ฮาบิแทท กรุ๊ป การันตีคุณภาพส่ง 2 โครงการ Best Western Premier BayPhere Pattaya (เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เบย์เฟียร์ พัทยา) และ X2 Vibe Pattaya Seaphere (ครอสทู ไวบ์ พัทยา ซีเฟียร์) คว้ารางวัล Highly Commended สาขา Best Residential Interior Design ในงาน Thailand Property Awards 2016
ฮาบิแทท เดินหน้าตอกย้ำความสำเร็จ เผยโครงการ X2 Vibe Pattaya Seaphere (ครอสทู ไวบ์ พัทยา ซีเฟียร์) สามารถปิดยอดขายได้ 100% มั่นใจผลงานเรียกความเชื่อมั่นจากลูกค้า คาดโครงการ Best Western Premier BayPhere Pattaya (เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เบย์เฟียร์ พัทยา) จะปิดยอดขายได้ในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน
นับเป็นปีแรกของ ฮาบิแทท กรุ๊ป ในการส่งผลงานเข้าประกวด Thailand Property Awards 2016 ซึ่งจัดขึ้นโดย “บริษัท พร็อพเพอร์ตี้กูรู อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด” เพื่อมอบรางวัลให้กับบริษัทผู้ประกอบการธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศไทย และสามารถคว้ารางวัลได้สำเร็จ โดย นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฮาบิแทท กรุ๊ป หนึ่งในผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า “นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทฯอย่างมาก เพราะเป็นปีแรกในการส่งผลงานเข้าประกวด Thailand Property Awards 2016 และสามารถคว้ารางวัลระดับ Highly Commended สาขา Best Residential Interior Design จากโครงการ Best Western Premier BayPhere Pattaya (เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เบย์เฟียร์ พัทยา) และ X2 Vibe Pattaya Seaphere (ครอสทู ไวบ์ พัทยา ซีเฟียร์) ได้เป็นผลสำเร็จ
ซึ่งทั้ง 2 โครงการข้างต้นต่างได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมาย ณ วันนี้เราสามารถปิดยอดขายได้ 100% แล้วสำหรับโครงการ X2 Vibe Pattaya Seaphere (ครอสทู ไวบ์ พัทยา ซีเฟียร์) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างซึ่งคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2560
ในขณะที่โครงการ Best Western Premier BayPhere Pattaya (เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เบย์เฟียร์ พัทยา) ก็มียอดขายเดินหน้าไปกว่า 50% เช่นกัน โดยเฉพาะโครงการหลังนี้นับว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะด้วยจุดเด่นของโครงการฯ ทำเลที่ตั้งระดับคุณภาพติดชายหาด ซึ่งเป็นที่ดินผืนสุดท้ายของริมหาดนาจอมเทียน ในขณะเดียวกันยังมีปัจจัยบวกอื่น ๆ ทั้งด้านการขยายตัวเมือง, ระบบการขนส่ง ฯลฯ ให้ความเป็นส่วนตัวไม่หนาแน่นจนเกินไป ด้วยขนาดพื้นที่รวม 1 ไร่ ถูกพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรซ์ (Low Rise) สูง 8 ชั้น จำนวนห้องเพียง 174 ยูนิต
อีกทั้งส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในโครงการ (Facilities) ก็สามารถเทียบเท่าได้กับโครงการขนาดใหญ่ โดยปัจจุบันราคาห้องเริ่มต้นอยู่ที่ 3.3 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณ 110,000 บาทต่อตารางเมตร
พร้อมกันนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าเราได้ดึงเชนจากอเมริกา โรงแรม Best Western Premier มาเป็นผู้บริหารงานโครงการ BayPhere Pattaya และแบรนด์โรงแรมลักชัวรี่ X2 Resorts มาบริหารโครงการ X2 Vibe Pattaya SeaPhere โดยใช้ระบบการจัดการแบบ Rental Management ด้วยข้อเสนอผลตอบแทนระยะยาวโดยการการันตีค่าเช่า 7% ต่อปี เป็นระยะเวลานานถึง 5 ปี และหลังจากปีที่ 5 แบ่งผลตอบแทนกำไร 60% ให้แก่เจ้าของห้องหรือนักทุน”
“เรามั่นใจว่าด้วยความโดดเด่นของโครงการ, การดึงทีมงานมืออาชีพมาช่วยในเรื่องการบริหาร และข้อเสนอด้านแผนการลงทุนที่คุ้มค่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเราอย่างแน่นอน ทั้งนี้โครงการ Best Western Premier BayPhere Pattaya (เบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เบย์เฟียร์ พัทยา) เริ่มก่อสร้างไตรมาสสองปี 2017 และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาสสี่ของปี 2018” นายชนินทร์ กล่าวทิ้งท้าย