ช่วงนี้ข่าวทหารอียิปต์ ลูกทูตกำลังเป็นประเด็นร้อนที่เตือนว่า “โควิด-19” อาจกลับมาอีกครั้ง และทำให้เรากลับเข้าสู่สภาวะ Work from Home กันอีกครั้งอย่างจำใจ

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เบื่อกับการกลับไปทำงานที่บ้านแล้วไม่มีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเองเลย เราคือเพื่อนกัน และนั่นแหละสำหรับสถาปนิกทั่วโลกที่รู้ซึ้งถึงปัญหาเรื่องนี้ก็พยายามดีไซน์สเปซส่วนตัวที่พร้อมตัดวงจรวุ่นวายจากครอบครัว บ้าน “Studypods” คือหนึ่งในไอเดียแก้ปัญหา Work from home ที่นำมาฝากครั้งนี้ เพราะน่าสนใจ ดูมินิมัลและฟังก์ชันใช้งานก็เข้าท่าครบครัน

Studypods คือมินิโฮมออฟฟิศทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ผลงานของ Livit บริษัทออกแบบสัญชาตินอร์เวย์ ออฟฟิศทำงานขนาดเล็กนี้สามารถอยู่ได้ทุกที่ ติดตั้งตำแหน่งไหนก็ลงตัว ด้วยขนาดกำลังดีไม่ใหญ่จนดูเทอะทะ มีประตูเข้าออกทางเดียว ด้านในเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้สามารถถอดหรือติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ Build-in ประเภทโต๊ะหรือเตียงที่เหมาะกับการใช้งานได้ และสามารถวางเก้าอี้ไม้เพิ่มเพื่อทำงานคู่กับโต๊ะได้อีกตัว

Torstein Aa. ดีไซเนอร์จาก Livit เผยแรงบันดาลใจในการออกแบบว่า พวกเขาตั้งใจสร้างมินิโฮมออฟฟิศนี้ขึ้นเพราะอยากสร้างประสบการณ์ใหม่เพื่อให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนในยุคนี้ อยากเพิ่มพื้นที่ให้คนได้หายใจแบบไร้การรบกวน สถานที่สักที่ที่พวกเขาจะได้ทั้งทำงานแบบมีสมาธิและใกล้ชิดธรรมชาติในเวลาเดียวกัน เพราะเขาเชื่อว่าพื้นที่มีผลกับการเรียนรู้และสุขภาพจิต

ด้วยเหตุนี้เขาจึงออกแบบมินิโฮมออฟฟิศสไตล์ Zen ที่ใช้วัสดุประเภทกระจกตัดแสงสีดำ ห้องนี้คนอยู่ด้านในสามารถมองพื้นที่ด้านนอกได้ชัดเจน แต่คนข้างนอกมองเข้าไปแล้วไม่เห็นด้านใน ดังนั้นจึงรู้สึกเป็นส่วนตัว ที่สำคัญตัวกระจกตัดแสงเองก็ทำหน้าที่เหมาะสมเพราะถึงจะเป็นห้องโปร่งจากกระจก แต่เราจะไม่รู้สึกร้อนแม้ตั้งอยู่กลางแจ้ง ในห้องเปิดให้ลมสามารถไหลเวียนระบายอากาศได้ตามธรรมชาติ

ห้องทำงาน

พื้นห้องปูด้วยไม้ลามิเนต ให้ความรู้สึกอบอุ่นเวลาเข้าไปใช้งาน ข้อดีของไม้ประเภทนี้คือทนต่อแรงกดทับ ป้องกันความชื้น แมลง รอยขีดข่วนและแรงกระแทก สีไม่ซีด แถมยังทำความสะอาดได้ง่าย ที่สำคัญภายในห้องมีระบบไฟฟ้าสำหรับใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟดาวน์ไลท์ 4 ดวง หรือเต้ารับไว้เสียบชาร์จไฟเพื่อทำงานกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย มั่นใจว่าสามารถนั่งทำงานในนั้นทั้งวันทั้งคืนได้อย่างสงบไร้กังวล

ห้องนอน

จุดเด่นอีกอย่างคือเรื่องฟังก์ชัน ถึงจะบอกว่าดีไซเนอร์ตั้งใจออกแบบมาให้ทำงาน แต่ยุคนี้สร้างของขึ้นสักชิ้น ต้องคิดให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย โฮมออฟฟิศหลังนี้จึงคิดวิธีให้เราสามารถใช้งานพื้นที่ได้สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการ Build-in เฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้เพื่อนั่งทำงานได้ หรือถ้าอยากวางเตียงขนาดคิงไซส์เป็นห้องนอนเหมือน Airbnb สไตล์ outdoor ก็โอเค ถ้าเบื่อ ๆ อยากจะเป็นสาย healty ก็ยังปรับให้เป็นพื้นที่โล่งทำห้องโยคะได้ด้วย

ห้องโยคะ

ส่วนเรื่องการเคลื่อนย้ายมินิโฮมออฟฟิศน้ำหนัก 700 กิโลกรัมหลังนี้ Livit คิดมาแล้วว่าไม่ใช่ปัญหา จากการเพิ่มทางเลือกติดล้อเสริมใต้โครงห้อง เผื่อใครอยากจะเคลื่อนย้ายตำแหน่งไปวางที่อื่นที่ต้องการจะทำได้เองตามสบาย ความยืดหยุ่นตรงนี้คือข้อดี เพราะคงไม่มีใครอยากจะนั่งเห็นวิวเดิมไปตลอด การเพิ่มสีสัน ปรับองศาห้องทำงานตามต้องการคงทำให้รู้สึกว่าการ Work from Home มีความสุขขึ้น

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่โปรเจกต์งาน 3D สวย ๆ แต่ผลิตเสร็จแล้วพร้อมจำหน่าย เชื่อว่าทุกคนคงอยากรู้ว่าหลังนี้ราคาเท่าไหร่ ซึ่งราคาแบบอยู่ที่ €11,900 คิดเป็นเงินไทยตัวเลขกลม ๆ ก็ราว ๆ 429,900 บาท ตอนนี้ยังไม่เปิดจัดส่งนอกทวีปยุโรป แต่ถ้าใครอยากได้ หรืออยากติดตามข่าวว่าจะเปิดให้ซื้อเมื่อไหร่ ในเว็บไซต์มีช่องให้กรอกอีเมลแจ้งเข้าไปกับทาง Livit และเมื่อไหร่ที่ขยายพื้นที่จัดส่งก็จะส่งอีเมลแจ้งเตือนให้เราอีกที

ใครที่อยากได้หรืออยากเช็กข้อมูลแบบละเอียด ๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.studypod.no/

All Images by Studypod.no

 

ส่วนใครที่รอไม่ไหวหรือไม่อยากบินไปไกลถึงยุโรป อย่าเพิ่งมองข้ามไปเพราะที่ไทยเราก็มีเช่นกัน นั่นคือ “Phone Booth Series” จากแบรนด์ Rockworth เป็น Pod ที่มีความสามารถในการสร้างพื้นที่ทำงานสุดเงียบสงบในทันทีที่คุณเปิดประตูเข้าไป

Phone Booth Series คือ เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถเนรมิตพื้นที่ทำงานขนาดกะทัดรัดให้เต็มไปด้วยประโยชน์มากมาย เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องใช้สมาธิ หรือโทรศัพท์สายสำคัญ รวมถึงการประชุมขนาดเล็กหรือ VDO Conference ไปจนถึงการประชุมขนาดใหญ่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง นอกจากนั้นยังออกแบบตามหลักสรีศาสตร์ในการนั่งทำงาน เคลื่อนย้ายได้ง่าย ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในองค์กรได้อย่างสะดวกสบาย มาพร้อมกับระบบระบายอากาศและเซ็นเซอร์ไฟ เปิด-ปิด อัตโนมัติ ให้การนั่งทำงานของคุณสบายยิ่งขึ้น

หากใครกำลังสนใจสามารถสอบถามได้ที่ https://www.messenger.com/t/rockworththailand

และสามารถเข้าไปดูผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพิ่มเติมที่ http://rockworth.com/our-products/ และ https://www.facebook.com/rockworththailand

Previous articleเก่ากับใหม่ใครว่าอยู่ร่วมกันไม่ได้ “โฮมสเตย์ Xiangyuxiangyuan” สถาปัตยกรรมที่นำ
สิ่งเก่า-ใหม่มาผสานกันอย่างลงตัว
Next article‘เดอะเซนโทร คอนโด บางแสน’ ผ่าน EIA แล้วพร้อมสร้างทันที
เปิดให้ลูกค้าจองตึกใหม่ หลังโกยยอดขายตึกแรกกว่า 90%