ฺBuilderNews จะขอพาท่านผู้อ่านไปชมคอนโดมิเนียมหรู ที่ตั้งอยู่บนโลเกชั่นที่ดีที่สุดบนถนนสาทร ในโครงการ THE BANGKOK SATHORN ที่มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบก่อสร้าง จนสามารถคว้ารางวัล Residential High-rise Architecture Thailand จาก Asia Pacific Property Awards 2014-2015
THE BANGKOK SATHORN เป็นคอนโดมิเนียมเกรด Ultimate Class ตึกแรกของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ดีเวลอปเปอร์รายใหญ่ของไทย ที่ได้เลือกทำเลที่ดีที่สุดบนถนนสาทรฝั่งใต้ บนที่ดินขนาด 4 ไร่ 3 งาน 79 ตารางวา ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์และจุดขึ้นลงทางด่วน เป็นที่ตั้งของโครงการที่มีมูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท ที่จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่บนถนนสาทร
‘เดอะ แบงค็อค สาทร’ จัดเป็นคอนโดมิเนียม High-rise ระดับคุณภาพที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดในทุกยูนิต และยังเป็นการอยู่อาศัยที่สะดวกสบายบนพื้นฐานของการใช้สอยจริง โดยได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ภายใต้แนวความคิด ‘The Best on Sathorn’ ที่เน้นความสงบและเป็นส่วนตัว แม้จะเป็นการพักอาศัยอยู่ใจกลางเมืองก็ตาม มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ ด้วยความสูงของอาคาร 50 ชั้น ที่ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อยู่ ห่างออกไปประมาณ 600 เมตร และให้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วยระบบลิฟท์ส่วนตัวที่ให้ความสะดวกถึงห้องพัก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสะดวกครบครัน อาทิ ห้องฟิตเนส ห้องโยคะ ห้องสตีมและซาวน่า สระว่ายน้ำ และพื้นที่สวนพักผ่อนขนาดใหญ่
ภายในโครงการมีทั้งหมดจำนวน 468 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยให้เลือก 3 แบบ คือ ห้องแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ขนาด 59 – 67 ตารางเมตร, ห้องแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ขนาด 106 – 152 ตารางเมตร และห้องแบบดูเพล็กซ์ ขนาด 98 – 117 ตารางเมตร
ส่วนรายละเอียดในการออกแบบก่อสร้างตัวอาคารนั้น เปลือกอาคารเป็นกระจกตามสมัยนิยม หากมองจากด้านหน้า ทางเข้าโครงการจะหันไปทางทิศเหนือ โดยรูปลักษณ์และเส้นสายของตัวอาคารจากด้านหน้าจะบางและลึกไปตามรูปที่ดิน แต่หากมองดูจากด้านข้างจะเห็นเป็นอาคารทรงกว้าง สูงตรงขึ้นไปจนถึงชั้น 32 ก่อนที่จะค่อย ๆ ลดหลั่นระดับความกว้างลงจากด้านหน้าและด้านหลังของอาคารดูเหมือนเป็นยอดแหลมที่ชั้นบนสุดของอาคารที่ชั้น 50
แม้ว่าโปรเจคนี้จะออกแบบมาเพื่อการอยู่อาศัยเป็นหลัก แต่ก็ได้มีการจัดแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งทางด้านหน้าของอาคารเป็นพื้นที่ใช้สอยในเชิงพาณิชย์ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัย โดยหากมองจากทางด้านหน้าของโครงการ จะแบ่งทางเข้าออกเป็นสองทางเข้า ด้านซ้ายจะเป็นทางเข้าสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการในส่วนของ Retails Shop ส่วนทางด้านขวาจะเป็นทางเข้าที่จอดรถสำหรับผู้พักอาศัย
ในส่วนของพื้นที่ Retail Shop ที่บริเวณชั้น G จะมีพื้นที่ประมาณ 600 ตารางเมตร ในส่วนนี้ทางแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จะเป็นผู้บริหารเอง โดยได้จัดเตรียมร้านค้าต่าง ๆ ไว้คอยบริการ อาทิเช่น Super Market, Coffee Shop และ Laundry สำหรับผู้ที่มาใช้บริการในส่วนนี้ การจอดรถจะถูกแยกออกจากทางเข้าของผู้พักอาศัยในส่วนคอนโดมิเนียม โดยได้จัดเตรียมที่จอดรถใต้ดินไว้หนึ่งชั้นเต็ม ๆ ซึ่งจะใช้ร่วมกับที่จอดรถของ Visitor
ส่วนทางเข้าของผู้พักอาศัย ถูกแยกไว้ทางด้านขวาของอาคาร โดยพื้นที่ส่วนหน้าของชั้นล่าง จัดเป็น Lobby ส่วนพื้นที่ที่เหลือจัดเป็นส่วนกลางเต็มฟลอร์ โดยไม่มียูนิตพักอาศัยอยู่เลย อย่างที่บอกไว้แต่แรก โครงการนี้เน้นการอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัว ดังนั้นการเข้าออกห้องพักจึงต้องอาศัยลิฟต์โดยสารจำนวนมาก ในการออกแบบก่อสร้างจึงได้กำหนด Core Lift ไว้มากเป็นพิเศษ โดยมีลิฟต์มากถึง 15 ชุด กระจายกันอยู่ทั้งหมด 5 Core ในแต่ละจุดจะมี Private Lift
จุดละ 2 ชุด สามารถรองรับโหลดของห้องเฉลี่ยได้ 46 ยูนิต และยังมี Service Lift แยกออกมาอีก Core ละ 1 ชุด
ทางด้านหลังสุดของอาคารหลักเป็นอาคารจอดรถความสูง 5 ชั้น ที่สร้างเชื่อมต่อไว้กับตัวอาคารหลัก โดยพื้นที่จอดรถจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ถึงชั้น 5 สามารถจอดรถแบบไม่ Fix ได้ประมาณ 120% ส่วนด้านบนสุดของอาคารจอดรถ จัดสร้างเป็นสวนขนาดใหญ่ สามารถปลูกต้นไม้ใหญ่ที่มีความสูง 5-6 เมตรได้ ในส่วนนี้มีทางเดินต่อเนื่องเพื่อเชื่อมเข้ากับตัวอาคารหลักที่ชั้น 6 ซึ่งทั้งชั้นนี้จัดสร้างเป็นพื้นที่ส่วนกลาง มีห้องฟิตเนส ห้องโยคะ ห้องสตีมและซาวน่า พื้นที่นั่งเล่นก็อยู่บนชั้นนี้ด้วย ซึ่งบริเวณชั้น 6 ส่วนกกลางต่าง ๆ จะสร้างอยู่บนน้ำ ให้บรรยากาศเหมือนมีน้ำล้อมรอบเกือบทุกส่วนของพื้นที่
บริเวณพื้นที่ส่วนกลางอีกส่วนหนึ่งของอาคารนี้ จะตั้งอยู่บนชั้น 32 และ 32A ซึ่งในการออกแบบก่อสร้างจะเป็นการยกเพดานสูงขึ้นไป 2-3 ชั้น ไล่ความสูงไต่ระดับขึ้นไป ไฮไลท์ของชั้นนี้อยู่ที่สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 2 สระ ทางด้านหัวและท้ายของ อาคาร สระแรกเป็นแบบ Sky Boutique Pool ที่เปิดรับวิวรอบด้านด้วยสระแบบไร้ขอบ ซึ่งจะมองเห็นโค้งน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนอีกจุดคือ Sky Family Pool ที่ตั้งอยู่ทางด้านหลังของอาคาร
ในส่วนของความคืบหน้าในการก่อสร้าง โปรเจคนี้ดำเนินการโดย บริษัท ซินเทค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ที่มีความช่ำชองในงานสร้างอาคารสูงประเภทคอนโดมิเนียมพักอาศัย ที่มีผลงานออกมาให้เห็นมาแล้วในหลาย ๆ โปรเจค สำหรับโครงการนี้ทางซินเทคฯ เริ่มงานก่อสร้างในส่วนของฐานราก ที่เริ่มเตรียมการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2557 ถัดมาอีก 2 เดือน ก็เริ่มลงมือขุดดินทำงานฐานรากในเดือนพฤษภาคม และเริ่มเทคอนกรีตงานฐานรากในเดือนกรกฎาคม ต่อมาในเดือนกันยายน ได้เริ่มงานเทเสาอาคาร ทำพื้นโพสต์เทนชั่น หลังจากผ่านไป 1 ปีเต็ม งานก่อสร้างก็มาถึงชั้นที่ 32 ซึ่งเป็นชั้นพื้นที่ส่วนกลางที่มีงานสร้างสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึง 2 สระ งานก่อสร้างดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเทพื้นจบงานโครงสร้างที่ชั้น 50 ได้ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559
สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 72% และอยู่ระหว่างการตกแต่งผนังกระจกด้านหน้าอาคาร พร้อมกับการทำงานตกแต่งภายในส่วนต่าง ๆ ซึ่งตามแผนงานแล้วโปรเจคนี้กำหนดการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนปีนี้ ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไปว่าเมื่อการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว อาคารสูงหลังนี้จะมีความโดดเด่นพอที่จะเป็นแลนด์มาร์กใหม่บนถนนสาทรได้หรือไม่
นิตยสาร Builder Vol.35 SEPTEMBER 2016