เมลาโทน (Melatone) ก่อตั้งขึ้นในประเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 1978 และในเวลาเพียงแค่ 40 ปี แบรนด์วัสดุลามิเนต HPL (High Pressure Laminate) แบรนด์นี้ ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านการผลิตวัสดุลามิเนตของเกาหลีใต้ และขยายขีดความสามารถในการผลิตลามิเนตได้มากถึง 29,000 แผ่นต่อวัน ซึ่งจำหน่ายไปแล้วกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และในปี 2013 เมลาโทนได้เริ่มทำการตลาดในประเทศไทย และปัจจุบันดำเนินการภายใต้ชื่อ บริษัท เมลาโทน จำกัด
ลามิเนตเป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักของเหล่าอินทีเรียดีไซน์เนอร์ ด้วยเหตุผลด้านคุณสมบัติที่สามารถผลิตได้หลากหลายพื้นผิวสัมผัส เช่น ลายหิน คอนกรีต ไปจนถึงลายผ้า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเมลาโทนได้มีการคิดค้นและนำวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีมาผสมผสาน และลงลึกไปการพัฒนาวัสดุลามิเนตในรูปแบบอื่น ๆ เช่น Anti-Bacteria Laminate ซึ่งถูกผลิตขึ้นเพื่อลดอัตราการเกาะตัวของจุลินทรีย์ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 22196 ว่าสามารถขจัดแบคทีเรียที่เกาะอยู่บนพื้นผิวได้ถึง 99.99% ภายใน 24 ชั่วโมง จึงเป็นทิศทางของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการมาถึงของโควิด-19 ได้กระตุ้นให้คนทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับความสะอาดกันมากขึ้นชั่วข้ามคืน
การให้ความสำคัญกับความสะอาดของวัสดุระหว่างการใช้งาน ยังเห็นได้จากลามิเนตรุ่น Clean Touch ที่มีการนำเทคโนโลยี Electro-Beam Technology จากประเทศเยอรมนีมาใช้ในการผลิต ซึ่งทำให้ Clean Touch มีผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่ม เรียบเนียน มีอัตราการสะท้อนแสงค่อนข้างต่ำ แต่แข็งแกร่งทนทานต่อรอยขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย ไม่ทิ้งคราบรอยนิ้วมือเมื่อสัมผัสด้วยมือเปล่า
Clean Touch สามารถนำไปใช้กับงานออกแบบภายในได้หลายประเภท ตั้งแต่ที่อยู่อาศัย ในห้องครัว หรือห้องน้ำที่มีความชื้น ไปจนถึงโปรเจกต์สาธารณะ เช่น ร้านอาหาร โรงเรียนอนุบาลที่ผนังและพื้นผิวอาคารต้องการความสะอาดมากพอสำหรับการใช้งานของเด็ก ๆ ไปจนถึงโรงพยาบาล นอกจากนั้น Clean Touch ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานออกแบบพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ได้อีกด้วย
ผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นจากเมลาโทน ผลิตด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และได้รับการรับรองมาตรฐานระดับ EN 438 European Standard ในปี 2020 ความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและสถานการณ์โลก ทำให้การพัฒนาวัสดุต้องคำนึงถึงประเด็นอื่น ๆ นอกเหนือจากเรื่องสุนทรีย์ศาสตร์ เมลาโทน ยังให้ความสำคัญอย่างมากต่อสุขอนามัยโดยตรงต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานในพื้นที่นั้น ๆ