เพียง 3 ปีหลัง Aldagram Inc. สตาร์ทอัปสัญชาติญี่ปุ่นได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน “KANNA” เต็มรูปแบบเพื่อบริหารโครงการก่อสร้างในประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนพฤกษภาคม 2562 ล่าสุด จำนวนองค์กรผู้ใช้งานได้เพิ่มเป็น 20,000 กว่าแห่ง จาก 10 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบัน “KANNA” ได้จัดตั้งสำนักงานตัวแทนในประเทศไทย
เรามารู้จักที่มาและแนวคิดของสตาร์ทอัปญี่ปุ่นที่เปิดตัวให้บริการว่าจะเข้ามาช่วยต่อยอดอุตสาหกรรมก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์ของไทยได้อย่างไร
แก้ Pain Point ในยุคปรับตัวสู่ DX ของวงการอุตสาหกรรมญี่ปุ่น
นายฮิคารุ นากาฮามา หนึ่งในผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Aldagram Inc. สตาร์ทอัปสัญชาติญี่ปุ่นผู้พัฒนา “KANNA” กล่าวถึงที่มาของการพัฒนาแอปพลิเคชัน “KANNA” ว่า “จากประสบการณ์ที่ผมได้ทำงานในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการก่อสร้างของญี่ปุ่น เร่งปรับตัวสู่ยุค DX อย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ปัญหาต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นจากหลายปัจจัย อาทิ จัดการงานเอกสารและข้อมูลต่าง ๆ ที่ซับซ้อน และความล่าช้าในการประสานความต้องการของงานส่วนภาคสนามและหลังบ้าน การจัดทำรายงานตรวจสอบแต่ละขั้นตอน ความคล่องตัวของเทคโนโลยีที่เข้าถึงทุกคนในแต่ละแผนก ฯลฯ หากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ หรือ ผู้รับเหมาที่บริหารจัดการโครงการได้รวดเร็ว และคุมงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพก็สามารถรับงานใหม่ต่อเนื่องได้ทันที
แก้ปัญหาให้ตรงจุด KANNA ตอบโจทย์คุมงานก่อสร้าง
จากขั้นตอนและความยุ่งยากในการบริหารจัดการโครงการก่อสร้าง ทีมงานพัฒนาแอป “KANNA” เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย ผ่านการสั่งงานด้วยสมาร์ทโฟนเพียงแอปเดียว และไม่ต้องเปิดหลายแอปให้ยุ่งยาก ซึ่งเป็นจุดเด่นของแอปพลิเคชัน ช่วยบริหารจัดการโครงการ และเป็นระบบที่อัพเดตข้อมูลได้ถูกต้อง และควบคุมการจัดเก็บข้อมูลพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุดเพื่อปกป้องข้อมูลที่มีค่าของลูกค้าให้สามารถควบคุมการสื่อสารแบบครบวงจร
เมื่อพนักงานในทุกระดับเข้าใจและใช้งานได้สะดวก “KANNA” ช่วยประสานงานทุกขั้นตอนได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว จึงคุมต้นทุน ตัดความซ้ำซ้อนและข้อผิดพลาดแบบเดิม ๆ ได้ นอกจากนี้ ยังช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินทาง ช่วยให้สื่อสารและติดตามงานง่ายขึ้น ใช้งานสะดวกจากทุกที่ทุกเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้
ผลตอบรับจากลูกค้า “KANNA” บริหารจัดการได้ทั่วโลก
หลังจากเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นปี 2562 ได้รับการตอบรับอย่างดี บริษัท ฯ จึงได้พัฒนาระบบรองรับภาษาต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อขยายกลุ่มผู้ใช้งานนอกประเทศญี่ปุ่น ไม่เพียงแต่ใช้งานสำหรับกลุ่มบริษัทก่อสร้างเท่านั้น ได้ขยายกลุ่มผู้ใช้ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกด้วย ทำให้ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน “KANNA” แล้วมากกว่า 20,000 บริษัท จาก 10 กว่าประเทศทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น ดูไบ อังกฤษ อินเดีย ออสเตรเลีย สเปน ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม เคนย่า และอูกันด้า
“Unlock Your Value ปลดล็อคคุณค่าในตัวคุณ” เพิ่มประสิทธิภาพคือพันธกิจ
เราตั้งใจที่จะพัฒนาแพลทฟอร์ม “KANNA” จากญี่ปุ่นนี้ให้เป็นที่รู้จักและขยายไปทั่วโลก กลุ่มเป้าหมายของเรา ไม่ได้จำกัดอยู่ที่อุตสาหกรรมการก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้กับงานอุตสาหกรรมทั่วไป เพราะเราสามารถปรับเปลี่ยนการทำงานให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานเฉพาะของต่ละองค์กรได้ ทำให้ปัจจุบันเรามีพนักงานมากกว่า 80 คนรวมทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ
สำหรับประเทศไทย นายนากาฮามากล่าวว่า “งานภาคสนามหรือที่เรียกว่า “งานออนไซต์” ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย อุตสาหกรรมการผลิต อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม การขนส่ง และคลังสินค้าต่าง ๆ ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีช่วยในการทำงานที่แข่งกับเวลาและลดต้นทุนสามารถเลือกใช้แอป “KANNA” ในการช่วยบริหารงานได้ สามารถศึกษาจากคลิปสาธิตการใช้งานได้ที่ https://youtu.be/RQ-Ap9N7jiQ และผู้ที่สนใจทดลองใช้ด้วยตนเอง ลงทะเบียนฟรีได้ที่ https://lp.kanna4u.com/th”