‘บ้าน’ หนึ่งในปัจจัยสี่ของการดำรงชีวิตของมนุษย์ เป็นสถานที่พักพิงที่ให้ความอบอุ่น เป็นจุดเริ่มต้นของครอบครัว การมีบ้านในฝันสักหลังจึงเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนปรารถนา การสร้างบ้านสักหลังที่สวย มีคุณภาพที่ดี ต้องเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพ พร้อมด้วยกระบวนการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพเจ้าของบ้านแต่ละคนย่อมต้องทุ่มเทแรงใจ เก็บหอมรอมริบ เพื่อมีบ้านสักหลังเพื่อเป็นหลักประกันถึงคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับอนาคตในวันข้างหน้า ดังนั้นเมื่อเลือกจะสร้างบ้านสักหลัง ก็ต้องเลือกผู้สร้างที่ดีด้วยเช่นกัน

การมีบ้านในฝันยังคงเป็นความปรารถนาอย่างหนึ่งของผู้คนในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งผู้ที่จะสร้างวิมานในอากาศให้เป็นความจริงได้ก็คือมืออาชีพในการเนรมิตฝัน ‘PD House’ เป็นหนึ่งในบริษัทรับสร้างบ้านที่สร้างชื่อมายาวนานกว่า 25 ปี ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีก้าวใหม่ในแง่ธุรกิจเพื่อความมั่นคง ‘คุณสิทธิพร สุวรรณสุต’ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เอ่ยถึงความสำเร็จนั้น อันเป็นสิ่งที่ทำให้ชื่อของ PD House ครองใจผู้บริโภคได้ทั้งประเทศ

ในวิกฤติยังมีโอกาส
ผลกระทบในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปีพ.ศ. 2540 ทำให้มีหลายบริษัทอำลาสนามธุรกิจไปอย่างน่าใจหาย ในขณะที่บริษัทซึ่งยังคงอยู่ก็ต้องปรับตัวหลายด้านเพื่อความอยู่รอด ในยุควิกฤติครั้งนั้น PD House มองเห็นโอกาสครั้งใหม่ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์รับสร้างบ้านขึ้นในเวลาต่อมา และประสบความสำเร็จจนถึงวันนี้

1IMG_8691“จุดเปลี่ยนในการทำธุรกิจเกิดจากความตั้งใจของเราเมื่อ 10 กว่าปีมาแล้วนี้เอง ที่ผ่านมาเราค่อนข้างสาหัสจากวิกฤติต้มยำกุ้ง ซึ่งเกือบทำให้เราเกือบไม่ได้กลับมา ทำธุรกิจนี้ ในยุคนั้นเพื่อนร่วมธุรกิจหลาย ๆ รายก็หายไป เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจในปีพ.ศ. 2540 แต่เราสามารถผ่านวิกฤติครั้งนั้นมาได้ จนเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นจึงได้เล็งเห็นว่าเราสามารถขยายธุรกิจให้มันเติบโตขึ้นจากที่เป็นอยู่ได้ และที่ผ่านมาผู้ประกอบการที่แข่งขันกันดำเนินธุรกิจนี้ ส่วนมากมักอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเน้นการทำตลาดและให้บริการเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียงเท่านั้น ตลอดระยะเวลาเกือบ 40-50  ปีที่ผ่านมา แทบไม่มีใครที่คิดจะบุกหรือขยายตลาดออกไปสู่ภูมิภาคอื่น ๆ ในขณะที่ผู้บริโภคทั่วไปนั้นมีความต้องการอยากได้บริษัทรับสร้างบ้านที่มีความน่าเชื่อถือ มีชื่อเสียง มีคุณภาพ แต่ไม่มีใครลงไปทำเลยเป็นที่มาที่ทำให้เราอยากจะทำในส่วนนี้

อีกส่วนหนึ่งก็คือ เราอยากทำให้เค้กก้อนนี้ใหญ่ขึ้น ขยายธุรกิจรับสร้างบ้านให้มีตลาดที่กว้างมากขึ้น ซึ่งสภาพตลาดที่มองเห็นได้ก่อนวิกฤติจะเกิดขึ้นพบว่ามีการแข่งขันกันรุนแรงในหลาย ๆ ด้าน การแข่งขันบางอย่างไม่สร้างสรรค์ มีการโจมตีกัน การตัดราคากันสร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการด้วยกันเองรวมถึงสร้างความเสียหายไปถึงผู้บริโภค ดังนั้นเราจึงอยากทำเค้กก้อนนี้ให้ใหญ่ในมุมมองที่ต่างออกไปด้วยแนวความคิดดังกล่าว เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว PD House จึงเริ่มต้นเป็นผู้ผลักดันให้ผู้ประกอบการมารวมตัวกัน จัดตั้งเป็นสมาคมการค้าขึ้น โดยมีผู้นำทั้งรายใหญ่ รายกลางมาร่วมกัน และเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ด้วยก็ยังเป็นกิจการของใครของมันนโยบายจึงเป็นนโยบายกว้าง ๆ แนวคิดที่เราคิดไว้ก่อนรวมตัวคือ ขยายเค้กก้อนนั้นให้ใหญ่ขึ้น แต่การที่จะทำให้เค้กใหญ่ขึ้นนั้น แต่ละกิจการก็ต้องมีแผนและมีนโยบายที่จะขยายตลาดด้วย ในแง่ของการสร้างการรับรู้นั้น ผู้บริโภคทั่วประเทศรู้ว่ามีบริษัทรับสร้างบ้านที่มีความต่างกับรายย่อย แต่ในแง่ของการให้บริการผู้บริโภคไม่สามารถว่าจ้างได้ เพราะมีขอบเขตและข้อจำกัดของการให้บริการที่จำกัดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล หรือบางส่วนที่สามารถให้ดำเนินการได้ ก็จะมีค่าใช้จ่ายหรือค่าดำเนินการที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็เพิ่มเป็น10-20% จากราคาในกรุงเทพฯ ซึ่งทำให้ผู้ว่าจ้างที่อยู่ไกล ๆ ต้องจ่ายแพงกว่า ซึ่งเรามองว่าสวนทางกับการเติบโต ดังนั้นจึงเป็นที่มาที่ทำให้เราตัดสินใจที่จะขยายตลาด สร้างการรับรู้ และเป็นความตั้งใจที่จะขยายธุรกิจของเราเองด้วย เราจึงขยายสาขาไปยังภูมิภาคอื่น ๆ แต่ด้วยข้อจำกัดของการเป็น SMEs เรื่องของเงินทุน กำลังคน หรือบุคลากร ก็จะไม่สามารถขยายไปได้ทั่วประเทศ เราจึงมองหาระบบที่จะมาช่วยบริหารจัดการ และได้ศึกษาระบบแฟรนไชส์จนเป็นที่มาของระบบแฟรนไชส์รับสร้างบ้านขึ้น

ที่ผ่านมาจะเห็นว่า แฟรนไชส์ถูกใช้ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม คนมักสงสัยว่าเราจะนำมาใช้กับธุรกิจรับสร้างบ้านได้อย่างไร ไม่มีใครนึกภาพออก ในจุดเริ่มต้นเราต้องเข้าไปศึกษาระบบแฟรนไชส์ ซึ่งหัวใจหลักของระบบก็คือ การสร้างมาตรฐาน และการถ่ายทอดองค์ความรู้ เพื่อให้เกิดการแบ่งปันของผู้เป็นต้นแบบกับผู้รับการถ่ายทอด ข้อดีก็คือแผนและนโยบายของเราก็จะเกิดขึ้นได้ ถ้าเราสามารถพัฒนาระบบขึ้นมาได้ ข้อดีของภาครวมธุรกิจสร้างบ้านก็คือ ผู้ประกอบการรายใหม่สามารถเข้ามาในตลาดได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องลอผิดลองถูกอย่างเราที่ทำธุรกิจมาใช้ระยะเวลาถึง 20 ปี แต่เข้ามาภายใต้องค์ความรู้ แนวคิด และชื่อเสียงที่ PD House ส่งมอบให้ ในฐานะของผู้รับสิทธิ์จากเราแล้วเซ็ตอัพระบบการจัดการของเรา โดยศึกษาไปและค่อย ๆ คิดวิธีการ อันที่จริงความสำคัญของธุรกิจของเราอยู่ที่จะทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิ์จาก PD House ไปแล้วสามารถทำธุรกิจได้เหมือน PD House รวมถึงทำอย่างไรจะป้องกันไม่ให้เขาทำโดยออกนอกมาตรฐานที่เรากำหนดไว้ นั่นคือเป็นหน้าที่ของเราที่จะสร้างระบบขึ้นมาเพื่อป้องกันให้ไม่เกิดปัญหาภายหลัง ซึ่งสิ่งนี้รองรับโดยมีการสร้างคู่มือการบริหารธุรกิจและการปฏิบัติงาน สร้างคู่สัญญา สร้างระบบการทำงานต่าง ๆ รวมถึงมีแผนธุรกิจและแผนการตลาดอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้เรายังต้องมองเรื่องของเงินทุน เป็นต้นว่า ผู้ประกอบการต้องมีเงินทุนเท่าไหร่ และคืนทุนเมื่อไหร่ เงินทุนที่ลงมานั้นกับการคืนทุนคุ้มค่ากับการทำธุรกิจหรือไม่

หลังจากที่เราเซ็ตอัพระบบเสร็จ เราก็เริ่มทำการประชาสัมพันธ์ว่า PD House พร้อมแล้วที่จะเป็นผู้ให้สิทธิ์เป็นเจ้าขององค์ความรู้ ให้สิทธิ์แบรนด์ PD House ที่จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการหรือนักลงทุนรายใหม่ที่จะเข้ามาทำธุรกิจนี้ โดยเริ่มต้นอย่างมืออาชีพ แปลความก็คือเข้ามาทำธุรกิจโดยใช้ทางด่วน เข้ามาอย่างมืออาชีพ ไม่ต้องลองผิดลองถูก และไม่ต้องไปเผชิญกับปัญหา เพราะเรามีทางด่วนให้เลือกเดิน รูปแบบของการทำธุรกิจเราจะมีการวางว่าจะต้องการเงินลงทุนในธุรกิจจริงจะไม่มีการจับเสือมือเปล่า โดยเราจะมีระบบการตรวจสอบ และสำคัญที่สุดคือจะไม่ให้มีการแข่งขันกันเองในพื้นที่ทับซ้อน แปลว่าผู้ที่ได้รับสิทธิ์ไปก็จะได้รับสิทธิ์ในพื้นที่นั้นหรือจังหวัดนั้นไป โดยไม่ให้เกิดพื้นที่ทับซ้อน เพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันกันเอง ซึ่งเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่งกับธุรกิจของเราที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เรามีสาขาขยายออกไปครอบคลุมทั่วประเทศ”

1IMG_8674

ก้าวใหม่ที่รอวันเติบโต
การสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่โดยระบบแฟรนไชส์รับสร้างบ้าน นอกจากจะทำให้ชื่อเสียงของ PD House เป็นที่รู้จักระดับประเทศมากขึ้น แล้วการเติบโตของบริษัทก็ยังเป็นเสมือนดอกผลแห่งความสำเร็จที่สัมผัสได้จริงรวมถึงเป็นกำลังใจสู่การเดินไปในก้าวใหม่เพื่อความยั่งยืนขององค์กร ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสอันดีที่จะขยายผลองค์ความรู้ที่มีในวงกว้าง อย่าง ‘บ้านอนุรักษ์พลังงาน’ ก็เป็นหนึ่งผลงานที่เป็นความภาคภูมิใจ

“เมื่อ 15 กว่าปีก่อน ทั่วโลกตื่นตัวเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนกันมาก แต่ตอนนั้นบ้านเรายังไม่ตื่นตัวเท่าไหร่นัก ณ ตอนนั้นเราก็เหมือนผู้ประกอบการรายอื่นที่เน้นเพียงบริการครบวงจร แต่ยังไม่มีจุดยืนในธุรกิจ ไม่มีจุดยืนของสินค้าหรือแบรนด์ของเราเอง แต่นั่นก็เป็นจุดที่ทำให้ PD House ค้นหาตัวเองไปด้วย จุดหนึ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากคู่แข่งตอนนั้นก็คือ
เราศึกษาเรื่องแนวคิด แนวโน้ม และเทคโนโลยีเกี่ยวกับการสร้างบ้าน ซึ่งค่อนข้างจะเป็นผู้นำในการนำอะไรใหม่ ๆ มาใช้ และเมื่อได้รู้จักคำว่าภาวะโลกร้อน ก็ได้ศึกษาและมองเห็นแนวโน้มว่าในอนาคตเรื่องนี้จะมีผลต่อสังคมโลก โลกจะต้องกล่าวถึงและรณรงค์มากขึ้น นั่นเป็นที่มาให้เราศึกษาต่อไปยังภาคผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างที่เริ่มมีการตื่นตัว และผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ในขณะนั้นราคาก็ยังค่อนข้างสูงกว่าสินค้าที่มาจากธรรมชาติ เมื่อ15 ปีก่อน ไม้สังเคราะห์จะมีราคาที่แพงกว่า เช่น ไม้ลามิเนตเมื่อเทียบต่อตารางเมตรแล้วราคาจะสูงตั้งแต่ 30% ถึงเท่าตัว แล้วบางอย่างเราก็ไม่สามารถผลิตได้เอง ต้องนำเข้าวัสดุต่าง ๆ ที่ผลิตมาเพื่อเป็นฉนวนกันความร้อน ยกตัวอย่างคอนกรีตมวลเบา หรืออิฐมวลเบาที่ใช้แทนอิฐมอญก็มีราคาต่างกันเป็นเท่าตัว ฉะนั้นใครที่คิดทำเรื่องนี้ในตอนนั้นก็จะมีภาระต้นทุนที่สูงกว่าผู้ประกอบการรายอื่น แต่เมื่อศึกษาดูแล้วพบว่าทั้งตลาดยังไม่มีใครเล่นเรื่องนี้ และในเมื่อเรามองแนวโน้มและทิศทางของตลาดจะไปในแนวทางไหน รวมถึงเชื่อว่าผู้บริโภคในอนาคตจะเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเราจึงศึกษาและเริ่มต้นอย่างจริงจัง เราจะเป็นหนึ่งเดียวที่ไม่เหมือนใคร แล้วตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ตรงจุด ถึงแม้ในช่วงแรก ๆ จะเป็นเพียงกลุ่มเล็ก ๆ ก็ตาม

ที่ผ่านมาเราค่อนข้างพอใจ หากมองว่าคนกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มนั้นคือกลุ่มที่มองกลับมาที่เรา ในการที่จะทำให้เราอยู่ในธุรกิจนี้ต่อไปแบบยั่งยืน เราจะไม่แข่งขันแบบทั้งตลาดเป็นของเรา แต่เราจะเลือก Segment ของเราแล้วก็เริ่มต้นพัฒนา ตั้งแต่การออกแบบ การเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง กระบวนการก่อสร้าง จนระยะหลังภาครัฐก็มาหันสนับสนุน โดยจัดให้มีโครงการประกวดบ้านอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งเราได้เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการจากหลายรายที่อยากจะสื่อสารกับผู้บริโภคและภาครัฐ โดยได้ส่งผลงานการออกแบบ ผลงานการก่อสร้างบ้านและอาคารเข้าร่วมกับภาครัฐ ซึ่งจัดโดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2552 PD House ส่งผลงานเข้าไปให้ตรวจสอบว่าผลงานของเราเข้าเกณฑ์บ้านอนุรักษ์พลังงานหรือไม่ และที่ผ่านมาเราก็ได้โล่รางวัล และประกาศเกียรติคุณมาถึง 3 ครั้ง รวมเบ็ดเสร็จ 26 รางวัล เป็นความภูมิใจและเป็นเครื่องยืนยันได้ถึงทิศทางที่เราเดินมา ปัจจุบันลูกค้าก็พูดถึงเรื่องนี้มากขึ้นและเดินเข้ามาหาเราโดยตรง”

ในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านของ PD House ความสำเร็จจึงเป็นเรื่องของการศึกษาในสิ่งใหม่อย่างจริงจัง ซึ่งคุณสิทธิพรกล่าวว่าเป็นเรื่องคุ้มค่าที่จะให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ เนื่องจากมีผลต่อความก้าวหน้าที่ยั่งยืน

“อย่างที่เรียนว่าเราเคยอยากให้เค้กก้อนนี้ใหญ่ขยายและเติบโตไปทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องยากพอสมควรกับผู้ประกอบการด้วยกันเองในระยะเริ่มต้น อาจจะด้วยแนวคิดหรือทุน รวมถึงอาจจะยากด้วยการบริหารจัดการ เช่นว่าทุกรายที่ตั้งใจอยากจะขยายธุรกิจได้อย่างที่เราขยายแต่ปรากฏว่าข้อเท็จจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น เนื่องจากข้อจำกัดของแต่ละรายที่แตกต่างกัน แต่นั่นก็ทำให้เราเรียนรู้การหยิบเอาปัญหาเหล่านั้นมาคิดวิธีการใหม่แล้วสร้างวิธีการใหม่ ซึ่งพิสูจน์ว่าเราสามารถเอาชนะอุปสรรคแล้วก็ไปสู่ความคาดหวังและเป้าหมายได้ ในวันนี้แม้รายเก่าจะไม่ได้เติบโตขยายออกไป แต่เราก็สร้างรายใหม่ขึ้นมารวมไปถึงมีผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ในภูมิภาค ซึ่งก่อนหน้านี้ก็แสดงตนเป็นเพียงผู้รับเหมาก่อสร้าง ปัจจุบันก็พัฒนาตัวมาเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน แข่งขันกันแบบสร้างสรรค์ มีรูปแบบ มีบริการแบบครบวงจรเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในทุก ๆ จังหวัด และในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

ในวันที่ PD House สามารถสร้างคำว่า ‘ศูนย์รับสร้างบ้าน’ ทั่วประเทศก็ทำให้เกิดศูนย์รับสร้างบ้านในชื่ออื่น ๆ หรือแบรนด์อื่น ๆ ทั่วภูมิภาคมากขึ้น จากเดิมที่จะเรียกตัวเองว่าเป็น ‘บริษัทรับสร้างบ้าน’ ปัจจุบันผู้ประกอบการทุกรายที่ก้าวสู่ธุรกิจนี้ก็เรียกตัวเองว่าเป็นศูนย์รับสร้างบ้าน เราได้เห็นว่าเรามีส่วนทำให้ตลาดพลิกไปในทิศทางเดียวกัน ก็เหลือแค่เพียงว่าการแข่งขันจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันได้ตลอดไปเพียงใด หากมองในวันนี้ประเทศไทยเข้าสู่ AEC แล้ว ธุรกิจของเราสามารถเติบโตได้อีก เป็นผู้ประกอบการที่เป็นธุรกิจส่วนตัว วันหนึ่งอาจจะสามารถก้าวสู่การเป็นธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ได้ ทั้งนี้ก็มีภาวะเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญด้วย แต่นั่นก็เป็นแผนธุรกิจในภาคต่อไปที่ PD House ตั้งใจจะเดินไปให้ถึง ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเป้าหมายของเรา”

นิตยสาร Builder Vol.30

Previous articleโครงสร้างข้อกำหนดของเกณฑ์ประเมินอาคารเขียว LEED สำหรับอาคารเก่า
Next articleDulux Ambiance สีเอฟเฟคเพิ่มมิติหลากสัมผัส
นะโม นนทการ
หรือ ธนสัติ นนทการ นักเขียนนิตยสาร Builder อดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสารเกี่ยวกับสุขภาพ ที่ผันตัวเองมาเป็นนักเขียนอิสระ ปัจจุบันร่วมงานกับนิตยสารหลากหลายฉบับ