ในปัจจุบันนี้ชิงช้าสวรรค์ได้เข้ามามีบทบาทในเชิงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงยังเป็นแลนด์มาร์คที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ส่งผลให้มีการทุ่มงบประมาณแข่งขันออกแบบก่อสร้างสร้างชิงช้าสวรรค์ให้มีขนาดและสวยงามที่สุดเพื่อเป็นตัวชี้วัดถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมและศักดิ์ศรีของความเป็นมหาอำนาจ ดังเช่นชิงช้าสวรรค์ High Roller ที่เป็นผลงานทางวิศวกรรมอันสะท้อนให้เห็นถึงความศิวิไลของเมืองลาสเวกัส และยังขึ้นแท่นครองแชมป์ชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงที่สุดในขณะนี้อีกด้วย
High Roller เป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์มีความสูงมากถึง 550 ฟุต หรือ167 เมตร ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดบนโลกในขณะนี้ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมหรู Caesars Palace ในนครลาสเวกัส รัฐเนวาด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ดำเนินการก่อสร้างโดยบริษัท Caesars Entertainment Corporation บนงบประมาณ 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 31 มีนาคม 2557
ด้านการออกแบบก่อสร้างรวมถึงระบบวิศวกรรมของชิงช้าสวรรค์ยักษ์แห่งนี้ ดูแลรับผิดชอบโดยบริษัท Arup Engineering ขั้นตอนก่อสร้างถูกบังคับภายใต้ข้อจำกัดหลายประการ เนื่องจากพื้นที่บริเวณขึ้นโครงสร้างค่อนข้างคับแคบและถูกขนาบข้างด้วยถนนและทางรถราง จึงต้องมีการปรับแบบแก้ไขตัวโครงสร้างให้สอดคล้องกับขนาดพื้นที่ด้วยการใช้เสาขนาดใหญ่ 4 เสา เป็นตัวยึดเชื่อมต่อกับวงล้อ ซึ่งฐานของเสาทั้ง 4 จะเอนเข้าหาชิดติดกัน พร้อมกับมีเสาตัวที่ 5 เป็นเสาค้ำยันที่วางพาดข้ามถนนมายังอีกฟาก ทำหน้าที่เสริมความมั่นคงให้กับตัวโครงสร้างแข็งแรงยิ่งขึ้นไปอีก ประกอบกับมีสายเคเบิลจำนวน 112 เส้น เชื่อมระหว่างเสาโครงสร้างกับตัววงล้อช่วยเพิ่มความแข็งแรงอีกทางหนึ่ง ส่งผลให้มีอายุการใช้งานยืนยาวถึง 50 ปี หรือเทียบเท่ารอบหมุน 650,000 รอบ เลยทีเดียว อีกทั้งยังใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพแข็งแกร่งทนทานต่อทุกสภาพอากาศ พร้อมกับมีการตรวจเช็คสภาพอุปกรณ์และโครงสร้างจากทีมวิศวกรผู้เชียวชาญอยู่ตลอดเวลา จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยแบบหมดห่วง
ตัวชิงช้าสวรรค์รองรับผู้ชมได้สูงสุด 1,120 คน พร้อมด้วยห้องโดยสารทรงกลมสวยงามดูกลมกลืนกับโครงสร้างจำนวน 28 ห้อง ตัววงล้อจะเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ ในอัตราความเร็ว 1 ฟุต ต่อ 1 วินาที และใช้เวลาประมาณ 30 นาทีต่อการหมุนจนครบรอบ บริเวณขอบวงล้อติดตั้งหลอดไฟ LED ส่องสว่างสามารถแสดงเฉดสีได้ มากถึง 2,000 สี อีกทั้งยังเปลี่ยนรูปแบบการแสดงสีสันโดยตลอด ซึ่งมีความสวยงามมากโดยเฉพาะในเวลากลางคืน ดึงดูดสายตาต่อผู้พบเห็นทั้งระยะใกล้และระยะไกล
https://www.youtube.com/watch?v=Gqvi2ShkC8g
ตัวห้องโดยสาร มีพื้นที่ทั้งหมด 225 ตารางฟุต หนักร่วม 20,000 กก. รองรับผู้โดยสารได้ห้องละ 40 คน ตัวห้องจะหมุนไปเองแบบอัตโนมัติตามระดับความสูง เพื่อรักษาระนาบให้ขนานกับพื้นดินไปตลอดขณะเวียนจนครบรอบ ภายในห้องมีขนาดพื้นที่กว้างรายล้อมด้วยกระจกโค้งบานใหญ่เพื่อให้ผู้โดยสารมองเห็นทัศนวิสัยโดยรอบได้ 360 องศา ติดตั้งจอมอนิเตอร์และลำโพงเครื่องเสียงเพื่อมอบประสบการณ์บันเทิงเต็มรูปแบบพร้อมดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์ของเมืองแห่งแสงสีลาสเวกัสตลอดระยะเวลา 30 นาที ส่วนค่าโดยสารนั้นตกอยู่ที่ 28 ดอลลาร์สหรัฐในเวลากลางวัน และ 47 ดอลลาร์สหรัฐในเวลากลางคืน
เรียกได้ว่า High Roller เป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของนครลาสเวกัสได้ชัดเจน อีกทั้งยังสร้างคุณประโยชน์ในเชิงท่องเที่ยวรวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ชิงช้าสวรรค์นี้ที่ลาสเวกัสนี้จะยังคงครองสถิติชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลกต่อไป ก่อนที่จะถูกทำลายโดย Dubai eye ซึ่งจะสร้างเสร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
By Tony Webster from San Francisco, California (Las Vegas High Roller) [CC BY 2.0 (http://creativecommons.org/licenses/by/2.0)], via Wikimedia Commons
By Nate Stiller (Own work) [CC BY-SA 3.0 (http://creativecommons.org/licenses/by-sa/3.0)], via Wikimedia Commons
By Nate Stiller (Own work) [CC BY-SA 3.0 (http://creativecommons.org/licenses/by-sa/3.0)], via Wikimedia Commons
