สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างซึ่งพลิกการดำเนินชีวิตของมนุษย์เกือบทุกด้าน ส่งผลให้เกิดเป็นวิถีชีวิตใหม่ที่มีความต้องการใหม่ ๆ ขึ้นมามากมายในตลาด ซึ่งรวมไปถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีเองก็ต้องเกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อโจทย์ที่ต้องแก้ในปัจจุบัน
และ “แสงสว่าง” นั้นถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในชีวิตคนเรา ดังนั้นด้วยความต้องการที่เปลี่ยนไป การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้แสงสว่างเองก็ควรจะตามให้ทันสิ่งเหล่านั้นด้วย โดยบริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้ทำการคิดค้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวความคิด “New Light for New Normal” เพื่อแสวงหานวัตกรรมที่ตอบสนองต่อวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป
L&E กับการพัฒนาแสงสว่างที่มีประสิทธิภาพและความสวยงาม เพื่อให้ “เป็นมากกว่าแสงสว่าง”
เรามีความคิดที่ว่าอยากเปิดบริษัทไฟฟ้าเพื่อคนไทย เริ่มต้นจากการขายสินค้า โคมไฟ หลอดไฟให้ทางผู้รับเหมาก่อน เกิดเป็นความไว้วางใจ ทำให้ L&E มีสินค้าเกือบทุก Range ของงานโครงการ และเมื่อแนะนำสินค้าก็ต้องแนะนำเรื่องการออกแบบด้วย จึงเริ่มมีการตั้งทีมออกแบบเรื่องแสงสว่างขึ้นมา เป็นงานบริการที่ไม่ได้คิดค่าใช้จ่าย สำหรับ support ลูกค้าที่ต้องการการออกแบบ การวางแสงไฟให้มีความสว่างเพียงพอ ปลอดภัยแก่สายตา และเกิดความสวยงาม
นอกจากนี้ยังมีทีมวิจัย และพัฒนาขึ้นมาเป็น Lighting Innovation Center เป็นทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ คัดสรรนวัตกรรมก่อนเอามาผลิตเพื่อจำหน่ายแก่ผู้บริโภค โดยตอนนี้มีแนวทางพัฒนาที่เน้นไปที่ IQSS
- Innovation แสวงหานวัตกรรมตามเทรนด์ ดูความต้องการของตลาดเป็นหลัก
- Quality ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้งาน
- Speed มีความรวดเร็ว ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างทันท่วงที ในการพัฒนาและให้บริการด้านผลิตภัณฑ์
- Solution การแก้โจทย์งานโปรเจกต์และความต้องการเฉพาะอย่างของงานนั้น ๆ
ทีม Lighting Designer การออกแบบแสงสว่างเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลาย
มีการร่วมมือกับองค์กรต่างชาติ และมีทีมพัฒนาและทีม Lighting Designer ของบริษัท ทุกทีมมีการส่งไปดูงานเกี่ยวกับแสงไฟและแสงสว่างที่สำคัญของโลกเพื่อพัฒนาองค์ความรู้อยู่เสมอ นอกจากนี้เรายังมีการออกแบบวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัย เช่น การพัฒนาไฟปลูกต้นไม้ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นต้น
ในอนาคตต้องการพัฒนาไฟใช้เลี้ยงสัตว์ ไฟเพื่อผู้สูงอายุ เป็น Guide light Sensor ที่สบายตา ไฟรักษาโรค เช่น การออกแบบสีของแสงเพื่อผ่อนคลายความเครียด ฯลฯ หรือใครที่มีความต้องการอื่น ๆ ก็สามารถออกแบบได้ตามความต้องการ
ผลิตภัณฑ์ภายใต้คอนเซปต์ “New Light for New Normal” ในงาน ACT FORUM ’20 Design + Built
ยุคโควิด-19 ไม่ใช่แค่เรื่องของการใส่หน้ากาก การเว้นระยะห่าง แต่รวมไปถึงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างต้องควบคุมได้อย่างง่ายดาย ในยุค New Normal ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และเป็นที่มาของแนวความคิดชีวิตยุคใหม่ หรือ “New Light for New Normal” โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
1.Light for Energy Saving: ไฟเพื่อประหยัดพลังงาน เช่น การผลิต LED ประหยัดพลังงาน, แผงโซลาร์เซลล์
2.Light for Life: ไฟสำหรับชีวิต ได้แก่ ไฟปลูกต้นไม้ และไฟฆ่าเชื้อ เช่น ไฟฆ่าเชื้อในห้องแอร์ บันไดเลื่อน หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อ (สามารถตั้งโปรแกรม ตรวจขนาดของห้อง และคำนวณว่าใช้แสงฆ่าเชื้อกี่นาทีในแต่ละจุด กำหนดเส้นทางการเดิน มีเซนเซอร์ในการตัดการทำงานในกรณีที่มีคนเดินผ่านหรือมีการเคลื่อนไหว ฯลฯ)
3.Light for Digital Connectivity: Smart Urban Pole การควบคุมไฟในระบบอัจฉริยะ สามารถควบคุมปริมาณไฟ และการเปิด-ปิดของไฟได้ ตั้งเวลาได้ ติดตั้งกล้องวงจรปิด ระบบวัดคุณภาพอากาศ ตัวกระจายสัญญาณ Wifi ป้ายประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ทั้งระดับอาคารและระดับเมือง
4.Light for Inspiration: แสงไฟเพื่อแรงบันดาลใจ เป็นไฟสำหรับการตกแต่งยุคใหม่ ไม่ต้องซื้อโคมเป็นชิ้น ๆ สำเร็จแล้ว แต่สามารถ Customize ตามสไตล์ของตนเองได้ มีวัสดุหลากหลายให้เลือก ปรับตามรูปทรงของอาคารได้ รองรับทุกความต้องการของสถาปนิกและผู้ใช้งาน
Smart Urban Pole เสาไฟที่มีการผสมผสานเทคโนโลยี IoT เพื่อตอบสนองต่อสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป
IoT (Internet of Things) คือ การเชื่อมโยงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ หรือส่งข้อมูลระหว่างกันด้วยอินเทอร์เน็ต หรือเชื่อมต่อเข้ากับการใช้งานอื่น ๆ จนเกิดเป็นบรรดา Smart ต่าง ๆ เช่น Smart Network, Smart Home, Smart Grid, Smart Device, Smart Intelligent Transportation ที่เราเคยได้ยินนั่นเอง (ที่มาข้อมูลจาก Aware)
Smart Urban Pole เป็นเสาไฟสนามที่มีโคมไฟอัจฉริยะติดตั้งอยู่ สามารถทำงานผ่าน Web Browser เพื่อควบคุมและสั่งการโคมไฟที่มีอุปกรณ์รับส่งสัญญาณ รวมทั้งสามารถติดตั้งและควบคุมอุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น กล้อง CCTV ปุ่มสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉิน จอภาพ LED อุปกรณ์ส่งคลื่น Wifi อุปกรณ์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ฯลฯ
เพราะนวัตกรรมและเทคโนโลยีดูแค่ผ่านหน้าจอคงไม่เห็นภาพ การไปสัมผัสผลิตภัณฑ์จริงก็คงจะดีกว่าว่าไฟสามารถเป็นอะไรได้บ้าง และจะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง ดังนั้นจึงขอเชิญทุกคนมาร่วมสัมผัสแสงไฟที่เป็นมากกว่าการให้แสงสว่างทั้ง 4 กลุ่ม จนกระทั่งแลกเปลี่ยนหรือออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจ ซึ่งทาง L&E แอบกระซิบมาว่ามีโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่มาในงานอีกด้วย
แล้วพบกับนวัตกรรมแสงไฟจาก L&E ได้ที่บูธ L201 ในงาน ACT FORUM ’20 Design + Built ระหว่างวันที่ 18 – 22 พฤศจิกายน 2563 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี
ลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าได้แล้วที่ https://actforum.prereg.info/form.asp?lang=TH