“ปากกา” ไอเท็มที่ใช้ทำสิ่งสำคัญต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น จดบันทึก, กรอกเอกสาร, เซ็นลายเซ็น, วาดภาพ, สเก็ตช์อัพ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่ต้องใช้ปากกาเกี่ยวข้อง แม้จะเป็นไอเท็มที่ดูสำคัญ แต่ก็เป็นอะไรที่คนใส่ใจน้อยเหมือนกัน

ปากกา หากถามถึงชื่อแบรนด์แล้วละก็ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อแบรนด์ของ “LAMY” ปรากฏอยู่ในลิสส์แน่นอน เพราะอะไร LAMY ถึงเป็นปากกาที่ดูพรีเมียม ทั้ง ๆ ที่มองดูแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากปากกาแท่งอื่น? ทำไม LAMY ถึงได้เป็นปากกาด้ามโปรดของนักเขียน นักออกแบบหลาย ๆ คน มันมีความพิเศษอะไร? ทำไมทุกคนถึงอยากได้มันมาครอบครอง วันนี้เรามาหาคำตอบกัน

จุดเริ่มต้นของ LAMY

LAMY ถือกำเนิดขึ้นในปี 1930 โดยอดีตผู้บริหารของ Parker ชาวเยอรมันที่ชื่อ “Josef Lamy” เขาอยู่ในวงการปากกาหมึกซึมมาอย่างยาวนานจนเห็นความเป็นไปได้ที่จะผลิตปากกาหมึกซึมของตัวเอง Josef จึงเริ่มทำความฝันที่เขาสร้างไว้ ด้วยการเริ่มผลิตปากกาหมึกซึมภายใต้แบรนด์ “Orthos” และ “Artus” โดยหวังให้คนเยอรมันได้มีโอกาสใช้ปากกาคุณภาพในราคาที่จับต้องได้

ทั้ง 2 แบรนด์ได้รับการตอบรับอย่างดี มียอดขายมากกว่า 2 แสนด้ามต่อปี จนสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ธุรกิจชะงักลงไป เมื่อสิ้นสุดสงคราม Josef กลับมาทำธุรกิจต่อ พร้อมกับการเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็นนามสกุลของเขา “LAMY”

พร้อมใส่นวัตกรรม “Tintomatik” ในผลิตภัณฑ์ของเขา ซึ่งเป็นการช่วยให้น้ำหมึกไหลจากช่องเก็บหมึกไปยังหัวปากกาได้ดี ไร้ปัญหาหมึกขาดหรือซึมออกมาขณะเขียน เรียกได้ว่า สร้างความฮือฮาและเปิดประสบการณ์ใหม่ในการใช้ปากกายุคนั้น

Manfred Lamy ลูกชายของเขาได้เข้ามาช่วยบริหารและพัฒนาด้านดีไซน์ โดยเริ่มจากรุ่น LAMY 2000 ในปี 1966 เมื่อวางขาย LAMY ได้กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัย คุณภาพไม่รองใคร ถูกใจ User ทำให้ LAMY กลายเป็นปากกาที่ครองใจใครหลาย ๆ คน และเริ่มนำมาทำเป็นของขวัญจนถึงปัจจุบัน

LAMY กับสิ่งที่เป็นมากกว่าปากกา

LAMY ให้ความสำคัญกับ “คุณภาพ” ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วนเกือบทุกอย่างด้วยโรงงานของตนเองที่เยอรมนี ทั้งด้าม ปลอก หลอดหมึก หรือสปริง และยังให้ความสำคัญกับการ “ทำมือ” แม้โลกจะหันมาใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรในการผลิต แต่ LAMY ยังเลือกใช้ผู้เชี่ยวชาญ เพราะเชื่อว่า ความแม่นยำและความใส่ใจของพนักงานมากประสบการณ์ จะทำให้คุณภาพของการผลิตออกมาดีที่สุด

LAMY สามารถมอบภาพลักษณ์ความมีสไตล์ให้กับ User ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะแบรนด์ได้มอบภาพจำให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของปากกาว่า ต้องเป็นคนที่เต็มไปด้วยความอาร์ต เดินภาพแล้วเห็น LAMY เหน็บเสื้อก็รู้แล้วว่าเฟี้ยว

หากพูดถึงราคา LAMY ถือเป็นแบรนด์ระดับโลก ค่าตัวก็อาจจะแรงกว่าแบรนด์อื่น ๆ แต่ก็ไม่ได้แพงจนเกินไป เริ่มต้นที่ 500 บาท มันจึงเป็นของขวัญสุดพรีเมี่ยมที่มอบให้กับคนสำคัญของคุณได้

เหมาะกับ User ทุกสไตล์

LAMY เป็นแบรนด์ปากกาอันดับต้น ๆ ที่มีสีสันให้เลือกมากที่สุด จุดนี้เป็นจุดแข็งที่ทำให้ LAMY สามารถเข้ากับ User ทุกสไตล์ ไม่ว่าคุณจะชอบสีอะไร LAMY จะทำให้ปากกาที่คุณซื้อเป็นด้ามโปรดและด้ามพิเศษที่คุณใช้ได้ไม่มีเบื่อ

นอกจากสีสันแล้ว หัวปากกายังมีให้เลือกอีกหลากหลาย ซึ่งคุณสามารถทดลองก่อนได้ เลือกให้ถูกกับสไตล์, การใช้งานของตัวเอง แล้วปากกาของคุณจะมอบประสบการณ์ที่คุณไม่มีวันลืม

เกร็ดน่ารู้: ปากกา LAMY ถูกออกแบบโดยดีไซเนอร์หลายคนนับตั้งแต่ปีที่ก่อตั้ง ไม่ว่าจะเป็น Gerd A. Müller, Wolfgang Fabian, Andreas Haug, Franco Clivio, Hannes Wettstein, Richard Sapper, Knud Holscher, Naoto Fukasawa, EOOS, sieger design, Mario Bellini, Jasper Morrison และ Eric Degenhardt

พร้อมทั้งคว้ารางวัลมากมาย F-Award, Reddot Design Award, Design Plus Award, Design Center Stuttgart, Designpreis der Bundesrepublik Deutschland, Good Design Award เป็นต้น

“หากคุณได้ลองใช้ คุณจะหลงรัก LAMY โดยไม่รู้ตัว”

ที่มา: debavalya / lamypenpremium

Previous articleเฮอริเทจโฮเต็ล (Heritage Hotel) คืออะไร?
Next articleเหตุผลทางสถาปัตยกรรมของดวงตาที่จ้องคุณไม่หยุดในอาคารเหล่านี้
เจตน์สฤษฏิ์ อ้องแสนคำ
Content Writer ผู้คลั่งไคล้การเสพหนัง, แคมป์ปิ้ง และอ่านหนังสือ ที่ฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง จึงเข้าสู่วงการสถาปัตยกรรมเพื่อศึกษาและค้นหาแรงบันดาลใจ