ถ้าตั้งคำถามเรื่องหาแนวดีไซน์แบบมินิมัล ใช้เวลาเพียงไม่เกิน 5 นาที ชื่อของ Muji จะเป็นหนึ่งในห้าชื่ออันดับต้น ๆ ที่คนไทยคิดออก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้าเครื่องใช้หรือภาพลักษณ์ส่วนตัว Muji คือเจ้าแห่งความมินิมัลท่ีมีเอกลักษณ์ไม่ยึดแบรนด์ มีความอินดี้จากความเรียบง่าย แต่เน้นเรื่องฟังก์ชันการใช้งาน ชนิดที่มองโปรดักส์เผิน ๆ เรามักจะไม่รู้ว่าแบรนด์ไหน เพราะเขาไม่ค่อยสลักมันลงบนสินค้า ทว่าความเฉพาะเหล่านี้แหละคือเอกลักษณ์ที่ทำให้ไม่ว่าใครที่ได้สัมผัส Muji มักจะจำได้และหลงเสน่ห์จนถอนตัวไม่ขึ้นทุกที
พรรณนาสรรพคุณมามากมายถึงความยืนหนึ่งเรื่องมินิมัล มันเกี่ยวกับเรื่องสถาปัตย์ยังไง เฉลยไปเลยแล้วกันว่านอกจาก Store ขายของกระจุกกระจิกมากมายที่เดินหน้าขยายในหลายประเทศรวมถึงบ้านเราด้วย อีกไลน์ที่ Muji ลงทุนไปคือการสร้างสถาปัตยกรรมที่เราเรียกกันว่า “บ้านสำเร็จรูป”
วันนี้ BuilderNews ขอย้อนรอยเรื่องบ้าน ๆ จากแบรนด์ Muji ให้สาวกและสถาปนิกได้ลองส่องเบื้องหลังแนวคิดที่เรียบง่ายนี้ ว่ามีความเป็นมาและเจ๋งอย่างไรตามลำดับเวลา
บ้าน Muji มายังไง?
เท้าความกันก่อนเรื่องโปรดักส์บ้านของ Muji ที่หลายคนสงสัยว่ามาได้ยังไงทั้งที่ขายของอย่างอื่นแท้ ๆ เหตุผลของการเล่นใหญ่มาลุยเรื่องบ้านได้รับการเปิดเผยจากคุณสุสุมุ ซาโต้ Dwelling Space Operation Division แห่ง MUJI House ว่าเริ่มต้นมาจาก Feedback ของลูกค้าหลายคนที่บอกกับ Muji ว่าอยากให้ทำบ้านให้ แต่กว่าการเสนอนี้จะได้รับการสนอง Muji ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควรกว่าจะสำเร็จออกมาเป็นโครงการบ้านแห่งแรกที่ชื่อ The Window House
2004 : The Window House
“The Window House” ถือว่าเป็นบ้านหลังแรกที่หลุดจาก prototype โครงการบ้านมาขึ้นรูปจริง ซึ่งว่ากันว่ามันเป็นบ้านที่ Muji ใช้ระยะเวลานานถึง 4 ปีในการจัดทำโครงการนี้ให้สำเร็จ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเวลาที่สมน้ำสมเนื้อทีเดียวเมื่อรู้คอนเซ็ปต์ของตัวบ้านที่ยังคงกลิ่นอายความเป็น Muji ไว้ครบถ้วนจากการนำเรื่อง “ความอบอุ่นและความสัมพันธ์ระหว่างคนในบ้าน” มาใช้เป็นพื้นฐานของแนวคิดการออกแบบและได้สถาปนิกระดับโลกชาวญี่ปุ่น Kendo Kuma ที่มาร่วมรังสรรค์
Credit photo by Ryohin Keikaku
ซิกเนเจอร์บ้านหลังแรกของ Muji และเป็นที่มาของชื่อ The Window house หรือบ้านหน้าต่าง มาจากการออกแบบหน้าต่างในบ้านแทนตำแหน่งผนัง เรียกง่าย ๆ ว่าแทนที่จะทำกำแพงทึบกั้นเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว Kendo เลือกใช้หน้าต่างทลายกำแพงนั้น เผยให้เห็นอีกฟากระหว่างทั้ง 2 ด้าน “เปิดมุมมองจากภายใน” แทน ลบภาพจำเก่า ๆ ว่าหน้าต่างมีไว้เพื่อให้เห็นมุมมองภายนอกเท่านั้น
Credit photo by Ryohin Keikaku
คนที่อยู่ในบ้านหลังนี้ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหน ห้องไหนก็ตาม ก็จะรู้สึกเชื่อมโยงกับส่วนอื่นของบ้านด้วยโดยไม่รู้ตัว นี่คืออีกวิธีที่สถาปนิกสร้างสรรค์รูปแบบขึ้นเพื่อกระตุ้นด้านความรู้สึกผูกพันระหว่างทุกพื้นที่ในบ้านกับคนในบ้านอย่างฉลาด
‘บ้านสำเร็จรูป’ หรือ Prefabricated House หลังแรกแห่งนี้ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. ไม่รวมที่ดิน สนนราคาอยู่ที่ 20.9. ล้านเยน หรือราว 7 ล้านบาท นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ลดต้นทุนการก่อสร้างได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันความเป็นบ้านสำเร็จรูปยังมีข้อดีที่เอาใจชาว Millenial ทั้งหลายที่หันมาใส่ใจโลกและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะข้อดีของการจบงานก่อนที่โรงงานมันทั้งลดแรงงาน ความผิดพลาด และลดวัสดุเหลือใช้
2017 : MUJI HUT
ถัดมาจากบ้านหลังแรกทรงสูง 2 ชั้น ขยับมาสร้างความมินิมัลให้ย่อมเยากว่าด้วยการสร้างบ้านชั้นเดียวที่ราคาหั่นลงไปอีกโข (แต่พื้นที่ก็เล็กตาม) ทำให้เหลือราคาต่อหลังอยู่ระหว่าง 750,000 – 1,200,000 บาทต่อหลังไม่รวมที่ดินเพื่อตอบโจทย์สไตล์การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง Muji ได้ตั้งไข่บ้านสำเร็จรูปอีกคร้ังในปี 2015 และวางแผนจำหน่ายมันเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเรียกสไตล์นี้ว่า “MUJI HUT”
Muji Hut หรือกระท่อมของ Muji ได้รับการออกแบบจาก 3 นักออกแบบที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Naoto Fukasawa, Jasper Morrison และ Konstantin Grgic แต่ละหลังมีความเป็นเอกลักษณ์ทั้งดีไซน์และวัสดุตามชื่อผลงาน
WOOD HUT: NAOTO FUKASAWA
กระท่อมหลังแรกนี้มาจากคุณ Naoto Creative Director ของบริษัท MUJI เห็นชื่อคุ้น ๆ แบบนี้เราเคยเขียนไปเมื่อคราวที่แล้วว่าเขาร่วมงานกับ Cotto ดีไซน์เรื่องสุขภัณฑ์เมื่อต้นปี 2019 ชิ้นนั้นเรียกได้ว่าเป็นบางส่วนของตัวบ้าน แต่ถ้าภาพกว้างอย่างบ้านทั้งหลัง ในงบจำกัดแบบมินิมัลเขาจะออกแบบมันอย่างไร เรานำมาให้จาระไนไปพร้อมกัน
บ้านไม้คุมมู้ดอบอุ่นด้วยสีดำและเผยสีน้ำตาลของเนื้อไม้ภายในกับการจัดวางเครื่องเรือนเป็นอย่างชุดโต๊ะเก้าอี้เล็ก ๆ ติดกระจกบานยาวให้รู้สึกโปร่ง ขณะเดียวกันยังได้ฟังก์ชันประหยัดการใช้ไฟฟ้า ส่วนห้องน้ำที่สุดทางเดินยังสามารถใส่อ่างอาบน้ำซึ่งเป็นวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของญี่ปุ่นเข้าไปได้อย่างลงตัว เพราะความ “มินิมัล” ต้องมาพร้อมกับ “การใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย” ครบเครื่องเรื่องฟังก์ชันด้วย
CORK HUT: JASPER MORRISON
จากกระท่อมแนวยาวได้พื้นที่ลดไซส์มาหน่อยให้มินิลงเป็นหลังนี้ ใครที่ไม่ชอบความใสของกระจกแบบ Wood Hut หลังแรกเพราะมองว่าออกจะเยอะเกินไป อยากได้ความเป็นส่วนตัว น่าจะชอบผลงานของ Jasper มากกว่า เพราะเขาลดขนาดของกระจกลงให้เหลือช่วงสั้น ๆ แล้วติดผนังโดยใช้ไม้ที่มีลักษณะเหมือนไม้ Cork ทำให้ได้เสน่ห์ของวัสดุไปอีกแบบ
ทีเด็ดที่น่าสนใจอยู่ที่เรื่องการดีไซน์ให้รักษ์โลกประหยัดพลังงานจากการเจาะหน้าต่างเล็ก ๆ ไว้ให้แสงเข้าบริเวณห้องครัวที่เป็นทีเด็ด ดังนั้น บ้านของ Muji แต่ละหลังจึงใช้ไฟน้อยเพราะเขาคำนวณเรื่องการกระจายแสงและช่องรับแสงธรรมชาติมาไว้หมดแล้ว
ALUMINIUM HUT: KANSTANTIN GRCIC
ปิดท้ายด้วยหลังนี้ ผลงานของ Kanstantin ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้นทรงสูง หน้าแคบ หลังนี้ถือว่าแปลกตาถ้าเทียบกับทุกหลัง แต่น่าสนใจที่คงความ traditional ของญี่ปุ่นไว้ครบ แม้ผนังด้านนอกจะโอบล้อมไว้ด้วยอะลูมิเนียมแวววาว
แค่ทางเข้าแบบประตูสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นแบบเลื่อน ผสมกับการเดินเข้ามาด้านในแล้วพบบันไดลิงให้ปีขึ้นลงแยกระหว่างสองชั้นทำให้เราคิดถึงบ้านญี่ปุ่นสมัยก่อน ใครที่ชอบบ้านแบบมินิมัลแต่อยากแยกสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยชัดเจน หลังนี้น่าจะได้ใจไปเต็ม ๆ แต่มองแล้วอาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้สูงวัยเท่าไหร่ เพราะการปีนขึ้นลงแบบนี้เสี่ยงอันตราย คิดว่าการทำ prototype นี้ขึ้น หลังจากมีคนซื้อแล้วอาจจะมีส่วนที่ต้องปรับเปลี่ยนเรื่องบันไดอีกทีถึงจะเหมาะสม แต่ถ้าใครขาดี ๆ ยังเด็ก ปีนขึ้นลงได้ไม่หน้ามืดน่าจะชอบความโปร่งแบบนี้
หวังว่าจะเต็มอิ่มกับดีไซน์ทั้งหมดนี้ที่เรานำมาฝากกัน แต่ถ้าใครบอกว่ายังไม่มีทุนพอซื้อบ้านแต่อยากสัมผัสความมินิมัลแบบนี้เราแนะนำให้จองตั๋วบินไปพักที่โรงแรม Muji ก่อน จะได้เก็บไอเดียการตกแต่งบ้านกลับมาสร้างแรงบันดาลใจได้
ยิ่งตอนนี้เพิ่งมีข่าวเปิดสาขา 3 ที่ Ginza ด้วยใครบินไปญี่ปุ่นก็อย่าลืมจองที่พักกัน ขอกระซิบบอกก่อนว่า ข้อดีของที่นี่คือจองที่พักราคาเดียวไม่มี High season หรือ Low season ดังนั้นวางแผนเรื่องงบกันได้แบบชิลแน่นอน
อ้างอิงข้อมูล :
https://www.sanook.com/home/17939/
https://www.wallpaper.com/architecture/line-up-for-a-chance-to-live-in-muji-house-prefab#pic_170224
https://www.muji.com/jp/mujihut/
https://readthecloud.co/scoop-muji-house/
http://www.thansettakij.com/content/150462