ช่วงใกล้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบนี้ เราจะเริ่มเห็นบทความที่เกี่ยวกับการ Review ต่าง ๆ ที่ผ่านมาของปี เช่น ผลิตภัณฑ์แห่งปี 2019 ที่ผ่านมา หรือเทคโนโลยีสุดล้ำที่ปล่อยมา เช่นเดียวกับเว็บไซต์ Dezeen หนึ่งในเว็บไซต์งานสถาปัตยกรรมหลากหลายแขนง ทั้งสถาปัตยกรรมหลัก ออกแบบภายใน ภูมิทัศน์ต่าง ๆ ศิลปะ รวมถึงงานออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่ง Dezeen ได้มีการรวบรวมผลงานตลอดปีที่ผ่านมาให้ได้ชมกัน
วันนี้ BuilderNews จึงหยิบยกเอาหนึ่งในหัวข้อย่อยของ Review of 2019 มาฝากท่านผู้อ่าน โดยในบทความนี้จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของอังกฤษ ที่ Dezeen ได้เลือกเอาไว้ว่าเป็น 10 สุดยอดโปรเจกต์แห่งปี
The Weston visitor Centre, Yorkshire, by Feilden Fowles
เริ่มต้นที่แรก “The Weston Visitor Centre” ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและประตูทางเข้า Gallery Pavilion ของสวนประติมากรรมกลางแจ้ง Yorkshire อาคารแห่งนี้ถูกออกแบบมาให้ส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์น้อยที่สุด ภายในอาคารยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ แกลลอรี่ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย อาคารฝั่งที่หันหน้าออกไปทางถนนจะถูกปิดทับด้วยคอนกรีต แต่หากนักท่องเที่ยวเดินผ่านเข้าไปแล้ว อีกฝั่งของอาคารจะถูกทดแทนด้วยกระจกขนาดใหญ่ เพื่อรับทิวทัศน์อันสวยงามของสวนสาธารณะแห่งนี้
Tintagel Castle Bridge, Cornwall, by William Matthews Associates and Ney & Partners
“William Matthews Associates” สตูดิโอผู้ให้บริการด้านสถาปัตยกรรมได้ทำงานร่วมกับวิศวกร Ney & Partners ออกแบบสะพานที่มีความยาวถึง 60 เมตร เพื่อเชื่อมโยงซากปรักหักพังของปราสาท Tintagel ใน Cornwall ให้กลับมาสวยงามอีกครั้งหนึ่ง โดยสะพานดั้งเดิมนั้นสร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 16 และได้เสื่อมสภาพตามกาลเวลา โดยสะพานแห่งนี้มีความสูงอยู่ที่ 58 เมตร มีความกว้าง 2 เมตร แผ่นทางเดินบนสะพาน มีระยะห่าง 40 มิลลิเมตร ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลย
See more of Tintagel Castle Bridge ›
Goldsmith Street, Norwich, by Mikhail Riches
โครงการบ้านจัดสรรที่ออกแบบโดย Mikhail Riches โดยได้รับรางวัล RIBA Stirling ในฐานะโครงการบ้านเพื่อสังคม โครงการนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Norwich ประกอบด้วยทาวน์เฮาส์จำนวน 105 หลัง โดยความตั้งใจของ Mikhail Riches คือต้องการสร้างทางเลือกสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยแต่อยากมีบ้าน แถมยังมีการช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าในบ้านแต่ละหลัง โดยออกแบบบ้านให้มีทรงลาดต่ำและหันหน้าไปทางทิศใต้เพื่อรับพลังงานแสงอาทิตย์อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสวนย่อมขนาดเล็กแทรกตัวอยู่บริเวณโดยรอบโครงการเพื่อเพิ่มความสุขและเป็นพื้นที่ของการพบปะพูดคุยของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
See more of Goldsmith Street ›
Windermere Jetty museum, Lake District, by Carmody Groarke
พิพิธภัณฑ์ริมทะเลสาบ Windermere แห่งนี้ ได้รับการออกแบบจากสตูดิโอสุดล้ำอย่าง Carmody Groarke เป็นสถานที่เก็บรวบรวมเรือที่มีความสำคัญระดับสากล เช่น เรือยนต์ เรือไอน้ำ และเรือยอชต์ การออกแบบนั้นไม่ซับซ้อนอะไรมากมายนัก เพราะเริ่มแรกนั้น เป็นเพียงสถานที่เก็บของสะสมส่วนตัวเท่านั้น ต่อมาได้ถูกวิวัฒนาการกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กในปี 1977 จน Carmody Groarke ได้เข้ามาพัฒนาต่อ ทำเลของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ต้องบอกว่าสวยงามมาก ๆ เพราะนอกจากจะติดกับทะเลสาบแล้ว อาคารกลางของพิพิธภัณฑ์ยังเป็นท่าเรือหลังคาปิด ซึ่งได้รับการอนุญาตให้แสดงเรือในน้ำได้ด้วย แถมอาคารอื่น ๆ ก็ยังมี Gallery นิทรรศการที่ให้ความรู้สำหรับผู้ที่สนใจ รวมถึงร้านกาแฟ ซึ่งรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
See more of Windermere Jetty museum ›
House Lessans, Northern Ireland, by McGonigle McGrath
บ้านหลังนี้ได้รับการออกแบบโดยใช้วัสดุและวิธีการก่อสร้างที่ลดทั้งต้นทุน แรงงาน และเวลา จนได้รับการขนานนามว่าเป็น RIBA House of the Year 2019 “บ้านในฝัน” หลังนี้สร้างขึ้นด้วยงบประมาณที่จำกัด โดยสถาปนิกชื่อดังอย่าง McGonigle McGrath สร้างบ้านหลังนี้ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของคู่รักวัยใกล้เกษียณ ถ้าดูภายนอก บ้านหลังนี้มีลักษณะคล้ายกับโรงเพาะชำพืชพรรณไม้หรือโรงปลูกผักปลอดสารยังไงยังงั้น ใช้วิธีการก่อสร้างและวัสดุที่เรียบง่าย เช่น การใช้หน้าต่างแบบเปิดปิดได้ขนาดใหญ่แทนประตู การใช้บล็อคคอนกรีตราคาถูกแทนผนัง ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับบ้านหลังนี้อยู่ที่ £335,000 (ประมาณ 13 ล้านบาท) ตกตารางเมตรละ £1,425 (ประมาณ 55,000 บาท)
Mackintosh’s Hill House, Helensburgh, by Carmody Groarke
Carmody Groarke ได้ทำการสร้าง Hill House Box เป็นเกราะป้องกันชั่วคราวให้กับหนึ่งในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่อย่าง Charles Rennie Mackintosh ที่ก่อสร้างมานานกว่า 100 ปีเพื่อรอการบูรณะซ่อมแซม โจทย์ครั้งนี้ยากพอสมควร เพราะถ้าปกคลุมแบบไม่ดี ทิวทัศน์ที่สวยงามก็จะถูกบดบังไป Carmody Groarke จึงเลือกใช้นั่งร้านขนาดใหญ่แล้วห่อหุ้มด้วยตาข่ายเหล็ก ที่เมื่อมองจากระยะไกล เราก็ยังสามารถเห็นอาคารภายในในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งดูน่าค้นหาไม่น้อยเลยทีเดียว
See more of Mackintosh’s Hill House ›
Tottenham Hotspur Stadium, London, by Populous
สนามเหย้าแห่งใหม่ของ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก ที่มีความจุที่นั่ง 62,062 ที่นั่ง ออกแบบโดย Populous ที่ได้ให้นิยามสนามแห่งนี้ไว้ว่า “มันคือมาตรฐานใหม่ของการดีไซน์สนามกีฬา” เพราะนอกจากใช้เป็นสนามฟุตบอลแล้ว ยังเป็นสนามอเมริกันฟุตบอลที่ได้รับการรับรองจาก NFL ว่าเป็นสนามที่ตั้งอยู่นอกสหรัฐฯ แห่งแรกด้วย หลายคนคงสงสัยว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่หญ้าเทียมกับหญ้าแท้จะอยู่ด้วยกัน กลไกนั้นไม่ยากเลย เพราะหญ้าแท้จะอยู่ชั้นบนสุด หากต้องการใช้หญ้าเทียม ก็แค่กดปุ่มแยกพื้นที่ตรงกลางออก เผยให้เห็นหญ้าเทียมที่อยู่ข้างล่าง แถมยังมีที่นั่งโซน “Wall of Sound” ออกแบบที่นั่ง สัมพันธ์กับความดังของเสียงที่แฟนพันธุ์แท้เชียร์ พื้นที่ตรงนี้เวลาแฟนบอลส่งเสียงเชียร์จะดังกระหึ่มเป็นพิเศษ เพื่อปลุกใจและส่งแรงใจให้กับนักเตะ
See more of Tottenham Hotspur Stadium ›
Hoxton Press, London, by Karakusevic Carson and David Chipperfield
ตึกหกเหลี่ยมที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือ อาคารที่พักอาศัยที่ออกแบบโดย David Chipperfield และ Karakusevic Carson ตึกสีแดงมีความสูง 16 ชั้นและตึกสีเทามีความสูง 20 ชั้น โดยมีทั้งหมด 198 ห้อง อาคารนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงพื้นที่ Colville Estate ห้องพักทั้ง 198 ถูกขายเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้คนที่ต้องการบ้านใหม่ราคาไม่แพง อาคารทั้งสองหลังนี้ ออกแบบเป็นลักษณะหกเหลี่ยมเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยโครงการนี้ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ว่าเป็นแบบอย่างของย่านสถาปัตยกรรมใหม่ที่มีคุณภาพ
Maggie’s Cardiff, Cardiff, by Dow Jones Architects
ศูนย์รักษาโรคมะเร็งชั่วคราว Maggie ออกแบบโดยสตูดิโอชื่อดังอย่าง Dow Jones ที่หยิบไอเดียจากการนำเหล็กเก่า ๆ มาใช้เป็นเปลือกอาคารภายนอก ซึ่งสร้างความโดดเด่นไม่น้อยสำหรับสถานที่แห่งนี้ และด้วยการใช้วัสดุหมุนเวียนแบบนี้ จึงทำให้สถานที่แห่งนี้มีค่าใช้จ่ายเพียง 1 ใน 3 ของราคาที่สร้างแบบถาวร Dow Jones กล่าวว่า “เราออกแบบให้ที่แห่งนี้เหมือนกับ Maggie’s Centre ปกติ เพียงแต่ขนาดจะเล็กกว่า แต่สร้างได้เร็วกว่า และยังใช้งบประมาณที่ถูกลง”
ด้วยการสร้างที่ใช้เวลาเพียง 16 เดือนเท่านั้น แม้ภายนอกจะดูเก่าและเหมือนกับจะทรุดโทรมในเวลาอันใกล้ แต่หากลองเข้าไปด้านใน คุณจะพบกับความสวยงามของการออกแบบภายในที่ทำออกมาได้อย่างไรที่ติ การจัดวางทุกอย่างดูไม่เหมือนกับศูนย์รักษาโรคมะเร็งเลยด้วยซ้ำ เฟอร์นิเจอร์ ผิวสัมผัสต่าง ๆ ดูเหมือนร้านอาคารดี ๆ นี้เอง “อาคารแห่งนี้จะดึงเอาความเหนื่อยล้าของคุณ กองไว้ที่หน้าประตูทางเข้า และเมื่อคุณพักผ่อนตามมุมสงบภายในสวนของเรา คุณจะกลับออกไปด้วยความสดชื่นและผ่อนคลายมากขึ้น” Dow Jones กล่าวทิ้งท้าย
See more of Maggie’s Cardiff ›
Collective, Edinburgh, by Collective Architecture
หนึ่งในผลงานที่เจ๋งที่สุดของบทความนี้ คือ “Collective” ที่ออกแบบโดยสตูดิโอสัญชาติสกอตแลนด์ชื่อเดียวกับสถานที่ โดยการเปลี่ยนหอดูดาว City Observatory ที่ออกแบบโดย William Playfair ตั้งแต่ปี 1818 ให้กลายเป็นองค์กรศิลปะร่วมสมัยที่มีทั้ง Gallery ร้านอาหารชั้นเลิศกับบรรยากาศทิวเขาที่ลักษณะคล้ายวิหารกรีกอย่าง Calton Hill ถึงแม้จะใช้สถานที่เก่าแก่แต่ทุกการเปลี่ยนแปลง ก็ยังคงไว้ซึ่งความดั้งเดิมของเอกลักษณ์การออกแบบเมื่อ 200 กว่าปีก่อน ให้ดูทั้งเก่าและโมเดิร์นในเวลาเดียวกัน
และทั้งหมดนี้คือ Dezeen’s top 10 British architecture projects of 2019 ที่เราคัดสรรมาให้ผู้อ่านโดยเฉพาะ และในบทความหน้าเราจะหยิบเอา Top 10 สถาปัตยกรรมแขนงใด ก็รอติดตามกันได้เลย หวังว่าจะจุดประกายการเดินทางให้กับผู้ที่วางแผนท่องเที่ยวที่ประเทศอังกฤษไว้ไม่มากก็น้อย
อ้างอิงข้อมูลและภาพประกอบจาก
https://www.dezeen.com/2019/12/09/top-10-british-architecture-uk-2019/