อะไร ๆ ก็มินิมัล ถ้าพูดถึงสไตล์การแต่งบ้านเรามักจะได้ยินคนยุคนี้พูดคำว่า “แต่งแบบมินิมัลดิ” อยู่บ่อย ๆ แต่มินิมัลมันดียังไง และแต่งอย่างไร บ้านหรือห้องเราถึงจะเป็นแบบมินิมัล
มินิมัลคืออะไร? เกิดขึ้นจากที่ไหน
คำว่า “มินิมัล” หรือที่คนรู้จักผ่านคอนเซ็ปต์ “Less is More” เป็นปรัชญาและแนวการใช้ชีวิตที่มีที่มาจากพุทธนิกายเซนในญี่ปุ่น ซึ่งเน้นถึงเรื่องความเรียบง่ายและความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 และกลายเป็นรูปแบบสำคัญที่แดนปลาดิบนิยมใช้ โดยส่วนหนึ่งว่ากันว่าแนวคิดนี้อาจได้อิทธิพลมาจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของญี่ปุ่นซึ่งประเทศมักจะเกิดภัยพิบัติบ่อย ๆ บ้านช่องเสียหาย จึงเน้นการมีของน้อยชิ้น และจะมีเฉพาะทรัพย์สินที่จำเป็นภายในบ้านแทนการตกแต่งมากมาย
ขณะเดียวกัน ในด้านศิลปะ “มินิมัล” หรือ “Minimalism” ถือกำเนิดขึ้นเพื่อต่อต้านศิลปะ Abstract Expressionism ยุค 50s เพราะผู้คนในยุคนั้นเบื่อการครอบงำของศิลปะ การวิ่งตามอารมณ์ความคิดแบบฉับพลันของศิลปินหันมาสู่ความเรียบง่ายและแก่นแท้ธรรมชาติ มุ่งตัดความฟุ้งเฟ้อของอารมณ์และฝีแปรง ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากงานศิลป์ไป ทำให้ศิลปินในยุคถัดมาคือยุค 60s สร้างผลงานแบบมินิมัลเป็นหลักแทน
แต่ไม่ว่า “มินิมัล” ในทางปรัชญาจะมีต้นกำเนิดมาจากที่ใดก็ตาม คอนเซ็ปต์ของความ “น้อยแต่มาก” ก็ไปอยู่ในทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่วงการสถาปัตยกรรม มัณฑนากรตกแต่งบ้านเองก็ดี BuidlerNews จึงรวบรวมเหตุผลและเทคนิคการแต่งบ้านสไตล์มินิมัลมาแบ่งปันกัน เพราะยุค New Normal สไตล์การแต่งบ้านแบบมินิมัลคืออีกสไตล์ที่กำลังจะเป็นเทรนด์สำคัญสำหรับทุกบ้าน
5 ข้อดีที่ทำให้คนตกหลุมรักสไตล์มินิมัลแบบถอนตัวไม่ขึ้น
- เก็บเงินได้มากขึ้น การแต่งบ้านสไตล์มินิมัลใช้ไอเทมในห้องน้อยจึงช่วยให้เราเก็บเงินได้มากขึ้น เพราะนอกจากเราจะไม่ต้องซื้อของเยอะให้เปลืองเงินแล้ว ยังไม่ต้องเสียเงินสำหรับการบำรุงรักษาของพวกนั้นในระยะยาวอีกด้วย
- มีเวลาเพิ่ม รู้หรือไม่? แค่แต่งบ้านแบบมินิมัลเราก็ได้เวลากลับมาเป็นของตัวเองมากขึ้น เพราะของยิ่งน้อย เวลาทำความสะอาดหรือจัดของจะลดลง เวลาพักผ่อนไปทำสิ่งที่ชอบก็จะมีเพิ่มขึ้น ทำให้เราใช้เวลาเพื่อตัวเองได้มากขึ้น
- รักษ์โลก เมื่อใช้น้อยก็ทำลายน้อย นี่คือเหตุผลที่ทำให้คนมินิมัลจัดอยู่ในกลุ่มของคนที่ปกป้องธรรมชาติและโลกโดยไม่รู้ตัว
- คุณภาพชีวิตดีขึ้น ถ้าคุณไม่ได้มีบ้านหรือห้องแบบมินิมัลมาก่อนแล้วมีโอกาสได้ลองไปเที่ยวหรือพักตามโรงแรม เคยสังเกตไหมว่าคุณจะนอนหลับสบายขึ้นต่างจากที่บ้าน นั่นเพราะห้องพักมักจะโล่ง ไม่มีอะไรมารบกวน ตรงกับคำที่เคยมีคนกล่าวว่า “การเพิ่มข้าวของเข้ามาในห้อง ก็เหมือนการเพิ่มความกังวลและความเครียดในการใช้ชีวิต เพราะเมื่อเรารู้สึกว่าเราได้เป็นเจ้าของอะไรก็ตาม สิ่งที่ตามมาก็คือความพยายามจะดูแลควบคุมมัน”
- เห็นคุณค่าของข้าวของการใช้ชีวิต คนส่วนใหญ่เคยซื้อของเข้าบ้านมาเพราะความชอบ เพราะมันสวย มันน่าจะเหมาะกับห้องเรา แต่ของบางชิ้นพอนานวันไปเรากลับไม่เคยแกะ ไม่เคยใช้เสียด้วยซ้ำเพราะของที่เราใช้ประจำมักจะมีไม่กี่ชิ้น หากใช้ไลฟ์สไตล์แบบมินิมัล ไม่เพียงแค่จะไม่มีของชิ้นไหนที่เราปล่อยทิ้งไว้แต่เราจะเห็นคุณค่าและมีความผูกพันกับข้าวของไม่กี่ชิ้นที่เราใช้มากขึ้น และสิ่งนี้จะกลายเป็นพื้นฐานที่ทำให้เราละเอียดกับการใช้ชีวิตและความสัมพันธ์ขึ้นโดยไม่รู้ตัวด้วย
HOW TO ตกแต่งบ้านให้มีความมินิมัล
เชื่อว่าข้อดีเยอะ ๆ ด้านบน อาจจะเริ่มโน้มน้าวให้รู้สึกอยากปรับห้องเป็นสไตล์มินิมัลแล้ว งั้นลองเอาเทคนิคการแต่งห้องให้มินิมัลทั้ง 4 ข้อด้านล่างไปใช้กันดู
- เลือกเฉดสีอ่อน โมโนโทนและสว่าง
การคุมโทนสีคือปัจจัยสำคัญของการแต่งห้องแบบมินิมัล หัวใจสำคัญคือการเลือกใช้สีสว่าง เฉดสีแนวเบจหรือสีขาวเพื่อดึงแสงและมู้ดความเป็นธรรมชาติเข้ามา แต่ถ้าใครอยากเติมความหรูหราก็สามารถเลือกไอเทมสไตล์หินอ่อนเพิ่มเข้าไปในห้องได้ ส่วนใครที่อยากเพิ่มเฉดสีอื่นเข้าไปร่วมด้วย แนะนำให้เป็นสีเหลืองหรือสีเขียว เพราะเป็นสีธรรมชาติที่กลมกลืนกัน
2. โล่ง โปร่ง เคลียร์
แก่นการตกแต่งห้องแบบมินิมัล คือความโล่ง โปร่ง และเคลียร์ ถ้าเรากวาดตาเข้าไปในห้องที่อยู่ตอนนี้แล้วไม่เป็นอย่างนั้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือเก็บกวาดสิ่งที่รุงรังสายตาออกไปก่อน เริ่มจากกองกระดาษ บิล หรือสิ่งต่าง ๆ ที่กระจายไม่เป็นระเบียบและไม่สำคัญออกไป จากนั้นเลือกวางเฉพาะข้าวของที่จำเป็นเข้ามาแทน จำไว้เสมอว่าตราบใดที่ของเก่าไม่โดนเคลียร์ออก ความมินิมัลก็ไม่เกิดแน่นอน
- พื้นผิวต้องคลีน
คำว่า “คลีน” ไม่ได้แปลว่าสะอาดเท่านั้น แต่หมายถึงความคลีนของสายตา สิ่งสำคัญคือเวลาเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องจะต้องไม่มีลวดลายหรือเส้นสายยุ่บยั่บบนเฟอร์นิเจอร์หรือของที่เรานำมาวางในห้องนัก แต่ถ้าเป็นลายไม้หรือลวดลายธรรมชาตินับเป็นข้อยกเว้น
- เลือกคุณภาพมากกว่าปริมาณ
ใครที่ตกแต่งห้องแบบมินิมัลอาจจะช็อกที่รู้ว่าบางครั้งเฟอร์นิเจอร์เรียบที่เหมาะแก่การใช้งานและเหมาะกับความต้องการของเรา ราคาไม่ธรรมดาเหมือนหน้าตาของมันเลย เหตุผลหนึ่งมาจากการให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพที่สูงกว่าปริมาณ ของบางอย่างมองเผิน ๆ อาจไม่เห็นความแตกต่าง แต่ในแง่การใช้งานระยะยาวอาจมีผลลัพธ์ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ถึงกระนั้นเราก็ไม่ได้เชียร์ให้คุณใช้ของแพง แต่เพราะของในห้องต้องน้อยชิ้น เวลาเลือกเข้ามาจึงควรต้องคำนึงถึงฟังก์ชันและคุณภาพเสมอ เนื่องจากเราไม่เน้นเปลี่ยนมันบ่อย ๆ
สำหรับการตกแต่งด้วยภาพติดผนัง หรือเครื่องแขวนต่าง ๆ แนะนำให้เลือกความสมดุลมาก่อน มองพื้นที่ในห้องก่อนติดหรือแขวน ไม่อย่างนั้นภาพที่เราชื่นชอบอาจทำลายบรรยากาศโล่ง ๆ สบาย ๆ ให้กลายเป็นความวุ่นวายสับสนได้เหมือนกัน
ไม่ว่าคุณจะแต่งบ้านแบบไหน บ้านไม่เพียงแค่สะท้อนตัวตน แต่ยังช่วยสร้างเอกลักษณ์และความเป็นระเบียบในชีวิตให้คุณได้อย่างคาดไม่ถึง จึงมีผู้กล่าวว่าการเปลี่ยนบ้านเหมือนได้เปลี่ยนตัวเอง หวังว่าชาว BuilderNews ที่อยากลองเปลี่ยนลุคห้อง อยากเปลี่ยนบรรยากาศให้ตัวเอง และเหลือพื้นที่โล่ง ๆ ไว้ให้การใช้ชีวิตจะได้ทดลองเอาสไตล์มินิมัลไปปรับใช้กัน
ภาพประกอบปกบทความและบทความ