตกแต่งที่เป็นงานสร้างสรรค์ไอเดียจากไม้โอ้กอีกด้วย