มีคนเคยตั้งคำถามว่า “คิดว่าของแพงจะขายได้ไหมในสถานการณ์โควิด-19แพร่ระบาดแบบนี้ ที่พักหรูจะอยู่ได้หรือเปล่า” ถ้าพูดตามความเป็นจริงแบบโลกไม่สวยเลยก็จะตอบไปว่า “ขายได้” หรูระดับสวรรค์แค่ไหนก็มีคนพร้อมจ่าย
เพราะเรื่องจริงคือช่องว่างของระดับรายได้และความเป็นอยู่ในสังคมทุกประเทศก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม ของราคาประหยัดมีคนซื้อ แต่ของราคาสูงก็มีไว้เพื่อให้คนอีกกลุ่มหนึ่งซื้อไว้ใช้งานเหมือนกัน ดังนั้นอพาร์ตเมนต์หรูก็ยังอยู่ได้เพียงแค่ต้องอาศัยการปรับตัวให้สมค่าสมราคาการเข้าพัก
Le Bijou คืออพาร์ตเมนต์หรูแบรนด์หนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีพื้นที่ทั้งหมด 42 ยูนิต ซึ่งปรับตัวด้วยการออกแบบอพาร์ตเมนต์สำหรับกักตัวโดยเฉพาะในธีม “แพ็กเกจโควิด-19” ซึ่งมาพร้อมบริการระดับพรีเมียม เป็นส่วนตัวทั้งที่พักซึ่งจัดให้ไม่มีคนเดินพลุกพล่านบริเวณลูกค้าแต่ละกลุ่มอยู่ โดยยังสามารถรับบริการได้ครบครันเต็มรูปแบบ อยู่แบบสบาย ๆ อย่างปลอดภัย
ด้วยราคาที่ตั้งไว้สูงถึงคืนละตั้งแต่ 800 ดอลลาร์ – 2,000 ดอลลาร์ ถ้าคิดราคาไทยก็จะอยู่ที่ราว ๆ 25,000 – 62,000 บาท จึงไม่ได้รับลูกค้าแบบสุ่มสี่สุ่มห้า อย่างที่รู้ ๆ อยู่แล้วว่าตอนนี้อาการของโรคโควิด-19 ไม่ได้แสดงออกด้วยไข้สูงที่แยกได้เหมือนก่อน ดังนั้น ที่นี่จึงให้ลูกค้าทุกคนเข้าตรวจโควิด-19 ก่อนเข้าพัก ถ้าพบผลเป็น positive หรือติดเชื้อก็จะแนะนำให้อยู่ที่บ้านแทนตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด
ด้านบริการการใช้งานที่ขายความปลอดภัยนำมาเป็นจุดแข็งได้ เพราะใช้ระบบสั่งการอัตโนมัติจากแอปพลิเคชันด้วยตนเองได้ มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการใช้งานครัว ห้องซาวน่า จากุชชี ยิม นวด นอกจากพนักงานแล้ว ระหว่างเช็กอินที่กำลังรับบริการคุณจะไม่เจอคนอื่นเลย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความเสี่ยง
แล้วถ้าพนักงานทำความสะอาดมาป้วนเปี้ยนในห้องจะปลอดภัยได้เหรอ?
การทำความสะอาดมีความเป็นไปได้ที่เราจะเจอลูกค้ามีความเสี่ยงแล้วพาเชื้อไวรัสจากห้องหนึ่งไปสู่อีกห้องโดยไม่รู้ตัว Le Bijou จึงทำความสะอาดเฉพาะก่อนและหลังลูกค้าเข้าพักเท่านั้น ระหว่างที่พักอยู่พนักงานจะไม่เข้าไปในห้องเด็ดขาด ส่วนด้านการจัดการขยะ อพาร์ตเมนต์จะวางจุดนัดรับหน้าห้องหรือตำแหน่งอื่น ๆ ที่อยู่นอกบริเวณห้องพัก ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้ตัดโลกและตัดโรคไปพร้อมกันจริง ๆ
นอกจากความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวแล้ว ไอเดียอีกส่วนที่เป็นแพ็กเกจที่ทำให้คนสนใจแม้ว่าจะต้องเพิ่มราคาจากเดิมก็คือ “บริการทางการแพทย์” ไม่ว่าจะเป็นการตรวจโควิด-19 หรือการให้บริการพยาบาลส่วนตัว ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะใช้งานเป็นครั้งคราวหรือจะให้อยู่พร้อมสแตนด์บาย 24 ชั่วโมงก็ได้ เหมือนโรงพยาบาลส่วนตัวกลาย ๆ เลยทีเดียว
แต่ไอเดียนี้เกิดขึ้นจากข้อเสนอแนะของลูกค้า เพราะ CEO ของ Le Bijou เผยว่าพอคนเริ่มพักค้างคืนกันนาน ๆ เข้า พวกเขาก็เริ่มถามเรื่องบริการทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการที่จะให้หมอเข้ามาตรวจเช็กอาการ หรือการดูแลอย่างปลอดภัยจากบุคลากรทางการแพทย์ อพาร์ตเมนต์จึงจัดแพ็กเกจเสริมขึ้นมา ซึ่งราคาเสริมก็เกือบจะพอ ๆ กับราคาค่าเข้าพักเลยทีเดียว
และนี่คือค่าใช้จ่ายโดยประมาณของบริการเสริมดังกล่าว
- การตรวจโรคโควิด-19 ราคาเสริมประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐ
- การให้พยาบาลลงตรวจ 2 ครั้งต่อวัน ราคาเสริมประมาณ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐ
- การให้พยาบาลดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ราคาเสริมประมาณ 4,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน
แม้เราจะคิดว่าราคาค่าห้องต่อคืนทำให้ต้องปาดเหงื่อขนาดไหน แถมยังบวกราคาแพ็กเกจเสริมการตรวจเข้าไปอีกเพียบ แต่ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจคือ คนส่วนใหญ่เลือกจะจองกันนาน ๆ ตั้งแต่ระหว่าง 2 อาทิตย์จนถึง 2 เดือนแทนการค้างคืนเดียว ส่วนกลุ่มคนที่จ่ายเงินเข้าพักแบ่งสัดส่วนเป็น 50-50 ระหว่างผู้สูงอายุกับนักท่องเที่ยว โดยเหตุผลส่วนหนึ่งมาจากการดูแลที่ดีกว่า โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่าผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง คนส่วนใหญ่อยากจะให้พวกเขาเข้ามารับการดูแลเป็นอย่างดีแบบนี้มากกว่า
อย่างไรก็ตามแพ็กเกจสุดหรู หรือแพ็กเกจกักกันตอนนี้ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหม่อะไรมากนัก เพราะตามรายงานของ USA Today เผยว่าหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเมืองไทยของเราหรือออสเตรเลียก็จัดแพ็กเกจด้วยธีมนี้เช่นเดียวกัน ชาว BuilderNews คนไหนที่ทุนทรัพย์ถึง อยากจับจอง หรือจะเอาวิธีนี้ไปประยุกต์ใช้เพื่อสร้างการตลาดระดับไฮเอนด์ ก็ลองเข้าไปดูหรือจับจองกันได้ที่นี่ https://lebijou.com/covid19
อ้างอิงข้อมูลจาก