หากสังเกตดี ๆ ความน่าสนใจของการออกแบบที่อยู่อาศัย เราจะเห็นว่าส่วนมากไม่ได้ออกแบบมาให้มัลติฟังก์ชันขนาดนั้น ถ้าเป็นบ้านจะเน้นพื้นที่พักผ่อน ขณะที่ออฟฟิศหรือสถานที่ทำงานจะออกแบบมากระตุ้นให้เราใช้ความคิดสร้างสรรค์ และซัพพอร์ตด้านการนั่งทำงานตลอด 8 ชั่วโมงให้สบายที่สุด
นั่นก็ไม่แปลกที่ทำให้ “บ้าน” ของเราไม่ได้น่า “ทำงาน” เหมือนกันทุกหลัง แถมบางคนต้องยอมรับว่าการอยู่ใน
อพาร์ตเมนต์ คอนโด หรือสถานที่อาศัยขนาดเล็ก ไม่มีพื้นที่ให้เดิน เปลี่ยนอิริยาบถระหว่างทำงาน ทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่ในนั้น 24 ชั่วโมง และไม่ได้น่าทำงานอย่างที่คิด
“ถ้าทำงานที่บ้านสบายขึ้น คนก็จะทำงานได้ถี่ขึ้น” Simon Saint ประธานบริษัท Woods Bagot
Woods Bagot บริษัทด้านสถาปัตยกรรมจึงคิดวิธีออกแบบระบบที่สามารถประยุกต์ให้อพาร์ตเมนต์กลายเป็นพื้นที่ทำงาน พื้นที่เล่น และพื้นที่ครัวที่ทุกคนสามารถใช้เวลาอยู่บ้านได้มากขึ้นในสถานการณ์เผชิญ Corona Virus
ตัวช่วยของการปรับพื้นที่จำกัดคือ AD-APT ซีรีส์ผนังและหน้าจอที่สามารถปรับเปลี่ยนให้พื้นที่อพาร์ตเมนต์เดิมดูโล่งขึ้น สามารถแบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้น ให้เป็นได้ทั้งพื้นที่ออกกำลังกาย พื้นที่ความบันเทิง และไม่ลืมพื้นที่พักผ่อนจากเตียงหลังนุ่มสบายพร้อมทิ้งตัว
#1 DAY MODE FOR FAMILY
ตัววัสดุผนังนี้มีความพิเศษที่สามารถปรับรูปแบบทางกายภาพได้เมื่อติดตั้ง ถ้าเป็นช่วงกลางวัน (Day Mode) จะสามารถขยับให้แยกจากกันเพื่อสร้างพื้นที่ส่วนตัวให้กลายเป็นโหมด Home office มีโต๊ะและเก้าอี้นั่งบริเวณที่เคยเป็นห้องอาหาร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ช่วงกลางวันที่ต้องทำงานทำงานและเรียนรู้จากในบ้าน
จุดประสงค์ของการออกแบบแยกพื้นที่บ้านเช่นนี้ ออกแบบมาเพื่อคนที่อยู่กันเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูก ถ้าจินตนาการควบคู่กับการออกแบบ การออกแบบแยกสัดส่วนนี้มีไว้เพื่อให้พ่อแม่สามารถผลัดกันแยกไปดูแลลูกได้และทำงาน
#2 Double Desk Home
ถัดมาเป็นการจัดพื้นที่แบบ Double Desk Home ถ้าเทียบกับแบบแรกจะเห็นว่ากำแพงจะถูกขยับเข้ามาลดพื้นที่ช่วงกลางและเพิ่มพื้นที่ห้องทางฝั่งซ้ายเป็นสัดส่วนเท่า ๆ กัน สนับสนุนไลฟ์สไตล์แตกต่างกันที่แต่ละคนต้องการความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น
รูปแบบนี้ออกแบบมาให้คู่รักสาย Professional ที่ต้องการใช้พื้นที่กับการทำงานส่วนตัว จึงมีพื้นที่สงบที่ไม่ต้องมาแย่งกันใช้งานและสามารถสร้างสมาธิได้ดี นอกจากนั้น กำแพงที่เคยดันชิดกับห้องเก็บของก็ปรับขยายเป็นห้องนอนที่มีเตียงขนาดพอเหมาะสำหรับพักผ่อนในช่วงเย็นทำให้กลายเป็นพื้นที่สามห้องย่อย
แม้ผนังจะเป็นพระเอกหลักของการออกแบบครั้งนี้ แต่องค์ประกอบร่วมอย่างอื่นเองก็ต้องถูกเลือกมาให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน เช่น เฟอร์นิเจอร์น็อกติดผนังที่สามารถพับเก็บเพื่อประหยัดพื้นที่ได้ เป็นต้น
กรณีที่ใครต้องการเพิ่มกิจกรรมแก้เบื่ออีกนิด เขาก็แนะนำว่าควรมีระเบียงและปรับพื้นที่ระเบียงให้กลายเป็นพื้นที่ความสนุกกลางแจ้ง (เราลงไปข้างล่างไม่ได้แต่ก็ยังรับแสงแดดและบรรยากาศภายนอกได้จากจุดนี้) โดยสร้างสวนในร่ม ปลูกพืชแนวตั้งแบบไม่ใช้ดิน
#3 PLAY MODE
ปิดท้ายด้วยโหมดวันพักผ่อน กำแพงทั้งสองด้านจะถูกดันจนชิดผนังและห้องเก็บของ เปิดสเปซส่วนกลางให้กว้างที่สุดเพื่อให้กลายเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ให้ทุก ๆ คนสามารถใกล้ชิดและปฏิสัมพันธ์กันด้วยความบันเทิง
อาจจะจัดสักมุมเพื่อออกกำลังกาย หรือเอาเวลาไปใช้ในครัวเพื่อเตรียมอาหารระหว่างอยู่บ้านได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่ากิจกรรมไหนก็สามารถปรับได้ตามความต้องการ
เวลานี้สถาปนิกทั่วโลกกำลังต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สิ่งปลูกสร้างเดิมที่เคยคิดว่าจำเป็นจะต้องนำมาคิด กลั่นกรอง และประกอบสร้างใหม่เพื่อให้เหมาะสม คุ้มค่าที่สุด อีกทั้งหลายคนลงความเห็นตรงกันว่าในอนาคต “ออฟฟิศ” อาจจะไม่ใช่สถานที่ที่จำเป็นอีกต่อไป เพราะเมื่อเราผ่านวิกฤตนี้ไปได้ มันกลายเป็นบททดสอบที่ทำให้เห็นว่าบางบริษัท เราทุกคนไม่จำเป็นต้องเดินทางไปอยู่รวมกัน และลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้
แต่แน่นอนว่านั่นก็พ่วงกับการออกแบบบ้านด้วยที่จะต้องมีฟังก์ชันพร้อมรองรับการทำงานอย่างเหมาะสมให้เกิด work-life-balance สูงสุด
ใครที่อยู่อพาร์ตเมนต์ช่วงนี้ เราแนะนำว่า ถึงจะไม่สามารถติดตั้งกำแพงอเนกประสงค์ที่สามารถเลื่อนได้แบบนี้ แต่เราก็สามารถหาอย่างอื่นมาเป็นตัวช่วยแก้ขัดได้ อย่างมู่ลี่ หรือฉากกั้น กระทั่งการขึงผ้าเพื่อแยกพื้นที่ส่วนตัวให้อยู่ในสภาพแวดล้อมน่าทำงาน แต่ไม่เปลืองเงินทองมากก็ทำได้เช่นกัน
เอาใจช่วยให้ทุกคนผ่านสถานการณ์นี้ไปไว ๆ ค่ะ
อ้างอิงแหล่งที่มาข้อมูล
https://www.dezeen.com/2020/04/13/woods-bagots-modular-ad-apt-apartments-working-from-home/